รีวิว Sharp 4T-C55CJ2X ทีวี 4K HDR ในงบหนึ่งหมื่นบาท ดู Netflix YouTube โหลดแอปฯ ได้
รีวิว Lenovo Qreator 27 จอ Monitor 4K HDR สุดเทพ เที่ยงตรงระดับอ้างอิง พร้อมฟีเจอร์สุดเทพตอบโจทย์ทุกการใช้งาน | LCDTVTHAILAND
รีวิว Sharp 4T-C60CK1X เต็มตากับ 4K HDR 60 นิ้ว ราคาเบาๆ แถมลูกเล่นเพียบตามสไตล์ Android TV
รีวิว Samsung The Sero ทีวีสุดล้ำ!! หมุนจอเป็นแนวตั้ง หรือแนวนอนก็ได้
รีวิว BenQ GV1 โปรเจคเตอร์พกพา ฉายภาพไร้สาย ดู Netflix YouTube ได้ในตัว!!
รีวิว LG PuriCare Mini เครื่องฟอกอากาศพกพกได้ ประสิทธิภาพไม่แพ้รุ่นใหญ่!! | LCDTVTHAILAND
ถ้าหากพูดถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราทุกวันนี้ "ฝุ่น" น่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราไม่มากก็น้อยยิ่งในช่วงที่ผ่านมาข่าวคราวเรื่องของฝุ่นควัน 2.5 PM ทำให้เราตื่นตัวกันในเรื่องของคุณภาพของ "อากาศ" ในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น
ทำให้ใครหลายๆ คนก็ได้เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศติดบ้านกันไว้เพื่อเพิ่มคุณภาพของอากาศและรักษาสุขภาพของทุกคนในครอบครัว ถึงอย่างไรก็ตามในชีวิตประจำวันเราไม่ได้อาศัยอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น เรายังต้องเดินทางไปยังที่ต่างๆ ผ่านทางรถยนต์ หรือการไปทำงานนอกสถานที่ซึ่งบางแห่งก็ไม่ได้มีเครื่องฟอกอากาศติดตั้งอยู่
และมันจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถที่จะพกพาเครื่องฟอกอากาศไปได้ทุกๆ ที่ล่ะ ซึ่ง LG ก็ได้เล็งเห็นถึงทางเลือกสำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพจึงได้เปิดตัวไลน์อัพเครื่องฟอกอากาศแบบพกพามาให้เลือกซื้อกันในซีรีส์ LG PuriCare Mini และครั้งนี้ทีมงาน LCDTVTHAILAND ก็จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเครื่องฟอกอากาศพกพาขนาดจิ๋วเครื่องนี้กันจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างเดี๋ยวมาดูกันได้เลยครับ!!!
สเปคเบื้องต้นของ LG PuriCare Mini
![]() -เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา
-Sensor PM1.0
-แบตเตอรี่ในตัว
-น้ำหนักเบาเพียง 530 กรัม
-สามารถเชื่อมต่อกับ Application ผ่านBluetooth
-CADR 13 ตร.ม. (CADR = Clean Air Delivery Rate เป็นอัตราการพ่นลมสะอาดออกจากตัวเครื่อง เป็นตัวเลขที่บ่งบอกได้ว่าเครื่องฟอกอากาศตัวนั้นมีกำลังในการฟอกอากาศในห้องได้รวดเร็วเพียงใด)
-ราคาเปิดตัว 7,990 บาท
![]() LG PuriCare Mini เป็นเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาทำให้ขนาดรวมของตัวเครื่องไม่ใหญ่มากจะเห็นได้ว่าเจ้าเครื่องนี้มีขนาดพอๆ กับลำโพงบลูทูธเล็กๆ เท่านั้น โดยขนาดวัดได้ที่ (กว้าง x สูง x ลึก) 69 x 64 x 200 มม. และนำ้หนักตัวเพียง 530 กรัมเท่านั้น ซึ่งโดยรวมแล้วก็เหมาะสมกับการพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย
มาต่อกันที่ดีไซน์ของเครื่องกันดีกว่า LG PuriCare Mini จะมีสองสีให้เลือกใช้งานทั้ง ขาว และ ดำ ทั้งคู่นั้นมีดีไซน์ที่เหมือนกัน โดยตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุเป็นพลาสติกคุณภาพสูงน้ำหนักเบาตัดขอบปัดเงาสีเงินสวยงามเพิ่มความหรูหราให้กับตัวเครื่อง
![]() สีขาวและสีดำดูสวยทั้งคู่!!
