01 Jan 2016
Review

รีวิว Sherwood R-507 และ Klipsch HD Theater 600 เซ็ตสุดประหยัด ได้อารมณ์ไม่แพ้การรับชมในโรงภาพยนตร์


  • raweepon

หลังจากที่เว็บไซต์ HOMETHEATERTHAILAND ของเราได้รีวิวชุดโฮมเธียเตอร์เพื่อเอาใจท่านที่นิยมรับชมภาพยนตร์ภายในบ้านไปเมื่อไม่นานที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้น “คุณ Boomerang” ได้นำเอา Sherwood R-607 และ Klipsch Quintet V มาจับคู่กัน ซึ่งทั้งสองแบรนด์นั้นเป็น AV Receiver และชุดลำโพงสัญชาติอเมริกาทั้งคู่ สำหรับชุดนั้นถ้าหากเป็นผู้ใช้มือใหม่ที่กำลังหาชุดซิสเต็มไว้ดูภาพยนตร์ที่บ้านสักชุดอาจจะรู้สึกว่าราคาค่อนข้างสูงไปเล็กน้อย มาในวันนี้กระผมจึงมีตัวเลือกมาให้ผู้ใช้มือใหม่และมือเก่าได้รับชมกัน

Sherwood R-507 + Klipsch HD Theater 600
ราคา 44,900 บาท (พิเศษ! โปรโมชั่น 21,900 บาท)

สำหรับชุดที่กระผมจะนำมารีวิวให้ได้รับชมกันนั้นยังคงเป็นชุดซิสเต็มจากแบรนด์ดังเจ้าเดิมทั้งคู่ “นั่นคือ Sherwood โดยเซ็ตนี้ต้องขอจับคู่สุดประหยัดระหว่าง Sherwood R-507 และ Klipsch HD Theater 600 ซึ่งทั้งคู่นี้เมื่อนำมาเข้าคู่กันแล้วต้องมาพร้อมกับความสามารถและคุณภาพที่ไม่ต่างกันอย่างแน่นอน ทั้งนี้จะว่าต่างหรือไม่ต่างคงยังจะมิสามารถฟันธงได้ ณ จุดนี้ จึงเป็นเหตุที่ทำให้เราต้องมารีวิวและทดสอบกัน

โดยตัวของ Sherwood R-507 จะเป็น AV Receiver ตัวเล็กแต่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับคุณสมบัติในการรองรับระบบเสียงได้มากถึง 5.1 แชนแนลและรองรับภาพ 3 มิติ ส่วนของชุดลำโพง Klipsch HD Theater 600นั้นจะประกอบไปด้วยลำโพงทั้งหมด 6 ตัวได้แก่ ลำโพง Front Left-Right, Surround Left-Right, Center และลำโพง Subwoofer แบบ Active หรือมีภาคขยายในตัวนั่นเอง

Design – การออกแบบ

จากที่ได้พาคุณผู้อ่านไปไล่ดูรายละเอียดอย่างคร่าวๆ ของทั้งตัว Sherwood รุ่น R-507 และชุดลำโพง 5.1 แชนแนลจาก Klipsch รุ่น HD Theater 600  ว่าภายในเซ็ตนี้จะประกอบด้วยอะไรบ้างกันไปแล้ว ซึ่งกระผมคิดว่าคุณผู้อ่านหลายๆ ท่านต้องอยากไปดูประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของชุดนี้กันแล้วใช่ไหมล่ะ?

โดยก่อนอื่นกระผมต้องขอพาคุณผู้อ่านมาดูกันที่ส่วนของดีไซน์ว่าจะสวยงามและน่านำไปใช้งานมากน้อยเพียงใด ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มแกะกล่องกันได้ ณ บัด Now!

ด้านหน้าของ Sherwood รุ่น R-507

โดยหน้าตาของ AV Receiver จะมีลักษณะคล้ายแผ่นอะคริลิคมาในโทนสีดำ และตัวบอดี้ทำมาจากวัสดุอะลูมิเนียมสีดำ ในส่วนของฝาครอบด้านบนจะมีแผ่นพลาสติกสีดำปิดบริเวณนั้นอยู่ เพื่อป้องกันเวลาที่เราใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ อาจจะเกิดความร้อนสะสมแล้วมือของเราอาจจะไปสัมผัสเอาได้นั่นเอง ทั้งนี้ที่ด้านหน้าของ SherwoodR-507 ยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลอีกด้วย

