08 Aug 2022
Review

รีวิว หูฟัง True Wireless 2 รุ่นแรกจาก Denon กับ AH-C830NCW ตัดเสียงรบกวนได้ และ AH-C630W รุ่นคุ้มค่าคุ้มราคา


  • TopZaKo

เสียง และ ทดสอบการใช้งาน

สเปคด้านเสียง ในรุ่นใหญ่อย่าง AH-C830NCW จะใช้ตัวขับเสียงแบบ Over Dynamic Driver ขนาด 11 x 10 มม. , ตอบสนองความถี่ 20 – 20,000 Hz, ใช้ Bluetooth 5.0 LE Class (Low Energy) ที่ประหยัดพลังงานกว่า Bluetooth ปกติทั่วไป และรองรับการถอดรหัสเสียงแบบ AAC กับ SBC

สำหรับรุ่นน้องอย่าง AH-C630W โดยรวมจะมีสเปคที่เหมือนกันเลยแต่จะมีขนาดของตัวขับเสียงที่เล็กกว่าเล็กน้อยอยู่ที่ขนาด 10 มม. และจะรองรับการถอดรหัสเสียงเฉพาะแบบ SBC เท่านั้น

ทดสอบการฟังเพลงและแนวเสียง

เสียงของหูฟังทั้ง 2 รุ่นนี้ มีแนวเสียงที่ค่อนข้างเหมือนกันเลย คือ เสียงเบสต้นมีความกระแทกกระทั้นในระดับหนึ่ง เบสย่านต่ำมีมวลเสียงที่ใหญ่ ลงลึกแผ่ได้ดี เสียงกลางมีความชัดพอประมาณ ออกนวลๆ ติดหวานเล็กน้อย เสียงแหลมมีปลายเสียงที่ดีทอดไกลระดับหนึ่ง โดยรวมถือว่ามีเสียงที่ดี รายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ออกมาครบถ้วน ให้เสียงที่ชัดแต่ก็ยังอยู่ในระดับพอดี ฟังได้นานไม่ล้าหู โดยในรุ่นใหญ่อย่าง AH-C830NCW จะเหนือกว่า ตรงที่จะมีเสียงเบสที่คมมีความหนักแน่นกว่า เสียงกลาง เสียงแหลมจะมีรายละเอียดเสียงที่ดีทอดยาวได้มากกว่าพอประมาณ ถ้าหากมองที่เรื่องเสียงอย่างเดียวส่วนตัวถือว่ารุ่นเล็กจะลดหย่อนลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 8 / 10 ของรุ่นใหญ่ แต่ในการใช้งานจริงหากไม่นำมาฟังเปรียบเทียบกันถือว่าทำได้ดีไม่แพ้กันเลย

โดยรวมจากที่ได้ทดสอบบอกเลยว่าเป็นหูฟังที่นำไปฟังเพลงได้ทุกแนวจริงๆ อย่างเช่นเพลง Pop เพลงเน้นเสียงร้อง เพลง Cover ช้าๆ สบายๆ ก็ทำได้ดีให้รายละเอียดเสียงที่ดี มีความหวานในระดับหนึ่ง เพลงที่มีจังหวะสนุกสนานหน่อยอย่างเพลง Dance HipHop ก็ให้มวลเสียงเบสที่ใหญ่แผ่ลงลึกฟังสนุก ส่วนเพลง Rock ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกันแต่ด้วยความที่เบสมีมวลเสียงค่อนข้างใหญ่อาจจะไม่ได้ออกแนวคมชัดมันส์กระแทกสะใจ รวมถึงเสียงร้องที่อาจจะดูหวานไปหน่อยกับเพลงแนวนี้ แต่ก็ยังคงมีความมันส์ได้ในระดับหนึ่งสามารถใช้ฟังได้อย่างไม่มีปัญหา ใครที่ชอบเสียงแบบฟังสบาย เน้นรายละเอียดเสียง มีความหวานเล็กน้อย รวมถึงมีเบสที่ฟังสนุกในแบบผู้ดีหน่อยๆ น่าจะต้องชอบหูฟังทั้ง 2 รุ่นนี้อย่างแน่นอน

