24 Oct 2019
Review

รีวิว Terminator Dark Fate : ฅนเหล็ก วิกฤตชะตาโลก


  • lcdtvthailand

หลังจากภาค2ของหนังชุดคนเหล็กประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล ก็มีการสร้างภาคต่อออกมายืดอายุแฟรนไซส์นี้เรื่อยๆถึงสามภาค(รวมทั้งหารายได้ให้สตูดิโอด้วย) แต่ก็ได้ฟี้ดแบ็คจากคนดูและนักวิจารณ์ที่ไม่สวยหรูเท่าไหร่นัก แม้ว่าจะมีการคิดไอเดียใหม่ๆมาก็ตาม (ภาค3มีหุ่นตัวใหม่ที่ผสมระหว่าง T-800 และ T-1000 ภาค 4 เล่าเรื่องสงครามในอนาคต,ภาค5เล่นประเด็นย้อนเวลาและจักรวาลคู่ขนาน) จนมาถึงปัจจุบัน แฟรนไซส์นี่ก็ได้กลับไปยังมือของเจมส์ คาเมรอนผู้ให้กำเนิดอีกครั้ง พร้อมด้วยการกำกับของTim Miller ผู้กำกับDeadpoolภาคแรก ทำให้น่าลุ้นว่าคราวนี้Dark Fate จะสามารถเป็นหนังขวัญใจคนดูได้เสียทีหรือไม่ กับการกลับมาอีกครั้งของซาร่าห์ คอนเนอร์ ที่ต้องร่วมมือกับไซบอร์กหญิงจากอนาคตเพื่อรับมือกับคนเหล็กรุ่นใหม่ที่มาตามล่าเด็กหญิงคนหนึ่ง

แทนที่จะสร้างไอเดียใหม่ให้ฉูดฉาด Dark Fateกลับย้อนไปสู่ความเรียบง่ายของคนเหล็กสองภาคแรกอีกครั้ง ด้วยการเป็นหนังแอ็คชั่นไล่ล่ากันระหว่างคนกับหุ่นยนต์ เน้นโชว์ฉากแอ็คชั่นใหญ่โตบ้าพลังโหดดิบเข้าว่า โดยไม่มีซับพล็อตที่ซับซ้อนแต่อย่างใด ทุกอย่างนำเสนอมาแบบตรงไปตรงมาหมดไม่ต้องคิดอะไรมาก เนื้อเรื่องก็ไปข้างหน้าตลอดไม่มีช่วงอืด เผลอแป๊บเดียวรู้ตัวอีกทีก็เข้าองก์สามกันแล้ว ทำให้หนังออกมามันส์ เร็ว และย่อยง่ายมาก ไม่ต้องมานั่งคิดทฤษฎีอะไรเยอะแยะให้ปวดหัว ตัวละครหน้าเก่าที่เราคุ้นเคยก็กลับมากันให้หายคิดถึง ทั้งซาร่าห์ และคนเหล็กอาร์โนลด์ที่มาในบทบาทที่ต่างจากเดิม ตัวละครหน้าใหม่แม้ว่าจะไม่ได้โดดเด่นมากนักแต่ก็ไม่ได้แย่อะไร ตัวของคนเหล็กคนใหม่(Gabriel Luna)ที่แยกร่างได้ก็น่ากลัวและฉลาดเอาเรื่อง แต่นางเอกอย่างแดนนี่ (Natalia Reyes) ที่หนังพยายามปั้นให้ดูเป็นซาร่าห์/จอห์น คอนเนอร์คนใหม่ กลับดูไม่ค่อยมีออร่าที่โดดเด่นมากเท่าไหร่นัก

ถึงจะเป็นหนังที่หนักแอ็คชั่นและเดินเรื่องเร็ว แต่Dark Fate ก็ไม่ได้ทิ้งการสร้างตัวละครไปอย่างใด ทุกคนล้วนมีเส้นทางและการเดินทางของพวกเขากันหมด ซาร่าห์ที่ต้องออกลุยเดี่ยวกับคนเหล็กที่กลับมาอีกครั้งก็มีปมบางอย่างที่ทำให้เธอต้องมาจับปืนอีกครั้งโดยไร้ซึ่งลูกชาย ตัวของเกรซ (McKenzie Davis) ไซบอร์กหญิงที่มาจากอนาคตก็มีจุดหมายบางอย่างที่ทำให้เธอยอมทุ่มสุดตัวเพื่อปกป้องแดนนี่ โดยไม่สนตัวเองหรือใครทั้งสิ้น แม้กระทั่งตัวของคนเหล็กอาร์โนลด์ที่เป็นเหมือนส่วนผสมของคนเหล็กจากภาคก่อนๆนั้น แม้ว่าเวลาอยู่บนจอของเขาจะไม่มากเท่าภาคก่อนๆ(ไม่นับภาค4ที่ใช้หน้าอาร์โนลด์เฉยๆและออกมาแป๊บเดียวเพราะตอนนั้นอาร์โนลด์เป็นผู้ว่าอยู่) แต่เป้าหมายและปมบางอย่างของเขาก็ทำให้เราผูกพันกับเขาได้ไม่ยาก ตัวของแดนนี่นั้นก็เป็นเหมือนซาร่าห์ คอนเนอร์คนใหม่ จากคนที่เป็นโนบอดี้ขี้กลัวคนหนึ่ง ที่ประสบการณ์ค่อยๆหลอมเธอให้เป็นคนที่กล้าและแกร่งขึ้น

ถือว่าเป็นการกลับมาที่เรียบง่ายแต่มันส์ใช้ได้เลยทีเดียวสำหรับแฟรนไซส์คนเหล็ก แม้ว่าจะไม่ได้มีอะไรที่ใหม่หรือหวือหวามากนัก แต่แค่มันสามารถตอบโจทย์ความมันส์ในด้านแอ็คชั่นได้ และเราดูจบโดยรู้สึกว่ามันเต็มอิ่ม ก็ถือว่าน่าพอใจและตอบโจทย์เราได้มากแล้วสำหรับหนังคนเหล็ก

คะแนน 7.5/10