08 Sep 2016
Review

รุ่นใหญ่มาแล้ว จัดเต็มทั้ง Atmos, DTS:X, Auro-3D ก็ได้ !!? รีวิว Denon AVR-X7200WA


  • ชานม

4K HDR Ready Network AV Receiver

Denon AVR-X7200WA

รุ่นใหญ่มาแล้ว จัดเต็มทั้ง
Atmos, DTS:X, Auro-3D ก็ได้ !!?

ต้องยกนิ้วให้กับ D&M Holdings, Inc. บริษัทแม่ที่อยู่เบื้องหลังความรวดเร็ว กับความพร้อมนำเสนอระบบเสียงใหม่ล่าสุด ครบครันทั้ง Dolby Atmos, Auro-3D และล่าสุด DTS:X ก่อนใคร!

ถึงแม้ถ้ามองในแง่มุมของแบรนด์แล้ว Denon “ปล่อยของ” ให้อัพเดทเฟิร์มแวร์รองรับ DTS:X ทีหลัง Marantz อยู่บ้าง แต่ผมถือว่าไม่ได้มีนัยใดๆ เพราะก็อยู่ในเครือเครือเดียวกันนั่นแหละนะ ทั้งนี้การออกเฟิร์มแวร์มาได้รวดเร็วนี้เองที่ช่วยให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ท่านๆ มีโอกาสสัมผัสความเหนือชั้นของระบบเสียงยุคใหม่ได้อย่างทันท่วงที ไม่ต้องรอจนเหงือกแห้งหายอยากไปเสียก่อน

มาอัพเดท Denon AV Receiver ประจำปี 2015 – 2016 เสียหน่อย รุ่นที่รองรับระบบเสียงใหม่ทั้ง Atmos และ DTS:X (F/W Upgrade) มีเกือบครบทุกรุ่นแล้ว หากอ้างอิงจากในรูป ยกเว้นเพียง X520BT รุ่นเดียวเท่านั้นที่ยังไม่รองรับ ส่วนรุ่นที่สามารถเพิ่มเติมให้รองรับ Auro-3D ได้ด้วย ก็ตั้งแต่ X4200W ขึ้นไป โดยมี X7200WA รั้งตำแหน่งรุ่นรือธงรวมอยู่ด้วย!

ด้วยดีกรีระดับ “รุ่นเรือธง” ถ้าพูดถึงว่า จะหา AV Receiver ที่ดีที่สุดของ Denon ได้ที่ไหน? คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้วว่าพุ่งเป้ามาที่ AVR-X7200WA นี่เอง ไม่แปลกที่คุณสมบัติ รวมถึงประสิทธิภาพถ่ายทอดความบันเทิงด้านภาพและเสียงจะทำได้ยอดเยี่ยมสมกับฐานะ

มาดูจุดเด่นคร่าวๆ ของ X7200WA เพื่อเรียกน้ำย่อย ก่อนจะไปลงดีเทลในช่วงต่อไปครับ

1. รองรับระบบเสียงรอบทิศทางยุคใหม่ ครบทั้ง Dolby Atmos และ DTS:X (F/W available) รวมถึง Auro-3D (มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม) 2. รองรับสัญญาณภาพ 4K 60Hz, HDR, BT.2020, HDCP2.2 Pass-through เต็มรูปแบบ เพื่อการรับชม 4K/UHD Blu-ray ร่วมกับจอภาพแบบ Ultra HD Premium และยังมี 4K/60Hz Video Scaler มาด้วยในตัว 3. Premium DAC 768kHz/32-bit พร้อมเทคโนโลยีระดับขึ้นหิ้งอย่าง AL32 Processiong Multi Channel และ DDSC-HD32 ตอบรับระบบเสียงยุคใหม่แบบ Hi-res พร้อมการเชื่อมต่อสัญญาณดิจิทัลออดิโอพิเศษ Denon Link HD (ใช้ร่วมกับเพลเยอร์ที่รองรับ) 4. ภาคขยายกำลังขับสูงจาก DHCT (Denon High Current Transistors) จำนวน 9 แชนเนล รองรับ Atmos 5.2.4/7.2.2 หรือ Auro-3D 9.2 ch (11.2 ch Processing) ได้ทันที 5. ช่องต่อ Pre out 13.2 ch สำหรับขยับขยายเพิ่มจำนวนลำโพงรอบทิศทางบางจุด หรือสลับโหมดการทำงานเป็น Pure AV Processor แล้วเชื่อมต่อกับภาคขยายภายนอกทั้งหมดเลยก็ได้
6. HDMI 2.0 In 7+1 ช่อง และ HDMI Out ถึง 3 ช่อง (รองรับ HDMI Zone 2 Out และ ARC) 7. Audyssey MultEQ XT32 Speaker Calibration พร้อมรองรับ Audyssey Pro Installer เพื่อความเที่ยงตรงสูงสุด
8. Wireless Connection ทั้ง Wi-Fi (รองรับ DLNA และ AirPlay) และ Bluetooth ซึ่ง Network/USB สามารถเล่นไฟล์ Hi-res อาทิ DSD64, DXD (192kHz/24-bit) ได้ 9. ควบคุมสั่งการผ่าน Smart Phone/Tablet ด้วย Denon Remote App
10. ฟีเจอร์ประหยัดพลังงาน (Eco Mode)