ด้านหน้าของเครื่องจะเป็นช่องสำหรับปล่อยลมที่ผ่านการกรองมาแล้ว ส่วนด้านหลังจะเป็นช่องดูดอากาศและที่ใส่ฟิลเตอร์กรองอากาศรวมไปถึงเป็นจุดที่ติดตั้งเซ็นเซอร์สำหรับวัดคุณภาพอากาศไว้นอกจากนั้นก็ยังมีพอร์ต USB-C เอาไว้สำหรับชาร์จไฟให้กับเครื่องติดตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน
![]() ด้านหน้าของเครื่องเป็นจุดสำหรับปล่อยลมที่ผ่านการฟอกมาแล้ว
![]() พอร์ต USB-C สำหรับการชาร์จไฟ
![]() อุปกรณ์ที่แถมมาให้ในแพ็คเกจ
![]() ![]() สำหรับด้านบนจะเป็นส่วนของปุ่มควบคุมเครื่องซึ่งก็จะมีปุ่ม เปิด-ปิด, เลือกระดับความแรงของพัดลมดูดอากาศโดยจะมีไฟแสดงสถานะบ่งบอกการทำงานของเครื่อง และบริเวณใกล้กันนั้นก็จะมีแถบไฟ LED แสดงสถานะของอากาศในบริเวณนั้นติดตั้งอยู่
![]() ปุ่มควบคุมพร้อมไฟแสดงสถานะของอากาศ ส่วนด้านล่างของเครื่องจะมีแถบยางซิลิโคนกันลื่นไว้ทำให้เราไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะลื่นไม่เกาะติดกับพื้นผิวของจุดที่เรานำเครื่องไปวางไว้ เท่านั้นยังไม่พอสำหรับใครที่ต้องการนำ LG PuriCare Mini ไปใช้ในรถยนต์ทาง LG ก็มีอุปกรณ์เสริมเป็นฐานสำหรับใส่ LG PuriCare Mini ไว้ในช่องวางแก้วในรถด้วย
![]() อุปกรณ์สำหรับใส่ที่วางแก้วในรถยนต์
![]() เมื่อใช้งานจริงจะเข้ากับที่รองแก้วน้ำในรถได้อย่างพอดิบพอดี
และเรื่องขอสุขภาพนั้นไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น อากาศที่สะอาดสำหรับเด็กๆ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พ่อแม้ผู้ปกครองหรือคนในครอบครัวนั้นต้องใส่ใจเหมือนกันซึ่ง LG PurCare Mini ก็มีโซลูชั่นสำหรับส่วนนี้เหมือนกัน ด้วยการมีอุปกรณ์เสริมที่ทำให้เราสามารถวางตัวเครื่องฟอกอากาศไว้ติดกับรถเข็นเด็กได้ ซึ่งทำให้ผู้ปกครองนั้นมั่นใจได้ว่าเด็กๆ จะได้หายใจเอากาศที่สะอาดและผ่านการกรองเมื่อเวลาเดินทางไปไหนมาไหนกับครอบครัว
![]() แท่นวางสำหรับใช้ในรถเข็นเด็ก
โดยรวมของเครื่องทั้งการดีไซน์มีความสวยงามทันสมัยอีกทั้งยังมีขนาดเล็กสะดวกต่อการพกพา เรียกว่าหยิบใส่กระเป๋าเป้หรือกระเป๋าสะพายข้างนำติดตัวไปใช้ก็ไม่รู้สึกว่าเกะกะเพราะด้วยขนาดและน้ำหนักที่ถือว่าเหมาะสมนั่นทำให้ LG PuriCare Mini ตอบโจทย์ในเรื่องการใช้งานในแบบที่ LG ตั้งใจไว้
แนะนำฟีเจอร์และจุดเด่นมาเข้าส่วนของฟีเจอร์และจุดเด่นกันดีกว่าสำหรับ LG PuriCare Mini ตามสเปคแล้วนั้นเป็นเครื่องฟอกอากาศพกพาขนาดเล็กแต่ความสามารถไม่ได้เล็กตามขนาดตัว โดยตัวเครื่องมีความสามารถในการฟอกอากาศได้มากถึง CADR 13 ตร.ม. (CADR = Clean Air Delivery Rate เป็นอัตราการพ่นลมสะอาดออกจากตัวเครื่อง เป็นตัวเลขที่บ่งบอกได้ว่าเครื่องฟอกอากาศตัวนั้นมีกำลังในการฟอกอากาศในห้องได้รวดเร็วเพียงใด)
