Pioneer แบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังจากญี่ปุ่นที่เพิ่งจะทำการควบรวมกิจการเข้ากับ Onkyo กันไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อไม่นานมานี้ โดยจุดประสงค์หลักคือการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อที่จะได้เสริมเขี้ยวเล็บให้กับผลิตภัณฑ์ของทั้งสองแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพแข่งขันในตลาดได้อย่างยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น
สำหรับสินค้าตัวนี้นับว่าเป็นตัวเบิกฤกษ์รีวิวของเว็บเราเลยก็ว่าได้ โดยชุดโฮมเธียเตอร์ที่ผมจะมารีวิวในวันนี้ก็คือ Pioneer MCS-737 บลูเรย์โฮมเธียเตอร์ที่มาพร้อมกับระบบเสียงแบบ 5.1 แชนแนล พูดง่ายๆ ว่ามันคือ Home Theater In a Box อย่างแท้จริงไม่ผิดดีเอ็นเอ เพราะแค่แกะกล่องมาต่อเข้ากับจอทีวีก็พร้อมที่จะมอบประสบการณ์ความเมามันส์ได้ทันที
รายละเอียดของ MCS-737
– ระบบเสียงรอบทิศทาง 5.1 แชนแนล
– ตัวถอดรหัสเสียง DTS-HD Master Audio และ Dolby TrueHD
– รองรับการเล่นแผ่นบลูเรย์ 3D
– มี HDMI In 4 ช่อง และ Out 1 ช่อง
– รองรับการเล่นไฟล์ผ่านทางช่อง USB
– รองรับการควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่น Pioneer Control (iOS, Android)
– ติดตั้งแอปพลิเคชั่น YouTube และ Picasa มาในตัว
ราคา 15,990 บาท
Design – การออกแบบ
โทนสีโดยรวมของซิสเต็มนี้จะเป็นสีดำสนิท โดยเล่นกับความมันวาวในแต่ละชิ้นส่วนของอุปกรณ์แทนเพื่อให้ตัวเครื่องดูดี สำหรับจุดแรกที่จะมาดูงานออกแบบกันก็เริ่มจากเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์ตัวเมนยูนิตก่อนเลยละกันครับ
เครื่องเล่นถูกออกแบบมาให้คล้ายคลึงกับบรรดาเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์รุ่นทั่วๆ ไปของทาง Pioneer โดยมีความพิเศษที่ตัวปรับเสียงแบบหมุนด้านขวามือที่เพิ่มเข้ามา เนื่องจากมันทำหน้าที่เป็นทั้งเครื่องเล่นแผ่นและแอมป์ขยายเสียงในตัวเดียวกันนั่นเอง
ด้านบนเป็นลำโพงเซ็นเตอร์ไซส์กระทัดรัด ความยาวประมาณ 23 ซม. ตะแกรงหน้าเป็นอะลูมิเนียมสีดำไม่สามารถถอดได้ ตัวตู้เป็นพลาสติกเนื้อแข็งสีดำด้าน อ่านคู่มือดูสเปคของไดร์เวอร์กำลังขับ 170 วัตต์ ทุกแชนแนล ไม่ระบุขนาด หากพิจารณาด้วยตาเปล่าคิดว่าน่าจะเพียงพอสำหรับห้องขนาดประมาณ 30 ตร.ม.
ตัวลำโพงทาวเวอร์มีขนาดความสูงประมาณ 1.1 เมตร โดยจะแยกชิ้นส่วนมา 3 ท่อนในกล่องบรรจุ ตรงนี้ขอชมคนออกแบบบรรจุภัณฑ์ของ Pioneer จริงๆ ที่สามารถยัดเสาขนาดนี้เข้ามาในกล่องใบกระจิ๋วได้ โดยทั้งสามท่อนจะยึดติดกันด้วยน็อตสกรูหัวแฉก แน่นอนครับทั้งคู่หน้าและเซอร์ราวด์มีขนาดเท่ากัน และกำลังขับ 170 วัตต์ เช่นเดียวกัน
Connectivity – ช่องต่อ
แม้ว่าจะเป็นชุดโฮมเธียเตอร์ที่ไม่ได้ใหญ่โต แต่ก็ให้ช่อง HDMI In มามากถึง 4 ช่องด้วยกัน พร้อมสำหรับนำไปต่อพ่วงอุปกรณ์อื่นๆ อีกมามาย อาทิ เครื่องเกมคอนโซล, HD Player หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ สร้างความยืดหยุ่นให้กับการใช้งานสุดๆ นอกจากนี้ยังมีช่อง Audio Analog In, ช่องเสียบสายแลน, ช่อง USB, ช่องเสียบเสาอากาศสำหรับ FM และ AM สุดท้ายทางด้านซ้ายมือคือช่องเสียบสายลำโพงที่ได้ทำการแปะสีเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่มีเสียบผิดแน่นอน
ด้านหน้าประกอบด้วยช่องเสียบไมโครโฟนสำหรับใช้งานแบบคาราโอเกะ, ช่อง 3.5 มม. สำหรับอินพุตบรรดาเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาต่างๆ และช่อง USB อีกหนึ่ง โดยต้องเปิดกรอบด้านล่างออกมาถึงจะเจอช่องพวกนี้ครับ