25 Jul 2017
Review

รีวิว KEF LS50 Wireless คู่เดียวจบทั้งระบบ เชื่อมต่อครบครัน ให้เสียงสมจริงระดับ Studio Monitor


  • lcdtvthailand

Fully Active Speaker System

KEF LS50 Wireless

ราคา 89,900 บาท

ด้วยความตั้งใจที่จะผลิตลำโพงมอนิเตอร์ที่ดีที่สุดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ KEF โดยอิงมาตรฐานจากลำโพงรุ่นตำนาน LS3/5A ที่มีความโดดเด่นด้านเสียงย่านกลาง ให้เสียงพูดได้สมจริง ถูกนำมาใช้เป็นลำโพงมอนิเตอร์สำหรับอ้างอิงเสียงในการออกอากาศของสถานีวิทยุ BBC ประเทศอังกฤษ สร้างชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก KEF จึงสานต่อประวัติศาสตร์เหล่านี้ด้วยการผลิตลำโพงรุ่น LS50 ขึ้นมา

ในช่วงแรกนั้น LS50 ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด ภายหลังได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ถูกเรียกร้องให้นำผลิตอีกครั้ง จนกลายเป็นไลน์อัพหลักของ KEF อย่างที่เห็นในปัจจุบัน แต่แน่นอนว่าเทคโนโลยีด้านเสียงมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน รวมถึงเทรนด์การฟังเพลงเองก็ด้วย จากการฟังผ่านเครื่องเล่น ก็เปลี่ยนเป็นสตรีมมิ่งแบบไร้สาย ไม่ต้องใช้เครื่องเล่นใด นั่นทำให้ KEF เกิดความคิดที่จะ อัพเกรด ลำโพง LS50 ให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งานให้เท่าทันยุคสมัย

KEF LS50 Wireless มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี

จาก LS50 ขยับมาสู่ LS50 Wireless ลำโพงแอคทีฟกำลังขับ 230W ทาง KEF ยังคงนิยามด้านเสียงที่ต้องการถ่ายทอด เสียงที่ถูกต้องตามความเป็นจริง เอาไว้ และเพิ่มเติมคุณสมบัติการใช้งานแบบไร้สาย ตอบรับกระแสสตรีมมิ่งที่กำลังแพร่หลายอยู่ ณ ขณะนี้ รวมถึงบิลต์อินแอมป์มาในตัว เพื่อลดสัดส่วนของซิสเต็ม ไม่ต้องต่อนู่นต่อนี่ แค่ลำโพงคู่เดียวจบ แต่จะจบได้จริงหรือไม่ มาร่วมทดสอบกันไปพร้อมๆ กันเลย…

Design – การออกแบบ

มาดูที่รูปลักษณ์ภายนอกกันก่อน หน้าตาถอดแบบมาจาก LS50 แทบจะ 100% มองผ่านๆ อาจจะแยกไม่ออก ตัวลำโพงมีขนาด 300 x 200 x 308 มม. (กว้าง x สูง x ความลึก) น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ประมาณ 10 กก. (ลำโพงฝั่งขวาจะหนักกว่าเล็กน้อย) ตู้ลำโพงเป็นสีแบบ Glossy ให้ความมันวาว แต่ด้านหน้านั้นจะเป็นผิวด้าน โค้งนูนยื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นทรง 4 เหลี่ยมตรงๆ แบบลำโพงทั่วไป เพื่อลดการสะท้อนจากดอกลำโพง มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา-แดง, สีดำ-ฟ้า และสีขาว-ทองแดง

เห็นความแตกต่างไหม มีอะไรเพิ่มเติมจากรุ่น LS50 บ้าง

ขึ้นชื่อว่า KEF ดอกลำโพงก็ต้องเป็น Uni-Q แน่นอนอยู่แล้ว ออกแบบเฉกเช่น LS50 ตั้งอยู่ใจกลางวูฟเฟอร์เพื่อให้ขับเสียงออกมาจากจุดเดียวกัน ครอบด้วยโดมแฉกแบบ Tangerine Waveguide ช่วยกระจายเสียงให้มีความสมดุลย์ ให้เสียงย่านสูงได้แบบเหนือๆ พีคสุดมากถึง 47kHz วูฟเฟอร์เป็นแม็กนีเซียม/อะลูมิเนียมอัลลอย ขนาด 5.25 นิ้ว ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง ตอบสนองเสียงย่านต่ำได้ลึกถึง 40Hzขอบวูฟเฟอร์มีลอนนูนเป็นระยะ เรียกว่า Z-Flex เพื่อควบคุมสมดุลย์เสียงให้ประสานกับ Uni-Q นั่นเอง ที่ต้องรวมกันไว้จุดเดียวเช่นนี้ ทาง KEFให้เหตุผลว่า ต้องการขับทุกความถี่เสียง จากจุดกำเนิดเดียว เหมือนเสียงพูดที่ออกจากปาก