ตัวเครื่องสามารถกรองฝุ่นได้เล็กที่สุดในขนาด PM 1.0 ซึ่งเป็นอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เครื่องฟอกอากาศจะสามารถกรองและขจัดได้ในปัจจุบัน ซึ่งถ้าให้เทียบในเรื่องความสามารถในการฟอกอากาศแล้วเจ้าเครื่องพกพารุ่นนี้ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเครื่องฟอกอากาศไซส์กลางๆ ที่อยู่ตามบ้านได้เลยแถมเจ้าเครื่องรุ่นนี้ยังผ่านการรับรองจาก KMITL ว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฝุ่นได้ตั้งแต่ขนาด PM10, PM 2.5 และ PM 1.0 ได้จริง และความสามารถในการตรวจจับฝุ่นละอองของ LG PuriCare Mini ยังเป็นการตรวจสอบอากาศแบบ Real Time
นอกเหนือจากความสามารถในการฟอกอากาศที่จัดเต็มแล้ว LG PuriCare Mini ยังพกพาความสะดวกสบายมาอีกด้วยโดยตัวเครื่องนอกจากจะมีขนาดเล็กและนำ้หนักเบาพกพาไปไหนมาไหนได้แล้ว เจ้าเครื่องนี้ยังรองรับการใช้งานได้อย่างยาวนานมากถึง 8 ชั่วโมงเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งวันได้อย่างสบาย
เท่านั้นยังไม่พอเพื่อตอบโจทย์กับชีวิตสมัยใหม่ LG PuriCare Mini สามารถใช้งานควบคู่กับแอปพลิเคชั่น PuriCare Mini บนสมาร์ทโฟนได้ด้วย (มีให้ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android) เพียงเชื่อมต่อกับ Bluetooth บนสมาร์ทโฟนเข้ากับเครื่องฟอกอากาศเท่านั้น
![]() ใช้งานควบคู่กับแอป PuriCare Mini
โดยแอปพลิเคชั่นนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นที่เยี่ยมมากของเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ ภายในแอปพลิเคชั่นนี้จะบอกถึงสถานะของเครื่องทั้งปริมาณฝุ่นละอองที่อยู่ในบริเวณนั้นทั้งฝุ่นแบบ PM10, PM2.5 และ PM 1.0 รวมไปถึงแบตเตอรี่
ภายในแอป PuriCare Mini ยังสามารถแสดงประวัติคุณภาพอากาศที่เคยวัดได้เมื่อเปิดเครื่องและยังสามารถตรวจสอบสถานะของแผ่นกรองอากาศในตัวเครื่องได้ด้วย และด้วยการแสดงสถานะที่ละเอียดแบบนี้ทำให้เราไม่จำเป็นที่ต้องมาเปิดแงะดูแผ่นกรองอากาศอยู่บ่อยๆ เพียงแค่ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชั่นก็สามารถรู้ได้ว่าเราควรเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเมื่อไหร่
![]() ![]() ![]() ใช้งานจริงจากการทดลองใช้งานจริงกับเจ้า LG PuriCare Mini มาตลอด 2 สัปดาห์ทางทีมงานทดลองใช้งานหลากหลายรูปแบบทั้งลองพกพาไปไหนมาไหน ใช้ในรถยนต์ หรือใช้ในบริเวณห้องนอนซึ่งตอนที่ได้ทดสอบก็เป็นช่วงที่กรุงเทพเริ่มมีฝุ่นควันกลับมาบ้างแล้วเนื่องจากเป็นช่วงปลายปีซึ่งเป็นฤดูหนาวอากาศก็จะแห้งและไม่ค่อยมีลมเท่าไหร่
ตัว LG PuriCare Mini ถือว่าช่วยกรองฝุ่นได้จริงๆ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นสถานที่ที่มีขนาดเล็กเสียหน่อย เช่นในรถยนต์ หรีอ หน้าโต๊ะทำงานในห้องแบบปิด ตัวเครื่องถือว่าฟอกอากาศได้ไวมากโดยทีมงานได้ทดลองเปิดหน้าต่างเพื่อทดลองประสิทธิภาพของการกรองฝุ่น
ซึ่งเซ็นเซอร์จับอนุภาคฝุ่นของ LG PuriCare Mini ถือว่าตรวจสอบปริมาณฝุ่นได้แบบ Real Time จริง โดยก่อนหน้าในห้องที่ทำการทดสอบได้ปิดหน้าต่างไว้แบบสนิทไม่มีลมเข้าตัวเซ็นเซอร์ก็แสดงสถานะของอากาศในระดับดี แต่พอทดลองเปิดหน้าต่างทิ้งไว้สักพักปุ๊บเซ็นเซอร์ก็ตรวจสอบว่ามีปริมาณฝุ่นเข้ามาและแสดงสถานะอากาศว่าตรวจพบฝุ่นโดยรอบและเครื่องก็ทำการฟอกอากาศโดยทันที
![]() เห็นขนาดแค่นี้แต่ประสิทธิภาพนั้นจัดเต็มจริงๆ
