เรื่องย่อ (คำเตือน !!! อาจมีสปอยนอกเหนือในตัวอย่างหนังเล็กน้อย)
เรื่องราวของ ลุค ฮอบ์ส (ดเวย์น จอห์นสัน) เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายเจ้าของร่างล่ำบึ้ก และ เด็คการ์ด ชอว์ (เจสัน สเตธัม) ชายนอกกฎหมาย อดีตเจ้าหน้าที่ทหารชั้นสูงของอังกฤษ ที่ถือเป็นหนึ่งในคู่กัดประจำตระกูลหนังภาพยนตร์ Fast & Furious เลยก็ว่าได้ ซึ่งทั้ง 2 ได้เจอกันครั้งแรกใน Fast & Furious 7 นั่นเอง
แต่ใน Fast And Furious Hobbs and Shaw นี้ พวกเขาต้องกลับมาช่วยปกป้องโลกอีกครั้งจากการที่ตัวร้ายในเรื่องอย่าง บริกซ์ตัน (ไอดริส เอลบา) ที่เป็นมนุษย์ที่ได้รับการปรับแต่งทางพันธุกรรมให้มีร่างกายที่แข็งแรงว่องไว ซึ่งเนื้อเรื่องมาพีคตรงที่ระหว่างที่มีการขนย้ายของสำคัญอย่างหนึ่งที่อาจเป็นภัยต่อโลกได้ อยู่ๆ ก็มี วาเนสซ่า เคอร์บี (แฮตตี้ ชอว์) น้องสาวของ ชอว์ ได้มาช่วงชิงไปด้วยความเก่งกาจของเธอ ทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย จึงเป็นเหตุทำให้ ฮอบ์ส และ ชอว์ ต้องมาร่วมมือกันเพื่อทำภารกิจนี้เพื่อช่วยเหลือน้องสาวของ ชอว์ นั่นเอง
คำวิจารณ์
สิ่งหนึ่งที่บอกได้หลังดูเรื่อง Hobbs and Shaw นี้จบก็คือ มันส์มากครับ ใครที่อยากดูฉากแอ๊กชั่นสนุกๆ หนังเรื่องนี้ตอบโจทย์ในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฉากการขับรถไล่ล่า ฉากการต่อสู้ ความไฮเทคต่างๆ รวมถึงความวายป่วงอย่าง รถพัง ตึกพัง เรียกว่าจัดเต็ม ส่วนของนักแสดงอย่าง ดเวย์น จอห์นสัน ที่รับบทเป็น ลุค ฮอบ์ส และ เจสัน สเตธัม ที่รับบทเป็น เด็คการ์ด ชอว์ ต้องบอกว่าเป็นคู่กัดที่เข้ากันสุดๆ ทั้งสองคนนี้จะมีอะไรที่คอยสร้างเสียงหัวเราะ สร้างความสนุกสนานในเราทั้งเรื่องแทบตลอดเวลาเลยทีเดียว
ในส่วนของเนื้อเรื่องถือว่าค่อนข้างดำเนินเป็นเส้นตรง เดาได้ไม่ยาก แต่ก็จะมีจุดพีคของหนัง ฉากแอ๊คชั่น รวมถึงมุกต่างๆ ออกมาให้เราได้ลุ้นได้สนุกกันตลอดทั้งเรื่อง …ขอแอบกระซิบว่ามีฉากให้ได้จิ้นกันด้วยนะ !!! ซึ่งโดยรวมก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูสนุก ดูน่าติดตาม ส่วนเรื่องการเชื่อมโยงกับภาพยนตร์ภาคหลักในตระกูล Fast & Furious นั้น มีน้อยไปสักเล็กน้อย จนในบางช่วงแอบลืมไปเลยว่า นี่เรากำลังดูหนังในตระกูล Fast & Furious อยู่นะ ซึ่งจุดหลังๆ ที่เกียวข้องกับรรถจะมีเพียงแค่ช่วงต้นเรื่องและท้ายเรื่องเท่านั้น แต่โดยรวมตัวหนังก็ยังคงดูสนุกอยู่ดี
การรับชมใน IMAX Digital
ขอบอกเลยว่าการรับชมหนังเรื่องนี้ใน โรงภายนตร์ IMAX ช่วยเพิ่มความสนุกในการรับชมหนังเรื่องนี้ได้เป็นนอย่างมาก เพราะด้วยความที่ระบบ IMAX นี้ใช้เครื่องฉายแบบ คู่ 2 เครื่องพร้อมกัน ทำให้ภาพที่ได้จะมีความคมชัดกว่า สว่างสดใสกว่า โรงภาพยนตร์ทั่วไป ทำให้ในหลายๆ ฉากที่เป็นภาพมุมกว้างโชว์ความอลังการของฉากแอ๊กชั่น รวมถึงการขับรถไล่ล่าต่างๆ ด้วยความที่จอของ IMAX มีขนาดที่ใหญ่และโค้งรับครอบคลุมกับสายตาของเรา ทำให้สามารถเห็นรายละเอียดของภาพได้แบบครบครัน เหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ไปเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องเสียง ด้วยระบบเสียง Laser Sound ของ IMAX ที่มีกำลังขับสูงสุดถึง 30,000 วัตต์ ทำให้เสียงที่ได้จะมีความกระหึ่มกว่าโรงทั่วไป ทำให้ในฉากที่มีระเบิด เสียงเครื่องงยนตร์ต่างๆ มีความสมจริง รวมถึงการโยนเสียงไปมาของลำโพงนั้นทำได้ดีมาก ฉากไล่ล่าที่มีรถขับหน้าหลัง เสียงเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงเสียงบรรยาศต่างๆ นั้นทำออกมาได้ดีมาก ทำให้สัมผัสถึงอารมณ์ร่วมไปกับนักแสดงได้เป็นอย่างดี
สรุป
Hobbs and Shaw เป็นหนังแอ๊คชั่นที่ขนความมันส์มาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้ ฉากขับรถไล่ล่า รวมถึงความไฮเทคของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในหนังเรียกว่าจัดเต็ม ความฮาของ 2 คู่กัดอย่าง ฮอบ์ส และ ชอว์ ก็ทำให้เราได้ขำกันแทบตลอดทั้งเรื่อง ส่วนเนื้อเรื่องแม้ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มากมาย แต่ก็มีจุคพีคในหนังให้เราได้ลุ้น ได้ติดตามกันเรื่อยๆ และยิ่งหากได้รับชมในระบบ IMAX จะทำให้ประสบการณ์ การรับชมของคุณเปรียบเหมือนได้เข้าไปอยู่ในหนังกันเลยทีเดียวครับ
คะแนน
8 เต็ม 10
