29 Jun 2021
Review

รีวิวโปรเจคเตอร์ 4K BenQ V6000 | มิติใหม่แห่งการดูหนังจอใหญ่ใจกลางบ้าน


  • ชานม

ภาพ

V6000 ติดตั้ง Digital Micro Mirror Device (Single-DMD) chip พร้อมเทคโนโลยี 4K XPR ซึ่งอาศัย Optical Actuator ทำงานขยับตำแหน่งพิกเซลรวดเร็วมากจนสามารถสร้างเป็นภาพนิ่ง (frame) ที่มีรายละเอียดจำนวนพิกเซลเพิ่มขึ้น รวมกันทั้งสิ้นจะได้ความละเอียดเท่ากับ 8.3 ล้านพิกเซล ตรงตามมาตรฐาน 4K (UHD) ตามการรับรองของ Consumer Technology Association หรือ CTA หากปรับโฟกัสได้ลงตัวแล้วรุ่นนี้ให้ภาพมีความคมชัดดีมาก ส่วนหนึ่งเป็นอานิสงส์จากคุณภาพของเลนส์ ซึ่งไม่มี Chromatic Aberration หรือขอบม่วงรบกวน การแสดงรายละเอียดจาก 4K/UHD Blu-ray จึงถ่ายทอดออกมาได้โดดเด่นยิ่งกว่า W2700i หรือ W5700 ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

– SDR –

รุ่นนี้ให้โหมดภาพสำหรับรับชมคอนเทนต์แบบ SDR มา 6 โหมด (รวม Silence) ซึ่งเท่ากับโปรเจคเตอร์ของ BenQ รุ่นก่อนๆ

ผล Lab Test พบว่าโหมดภาพที่ให้ผลลัพธ์เหมาะกับการรับชม SDR คือ Cinema เพราะให้สมดุลและขอบเขตสีใกล้เคียงมาตรฐาน Rec.709 ระดับความสว่างปานกลาง คือ สู้แสงได้ดีกว่า DCI-P3 แต่เป็นรอง Living Room/User เล็กน้อย โดยรวมสามารถใช้งานในห้องคุมแสงมืดสนิท หรือในสภาพที่มีแสงรบกวนเล็กน้อยได้

Living Room/User เป็นตัวเลือกที่ดีหากต้องใช้งานในห้องที่ไม่ได้คุมแสงมืดสนิท ความเที่ยงตรงของสีสันย่อหย่อนลงจาก Cinema ไม่มาก ส่วน Bright แม้ให้ความสว่างสูงที่สุดแต่ควรเลี่ยง เพราะสีเพี้ยนค่อนข้างมาก

สำหรับโหมดภาพ DCI-P3 ความสว่างจะต่ำกว่าทุกโหมด ทว่าในส่วน Color Space จะถูกกำหนดตั้งค่าแบบ “Wide Color Gamut” มาจากโรงงาน ขอบเขตสีใกล้เคียง DCI-P3 จึงอาจนำไปใช้อ้างอิงกับงานตัดต่อภาพยนตร์ตามมาตรฐาน Digital Cinema Initiatives ได้ แต่ถ้าจะนำมาใช้รับชม SDR Content ทั่วไป ที่อิงมาตรฐาน Rec.709 สีสันจะติด Over Saturation ไปบ้าง คือ จะดูสดจัดกว่าปกติ และด้วยความสว่างที่ไม่มาก คงไม่เหมาะที่จะใช้รับชมในห้องที่มีแสงรบกวน

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล SDR Calibration Report>

ผล Lab Test ของโหมดภาพ Cinema ค่าเดิมๆ จากโรงงาน (Pre Calibration) ดุลสีดีมากทีเดียว อุณหภูมิสีเฉลี่ย 6498K ค่าความผิดเพี้ยนแสงขาว Grayscale Avg dE ต่ำแค่ 1.8 เท่านั้น จะใช้งานเลยโดยไม่ปรับภาพก็ยังได้

หลังปรับภาพ (Post Calibration) ผลลัพธ์ดีขึ้นเล็กน้อย ค่าความผิดเพี้ยนเฉลี่ยทั้ง Grayscale Avg dE และ Colorspace Avg dE จะลดลงมาเหลือ 1.5 และ 4.6 ตามลำดับ ขอบเขตสีครอบคลุม 92.8% Rec.709

Rec.709 Color Checker หลังดำเนินการปรับภาพ มีค่าความผิดเพี้ยนเฉลี่ย (Saturation Avg dE) ที่ 4.1