การฟอกอากาศก็ใช้เวลาไม่นานเพียงแค่ประมาณ 2 - 3 นาทีจากอากาศที่อยู่ในเกณฑ์สีเหลืองก็ลงมาอยู่ในระดับปกติเช่นเดิม ซึ่งทางทีมงานแนะนำว่าให้เลือกโหมดพัดลมเป็นโหมด Auto ไว้จะดีที่สุดเนื่องจากตัวเครื่องจะได้ทำการกรองอากาศได้สัมพันธ์กับปริมาณฝุ่นโดยรอบ
อีกหนึ่งจุดที่ถือว่าประทับใจไม่น้อยหน้าไปกว่าการกำจัดฝุ่นก็คือเสียงในการทำงานของ LG PuriCare ถือว่าเงียบมากๆ โดยในโหมดเบานั้นเราแทบจะไม่ได้ยินเสียงพัดลมเลย หรือแม้กระทั่งในโหมด Turbo ซึ่งเป็นโหมดที่พัดลมทำงานแรงที่สุดก็ยังมีเสียงที่ไม่ได้ดังไปกว่าพัดลมของเครื่อง Laptop คอมพิวเตอร์ไปเสียเท่าไหร่
และสำหรับการใช้งานนอกสถานที่ด้วยแบตเตอรี่ที่มากับ LG PuriCare Mini ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานได้ทั้งวันจริงๆ โดยทีมงานได้จับเวลาการใช้งานจริงพบว่าในโหมด Auto ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ยาวนานเกือบๆ 8 ชั่วโมงตามที่ LG บอกไว้ ซึ่งก็ถือว่าสมเหตุสมผลกับการทำงานของเครื่องที่มีการสลับความเร็วพัดลมเพื่อกำจัดฝุ่นตลอดทั้งวัน
![]() ![]() จุดเด่นของ LG PuriCare Mini ก็คือการเป็นเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่สามารถใช้งานได้อย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพสูงมากเมื่อเทียบกับขนาดตัว ทั้งความสามารถในการกรองฝุ่นได้ในระดับ PM 1.0 ซึ่งก็เทียบกับเครื่องฟอกอากาศแบบตั้งพื้นที่อยู่ตามบ้านทั่วไปได้ แถมยังผ่านการรับรองมาตรฐานที่ทำให้เรามั่นใจในประสิทธิภาพการฟอกอากาศของเครื่องว่าทำได้จริง
รวมทั้งการทำงานที่เงียบเชียบ ระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานเพียงพอกับการทำงานทั้งวันได้สบายๆ แถมยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันด้วยการรองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น ซึ่ง LG PuriCare Mini ถือว่าเป็นเครื่องอากาศที่ครบเครื่องมากๆ
และเมื่อหันไปมองในตลาดตอนนี้ก็แทบจะไม่มีคู่แข่งที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าเสียด้วย ซึ่งถ้าจะให้เทียบก็ต้องไปเทียบกับเครื่องฟอกอากาศแบรนด์จีนที่มีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศได้ต่ำกว่าและตัวเครื่องก็มีขนาดที่ใหญ่กว่ามากพอสมควรแถมยังพกพาไม่ได้
ดังนั้นต้องขอบอกตรงนี้ว่าถ้าหากใครที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาสักเครื่องครอบคลุมการใช้งานทั้งในห้องนอนในรถหรือสถานที่ต่างๆ ก็ขอแนะนำ LG PuriCare Mini ไว้เป็นตัวเลือกของคุณและคนที่คุณห่วงใยครับ!
![]() |
รีวิว Sharp 4T-C60CK1X เต็มตากับ 4K HDR 60 นิ้ว ราคาเบาๆ แถมลูกเล่นเพียบตามสไตล์ Android TV
Samsung QA65Q950TSKXXT QLED 8K TV ตระการตา 33 ล้านพิกเซลกับเสียงรอบจอ พร้อมชม 8K YouTube, AIS Play, HBO Go
รีวิว BenQ ZOWIE 2546K การอัพเกรดอีกครั้ง เพื่อตอกย้ำความเป็นที่สุดของ e-Sport Monitor!!! | LCDTVTHAILAND
รีวิว Dynabook Satellite Pro L40 โน๊ตบุ๊คสุดแกร่ง ตก กระแทกไม่เป็นไร ประกัน On-Site 2ปี เต็ม!