Design – การออกแบบ

ใครที่เป็นแฟน Denon และตาม AVR รุ่นใหม่ๆ มาโดยตลอด คงจะจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ ช่วงปี 2014 – 2015 Denon เคยเปิดตัวรุ่นเรือธง AVR-X7200W (ไม่มี A ต่อท้าย) มาก่อน โดยพื้นฐาน X7200WA ก็คือ X7200W ที่ผ่านการอัพเกรดฮาร์ดแวร์บางจุดนั่นเอง

เมนเซอร์กิตบอร์ด (HDMI & Digital Processor) ใหม่ ที่เห็นวางอยู่ด้านบน เป็นการอัพเกรดให้รองรับ HDCP2.2 เปรียบเทียบกับบอร์ดเก่าด้านล่าง จากรูปเดียวกันนี้จะเห็นว่า Wi-Fi & Bluetooth Module ยังถูกปรับเปลี่ยนให้ติดตั้งอยู่บนบอร์ดหลักเลย จึงลดความรุงรังลงได้อีกหน่อย (ภาพประกอบจาก avbuzz.com)

จากจุดนี้ โดยหลักการ ท่านที่ซื้อ X7200W ไปก่อนหน้า ก็สามารถเอาไปอัพเกรดเป็น X7200WA ได้นะ (น่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) หลักๆ จะเป็นการอัพเกรดให้รองรับ HDCP2.2 เพื่อตอบรับการมาถึงของ 4K/UHD Blu-ray ได้อย่างเต็มที่!

ตัวถังภายนอก รวมถึงอุปกรณ์ภายในจุดอื่นๆ ยังคงเดิม ไม่มีความแตกต่างจาก X7200W และไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมซื้อรุ่นที่กำกับอยู่บนแผงหน้า (ตรงมุมขวาล่าง ใต้ Volume Knob) ยังเป็น X7200W อยู่ หากต้องการยืนยันว่ารุ่นนี้เป็น X7200WA หรือไม่ ให้สังเกตที่จอแสดงผลเมื่อทำการเปิดเครื่องครับ

เมื่อทำการเปิดเครื่องใช้งาน แผงหน้าปัดจะแสดงชื่อรุ่น X7200WA ให้เห็นเด่นชัดตามรูป
(ภาพประกอบจาก avbuzz.com)

ดีกรีความเป็นรุ่นท็อป ฉายแววโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อพินิจดูอุปกรณ์ภายใน อาทิ Discrete circuit amplifier module กำลังขับ 150 วัตต์ (8-ohm, 20Hz – 20kHz, THD 0.005%, 2-ch driven) จำนวน 9 แชนเนล และ DHCT (Denon High Current Transistors) ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้สามารถจ่ายกระแสได้สูงขึ้น ต่อให้ใช้ลำโพงค่าความต้านทาน 4 โอห์ม ก็บ่ยั่น  จัดวางโมดูลแยกฝั่งแชนเนลซ้ายและขวาออกจากกัน เพื่อผลลดทอนการรบกวนแบบ cross-talk

ส่วนขุมกำลังจากภาคจ่ายไฟ EI Transformer ขนาดใหญ่ ถูกติดตั้งบริเวณกึ่งกลาง คั่นด้วยครีบอะลูมิเนียมระบายความร้อนซึ่งทำหน้าที่เป็นชีลด์ป้องกันการแพร่กระจายของสนามแม่เหล็กอีกต่อหนึ่ง

ภาคถอดรหัสเสียงดิจิทัลยุคใหม่ต้องรับภาระมากกว่าเดิม ทั้งระบบเสียงมัลติแชนเนลที่เพิ่มเติมเสียงโอบล้อมหลายมิติ ไปจนถึงมาตรฐาน Hi-resolution Audio ที่บันทึกข้อมูลรายละเอียดเสียงมหาศาลยิ่งกว่าเดิม เหตุนี้จึงจำเป็นต้องอาศัยชิพประมวลผล SHARC Digital Audio Processor จำนวนมากถึง 4 ชุดด้วยกัน

อุปกรณ์อื่นๆ ที่ให้มา นอกจากคู่มือ เสาอากาศ AM/FM และ Audyssey Setup Mic. แล้ว ยังคงแถมขาตั้งไมค์มาให้เช่นเคย โดยจะมาในรูปแบบของกระดาษแข็ง ต้องพับประกอบเพื่อใช้งาน สามารถปรับความสูงได้ 2 ระดับ

รีโมตคอนโทรลมี Backlit จุดที่พิเศษกว่าเคย คือ มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ไฟจะติดสว่างขึ้นเองโดยอัตโนมัติเมื่อมีการขยับรีโมต ในส่วนของจอ LCD ใช้บ่งบอกโหมดฟังก์ชั่นการควบคุมอุปกรณ์ และแน่นอนว่าล้ำขนาดนี้ก็ต้องมาพร้อมความสามารถ Programming & Learning