จุดวงกลมเล็กๆ ใต้ดอกลำโพงคือเซ็นเซอร์รับสัญญาณจากรีโมท

ด้านหลังของ LS50 Wireless จะต่างจาก LS50 ที่ด้านหลังเรียบเนียนเป็นอย่างมาก เพราะรุ่นนี้แผง Heat Sink ยื่นออกมาเล็กน้อย ออกแบบให้เป็นคลื่นหยัก เพื่อลดการสะท้อนจากกำแพง มีท่อคายเบสรูปทรงวงรีอยู่ทางด้านหลัง ซึ่งตัวท่อคายเบสนั้น หากลองล้วงไปจับจะพบว่านุ่มนิ่มคล้ายนวม ผิดแปลกจากทั่วไปที่เป็นท่อแข็ง

ด้านหลังก็ดูหรูหราสวยงาม ช่องต่อจัดเรียงเรียบร้อย

ลำโพงคู่นี้มีช่องต่อสายไฟแบบ IEC ทางด้านหลัง สะดวกต่อการอัพเกรดสายไฟ ทั้งสองฝั่งนั้นเชื่อมต่อกันผ่านสาย CAT6 ไม่ใช่สายลำโพงอย่างทั่วไป ให้แบนด์วิธที่กว้างถึง 250MHz เพราะทั้งคู่บิลต์อินแอมป์ไว้ทั้งสองฝั่ง แยกการประมวลเสียงชนิดฝั่งใครฝั่งมัน ลำโพงทางฝั่งขวาทีมีหน้าที่รับอินพุต จึงคอยส่งสัญญาณเสียงดิจิตอลมาสู่ลำโพงฝั่งซ้าย เพื่อให้ปรีแอมป์ทำการประมวลผล ก่อนส่งต่อไปยังคู่ DAC ที่แบ่งเป็นย่านความถี่ต่ำและความถี่สูง ทำหน้าที่ขับสัญญาณเสียงต่อไป ซึ่งรายละเอียดเรื่องการทำงานจะอธิบายในส่วนถัดไป

สาย CAT6 ที่ให้มามีความยาว 3 ม. ขนาดเพียงพอต่อการติดตั้ง

ช่องต่อต่างๆ จะอยู่ที่ด้านหลังลำโพงฝั่งขวา เริ่มที่แถวบน ประกอบด้วยช่องต่อ RCAOpticalUSB Type B และช่องต่อสาย Subwoofer ถัดมาที่แถวล่างจะมีช่องต่อ USB (สำหรับใช้อัพเดทเฟิร์มแวร์เท่านั้น), Ethernet สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, ปุ่ม EQ เลือกลักษณะการติดตั้งลำโพง, ปุ่ม Reset คืนค่าการใช้งาน และช่องต่อ RJ45 เพื่อเสียบสาย CAT6 ส่วนลำโพงฝั่งซ้ายจะมีเพียงช่องต่อ RJ45เท่านั้น แต่เพิ่มเติมด้วยปุ่มหมุนปรับสมดุลย์เสียงระหว่างฝั่งซ้ายและขวา

ด้านหลังมีปุ่ม EQ ให้เลือกตามลักษณะการติดตั้ง สำหรับการปรับเสียงเบื้องต้นให้เข้ากับพื้นที่ติดตั้ง
มีปุ่ม Balance เพื่อปรับชดเชยสมดุลย์ลำโพงซ้าย-ขวาด้วยตัวเอง

ด้านปุ่มคำสั่งการใช้งาน จะอยู่ด้านบนตัวลำโพงทางฝั่งขวา มาในรูปแบบจอ LED สำหรับทัชสกรีน มีปุ่มคำสั่งดังนี้ ปุ่มปิด/เปิดเครื่อง, ปุ่มสลับการใช้งานตามอินพุต, ปุ่ม Bluetooth และปุ่มเพิ่ม/ลดระดับความดัง นอกจากปุ่มคำสั่งแล้ว ยังมีสัญลักษณ์แจ้งสถานะการเลือกอินพุตด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานผ่าน Wi-FiBluetooth, อะนาล็อก RCAOptical หรือต่อกับ PC ผ่าน USB Type B

เวลาปิด/เปิดเครื่อง หรือกดปุ่มที่ตรงนี้ จะมีเสียงปุ่มกดดังขึ้นมาเบาๆ

มาดูที่รีโมทกันบ้าง มีขนาดกะทัดรัด มีสีเทาออกเข้ม เข้ากับตัวลำโพงเป็นอย่างดี ผิวสัมผัสมีความด้านเล็กน้อย ช่วยให้จับถนัดมือ ปุ่มคำสั่งบนรีโมทประกอบด้วย ปุ่มปิด/เปิดเครื่อง, ปุ่มสลับช่องต่ออินพุต, ปุ่มเพิ่ม/ลดระดับความดัง, ปุ่มปิดเสียง, ปุ่มเล่น/หยุดการเล่นเพลง และปุ่ม Backward/Forward สำหรับเลื่อนเพลง

รีโมทสวยงามเข้ากับตัวเครื่อง ขนาดเล็กหยิบจับสะดวก