มุมด้านหน้าซ้ายของ Sherwood R-507 จะมาพร้อมกับปุ่ม Volume Knob สำหรับเลือก Input Selection ส่วนด้านบนใกล้ๆ กับบริเวณโลโก้ของ Sherwood จะเป็นปุ่ม Power เปิด-ปิด ตัวเครื่อง
ขยับมาที่ด้านขวาที่เป็นส่วนของ Master Volume ที่เอาไว้ใช้สำหรับปรับระดับเสียงโดยเฉพาะ ส่วนที่ขอบด้านบนจะมีการสกรีนบอกไว้ว่าตัวเครื่องมีจุดเด่นในด้านใดบ้าง
นอกจากนี้ที่บริเวณใกล้ๆ กันกับปุ่ม Volume ปรับระดับเสียงก็ยังมีพอร์ต USB มาให้อีก 1 พอร์ต ซึ่งรองรองรับการชาร์จไฟให้กับเครื่องเล่น MP3 ได้ในตัวด้วยกำลังในการจ่ายไฟ 5V ที่ 500mA และรองรับการเล่นไฟล์เพลง MP3/WAV/WMA/AAC อีกด้วย

ส่วนหน้าตาของรีโมตคอนโทรลมาจะเป็นสีดำเข้ม มาพร้อมกับการจัดเรียงปุ่มกดอย่างเป็นระเบียบและมีลักษณ์เหมือนกับ Sherwood R-607 ที่ “คุณ Boomerang” ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้

ถัดจากส่วนของดีไซน์ที่อยู่บนตัว Sherwood R-507 มาดูกันที่ดีไซน์ของชุดลำโพง 5.1 แชนแนลที่จะมาถ่ายทอดน้ำเสียงที่ถูกขับมาจาก AV Receiver กันต่อ โดยภายในชุดนี้ได้เลือกจับคู่เข้ากับ Klipsch HD Theater 600 ที่มีขนาดพอตัว และสามารถแขวนเข้ากับผนังได้อย่างลงตัว

ลำโพงหลักทั้ง Front Left-Right และ Surround Left-Right จะมีหน้าตาเหมือนกัน หรือพูดง่ายๆ เลยคือมันเป็นรุ่นเดียวกัน

ไม่ว่าจะเป็นลำโพงไดรเวอร์ทวีตเตอร์ Aluminum ขนาด 0.75 นิ้ว จำนวน 1 ตัว ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี MicroTractrix® Horn ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Klipsch ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฟังสัมผัสถึงย่านเสียงสูงๆ ได้อย่างชัดเจน และมีไดรเวอร์มิดเรนจ์ขนาด 2.5 นิ้ว จำนวน 1 ตัว ที่ช่วยให้สามารถถ่ายทอดเสียงในย่านความถี่ต่ำได้อย่างสมบูรณ์

สำหรับตัวบอดี้ของลำโพงไม่ว่าจะเป็น Front Left-Right, Surround Left-Right และลำโพง Center ทั้งหมดได้รับการขึ้นรูปมาจากพลาสติก ABS อย่างดีรับรองได้เลยว่ามาพร้อมกับความแข็งแรงและทนทานอย่างแน่นอน นอกจากนี้ที่บริเวณของผิวบอดี้จะมีความมันเงาในสไตล์ Glossy

โดยที่ด้านหลังของลำโพงจะมีช่องที่เอาไว้สำหรับไขน็อตแขวนกับผนัง ส่วนของช่องเสียบสายลำโพงจะเป็นแบบสปริงหนีบที่ค่อนข้างเล็กอยู่พอสมคร ถ้าหากต้องการอัพเกรดสายลำโพงอาจจะต้องกะขนาดของสายให้พอเหมาะสักเล็กน้อย
ที่บริเวณด้านหน้าของลำโพงจะมีหน้ากากครอบไว้เพื่อป้องกันตัวไดรเวอร์มาตั้งแต่แรก ถ้าหากลองค่อยๆ แกะออกจะพบว่ามันสามารถถอดได้ ซึ่งกระผมเห็นตอนแรกแอบคิดอยู่ว่ามันจะแกะได้ไหม? สุดท้ายแล้วก็แกะได้นะ
หน้าตาของลำโพง Center จะมาในลักษณะแนวนอนและยาวกว่าลำโพงทั้ง 4 ตัวที่ได้พูดไปก่อนหน้านี้ โดยส่วนของหน้ากากครอบลำโพงสามารถแกะออกได้เช่นกัน
เมื่อแกะฝาครอบลำโพงออกจะพบว่าตัวของลำโพง Center มีการใช้ไดรเวอร์ชนิดเดียวกันกับFront Left-Right และ Surround Left-Right แต่จะแตกต่างกันที่ใช้ไดรเวอร์มิดเรนจ์มากถึง 2 ตัว ในส่วนของไดรเวอร์ทวีตเตอร์ยังคงใช้เพียงแค่ตัวเดียวเท่ากับลำโพงตัวอื่นๆ