22 Jul 2019
Review

รีวิว Hisense 65B8000 4K Dolby Vision TV ภาพสวยเสียงแจ๋ว ราคาสบายกระเป๋า


  • tormoo

หากเราพูดถึงแบรนด์ที่กำลังมาแรงในวงการทีวีในตอนนี้ หนึ่งยี่ห้อที่เป็นที่พูดถึงที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น Hisense แบรนด์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ในปีนี้ Hisense ก็เตรียมที่จะบุกตลาดของบ้านเราแบบเต็มสูบอีกครั้งหนึ่งด้วยการส่งทีวีหลากหลายรุ่นมาวางจำหน่าย 

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Hisense 65B8000 ULED TV (ชื่อเต็ม 65B8000UW) ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่บอกได้คำเดียวว่า จัดเต็มมาก ทั้งความละเอียดภาพแบบ 4K Ultra HD รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision, ระบบเสียง Dolby Atmos รวมไปถึงฟีเจอร์และความสามารถอื่นๆที่น่าสนใจอีกเพียบ เท่านั้นยังไม่พอราคาค่าตัวยังอยู่ในระดับที่สบายกระเป๋ามากๆอีกด้วย สำหรับรีวิวนี้ทีมงาน LCDTVTHAILAND จะมาเจาะลึกว่าทีวีรุ่นนี้จะมีจุดเด่น/ข้อจำกัดอะไรกันบ้าง ? น่าใช้งานแค่ไหน ? มาติดตามกันในรีวิวนี้ได้เลย!!!

คำว่า ULED ทาง Hisense ให้คำจำกัดความว่า “เป็นเทคโนโลยีจอภาพที่เหนือกว่า LED TV ทั่วไป ทั้งเรื่องสีสันและการคุมระดับความดำ เป็นอีกขั้นก่อนถึง OLED”
วีดีโอรีวิว Hisense B8000 4K ULED TV โดยคุณ DearSir

Hisense รุ่่น B8000

– ขนาด 65″

– ความละเอียดภาพ 4K (3840 x 2160)

– Edge LED with Local Dimming

– Hi-View Engine

– รองรับ HDR 

– Dolby Vision

– Dolby Atmos

– Smart TV VIDAA U 3.0

– Netflix, YouTube รองรับการ Cast

– HDMI x 4 

– USB x 2 

– ลำโพงขนาด 10 Watt x 2

– Wireless LAN / Ethernet LAN

ราคาเปิดตัว 

– 65″ 31,990 บาท

– 55″ 21,990 บาท

– ราคาโปรโมชั่นพิเศษ โปรดสอบถามร้าน

เมื่อต้นปี 2019 ที่ผ่านมาทางทีมงาน LCDTVTHAILAND ได้บินลัดฟ้าไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตทีวี และศูนย์วิจัยและพัฒนาของทาง Hisense ถึงเมืองซิงเต่า ประเทศจีน เราจึงขอฝากคลิปวีดีโอพาทัวร์อาณาจักรของแบรนด์นี้ให้กับทุกท่านได้รับชมกัน อลังเว่อร์วังมากเลยนะขอบอก ^ ^

Hisense คือแบรนด์อะไร ??? คลิปนี้มีคำตอบ

ดีไซน์

ดีไซน์ของ Hisense มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวชัดเจนมาก แค่มองผ่านๆยังรู้เลย เพราะในตอนแรกที่ทีมงานได้ลองถ่ายรูปเจ้า B8000 ตัวนี้ไปโพสต์ถามบน Facebook Fanpage ให้แฟนเว็บลองทายกันดูเล่นๆว่าทีวีในภาพเป็นแบรนด์อะไร ? ประมาณ 90% สามารถตอบถูกได้ว่าเป็น Hisense !!!

B8000 ยังคงใช้โลหะสีเงินเป็นหลักทั้งตัวกรอบทีวีและขาตั้ง ซึ่งเจ้าขาตั้งทรงกิ่งไม้คู่นี้แหละมีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ แฉกซ้าย-ขวาถ่างออกไป ช่วยยกระดับให้ตัวทีวีสูงขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้สอดลำโพงซาวด์บาร์ไว้ข้างใต้ (ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่แฟนๆจำกันได้ดี) ด้านความบางของตัวเครื่องก็แอบใกล้เคียงกับรุ่น U7A ในปีที่ผ่านมา สำหรับการตั้งวาง ก็ยังแอบกินพื้นที่นิดๆเหมือนเดิม ท่านไหนจะตั้งบนโต๊ะหรือชั้นวาง ก็อย่าลืมวัดขนาดกันให้พอดีเด้อ ดูขนาดความกว้างได้ตามนี้… 

ความกว้าง 65″ = 1.45 เมตร | 55″ = 1.23 เมตร

หน้าตรงสวยหรู ดีไซน์เด่น เห็นแล้วร้องอ๋อเลย Hisense แน่นอน!! หน้าตรงสวยหรู ดีไซน์เด่น เห็นแล้วร้องอ๋อเลย Hisense แน่นอน!!
ขาตั้งทรงกิ่งไม้ทำจากโลหะ จะกินพื้นที่ชั้นวางอยู่หน่อย
โลโก้ Hisense ผนึกอยู่ตรงกลาง
ด้านข้างก็เป็นโลหะเช่นกัน รุ่นนี้ยังเด่นในเรื่องของความบางของขอบจอด้วยนะ
บางเฉียบแค่ไหน ? เพียง 0.9 ซม. เท่านั้นเอง
รีโมทยังคงดีไซน์เดิมไม่เปลี่ยนแปลง กรอบสีเงินคล้ายกับกรอบทีวี มีปุ่มลัดสำหรับเข้าแอป Youtube และ Netflix

ช่องต่อ

Hisense ก็ยังคงแบ่งกลุ่มของช่องต่อไว้ 2 กลุ่มเช่นเดิม โดยช่องต่อหลักที่เรามีโอกาสถอด-เสียบสายสัญญาณกันเป็นประจำอย่าง HDMI, USB นั้นจะถูกจัดให้อยู่บริเวณ “ด้านข้าง” จะได้เอี้ยวตัวไปถอดเสียบสายได้อย่างสะดวก ส่วนช่องต่อ “ด้านหลัง” จะเหลือเพียง LAN, AV In และ HDMI อีกช่องเท่านั้น 

ช่องต่อ

1. HDMI x 4 (Support 4K) 

2. Optical Digital

3. Ethernet

4. AV In

5. Antenna

6. USB 2.0 x 2

*HDMI ARC จะอยู่ที่ช่อง HDMI 1

ช่องต่อด้านข้าง เน้นที่ใช้งานถอดเข้าถอดออกบ่อยๆเช่น HDMI และ USB
ช่องต่อไหนไม่ได้ใช้งานถอดเข้า-ออกบ่อยๆ ก็จะมาอยู่ตรงส่วนด้านหลังนี้