ด้วยข้อได้เปรียบของ Ultra Short-throw ที่มีระยะตั้งวางใกล้กับจอรับภาพมาก การสูญเสียแสงจากระยะห่างจึงน้อยมากเมื่อเทียบกับ Long – Medium Short throw Projector บวกกับการใช้แหล่งกำเนิดแสง Laser ส่งผลให้ V6000 ทำระดับความสว่างได้สูงกว่า Home Cinema Projector รุ่นก่อนหน้าของ BenQ (ค่าความสว่างสูงสุดที่แจ้งไว้ในสเปค คือ 3000 ANSI Lumens แต่ก็ดูสว่างกว่า) ประโยชน์นอกจากช่วยให้การขับเน้นแสงเอฟเฟ็กต์ SDR/HDR ดีกว่าแล้ว ยังสู้แสงรบกวนได้โดดเด่นกว่าด้วย โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับ Ambient Light Rejecting Screen

อย่างไรก็ดีรุ่นนี้จะมีระดับเสียงของพัดลมระบายความร้อนที่ดังกว่า Home Cinema Projector ตัวท็อป ๆ อย่าง W11000H อยู่บ้าง แต่ด้วยระยะตั้งวางที่ห่างจากจุดนั่งฟัง จึงไม่เป็นการรบกวนนัก กระนั้นหากต้องการให้เสียงเบาลง สามารถกำหนดตัวเลือก Light Mode เป็น Economic หรือจะใช้โหมดภาพ Silence ก็ได้…

เมื่อกำหนด Light Mode เป็น Economic หรือเปลี่ยนไปใช้โหมด Silence แล้ว ความสว่างจะลดลง 24 – 36.5% (ขึ้นกับว่าเทียบกับโหมด Cinema หรือ Living Room) แต่ด้วยพื้นฐานของรุ่นนี้ที่เดิมให้ความสว่างได้สูง แม้ความสว่างลดลงแต่ยังใช้รับชมในห้องคุมแสงได้ (ภาพยังดูสว่างกว่าโหมด DCI-P3) และแน่นอนว่า เสียงพัดลมเงียบลง และลดการใช้พลังงานลงราว 35% ด้วย ในส่วนของดุลสีอาจได้รับผลกระทบ ออกเขียวนิด ๆ แต่สามารถไฟน์จูนปรับภาพละเอียดเพื่อแก้ไขได้

หมายเหตุ: อายุการใช้งานแหล่งกำเนิดแสง Laser ของ V6000 อยู่ที่ 20,000 ชม. ไม่ว่าจะกำหนด Light Mode = Normal, Economic หรือ Smart Eco

– HDR –

มาดูในส่วนของสีสันการรับชม HDR content ผ่านรูปแบบ HDR10 กันบ้าง โดย V6000 จะปรับเปลี่ยนการแสดงผลเป็นโหมดภาพ HDR10 อัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณจากเพลเยอร์ (ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดภาพอื่นขณะรับชมคอนเทนต์ HDR)

มีข้อสังเกตเมื่อใช้ V6000 รับชมคอนเทนต์ HDR คือ ค่าตั้งต้นจากโรงงานของโหมดภาพ HDR10 จะ “Off” ตัวเลือก Wide Color Gamut ความสามารถในการแสดงขอบเขตสีจึงทำได้ครอบคลุมราวๆ 73.04/77.39% DCI-P3 (xy/uv) แต่จะให้ระดับความสว่างได้สูงประมาณ 180 nits (สว่างกว่า W2700i 2 เท่า)

หากต้องการให้ V6000 แสดงขอบเขตสีกว้างขึ้น ต้องเปลี่ยนตัวเลือกให้เป็น “On” จะได้ขอบเขตสี 97.03/95.86% DCI-P3 (xy/uv) หรือเทียบเท่า 72.4/75.18% Rec.2020 (xy/uv) ทว่าต้องแลกกับความสว่างที่ลดลงไปราว 70%

ดังนี้… ถ้าต้องการเน้นความเปรียบต่างของแสงเอฟเฟ็กต์ HDR ก็แนะนำให้ Off แต่ถ้าเน้นการถ่ายทอดรายละเอียดสีสันก็สามารถ On – Wide Color Gamut ทดลองกันดูว่าชอบแบบไหนครับ

อีกความสามารถของ V6000 คือ Motion Enhancer 4K หรือระบบประมวลผลแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหว อันมีส่วนช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวโดยเฉพาะคอนเทนต์เฟรมเรทต่ำ ดูไหลลื่นต่อเนื่องขึ้น สามารถกำหนดได้ 3 ระดับ อย่างไรก็ดีการรับชมผ่านโปรเจคเตอร์นั้น แม้จะ Off ตัวเลือกนี้ ก็สามารถรับชมภาพเคลื่อนไหวได้เป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกว่าติดขัดอะไร แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่ความชอบครับ