สำหรับการใช้งานระบบตัดเสียงรบกวนหรือ Active Noise-cancelling ถือว่าทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ จากที่ทดสอบใช้งานใน 2 สถานการณ์ คือในสถานที่ปิดกันสถานที่เปิด ในสถานที่ปิดอย่างในบ้านกับที่ทำงานเมื่อเปิดฟีเจอร์นี้ไว้สามารถตัดเสียงรบกวน อย่างเช่นเสียงคนคุยกัน เสียงเครื่องปริ้น เรียกว่าแทบจะไม่มากวนเสียงเพลงของเราเลย ส่วนในสถานที่เปิดอย่างตอนที่ใส่ฟังเพลงเดินอยู่ริมถนนหากเป็นเสียงรถในแบบปกติทั่วไปถือว่ากันเสียงได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเจอจังหวะที่เสียงดังมาก เช่นเจอรถขับมาด้วยความเร็วเสียงเครื่องดังๆ อาจมีเล็ดลอดเข้ามาบ้าง แต่ถ้าหากเราฟังเพลงอยู่แล้วไม่ได้ตั้งใจจะจับผิดถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว และที่สำคัญเมื่อเราเปิดโหมดนี้แล้วเนื่องจากบรรยากาศเสียงโดยรวมจะมีความเงียบสงัดมากยิ่งขึ้นก็จะทำให้เราได้ยินรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงเสียงเบสได้ดี ได้ยินเบสย่านลึกมากยิ่งขึ้นอีกระดับหนึ่งด้วย

สำหรับฟีเจอร์รับเสียงภายนอก หรือ Transparency Mode ถือว่าทำได้ดี เป็นโหมดที่ส่วนตัวผมชอบและใช้ค่อนข้างบ่อย เพราะส่วนใหญ่ผมชอบฟังเพลงในเวลาทำงาน แต่ก็มักจะมีคนเรียกเราหรือต้องการคุยกับเราอยู่บ่อยๆ จะถอดหูฟังเข้าออก หรือจะกดเปิดปิดโหมดนี้ก็อาจไม่ทันใจในบางครั้ง ผมจึงชอบเปิดโหมดนี้ไว้ทำให้เราสามารถฟังเพลงได้พร้อมกับยังคงได้ยินเสียงคนรอบข้างเหมือนเดิม แต่เราก็ต้องเปิดที่ระดับความดังปกติหรือเบากว่าปกติเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นก็จะโดนเสียงเพลงกลบอยู่ดีนะครับ

ทดสอบดูหนัง เล่นเกม

การดูหนังและเล่นเกม ต้องบอกตามตรงว่าตัวหูฟังจะมีการรับส่งสัญญาณกับตัวมือถือที่ดีเลย์เล็กน้อย หากรับชมคลิปวีดีโอ หนัง หรือ ซีรีส์ จะสามารถรับชมได้อย่างไม่มีปัญหา แต่หากใครที่เล่นเกมแนว FPS อย่าง Call Of Duty หรือใครที่เป็นสายเล่นเกมแบบจริงจังอาจไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่เพราะจะมีอาการหน่วงให้เห็นได้ แต่ถ้าหากเล่นเกมแนวอื่น หรือเล่นเกมบางเป็นครั้งคราวก็ถือว่าใช้งานแบบลำลองได้อยู่ครับ

แต่ในเรื่องของเสียงถือว่าดีทีเดียว ทำให้เราสามารถรับรู้ทิศทางของตัวละครจากในหนังหรือศัตรูจากในเกมว่ามาจากทิศทางไหนอย่างชัดเจน ให้เราเข้าถึงอารมณ์ของหนังและเกมได้ดีกว่าการรับฟังผ่านลำโพงมือถือหลายเท่า ให้เสียงที่กระหึ่ม เบสลึก ลูกใหญ่ เสียงพูดชัดพอประมาณติดทุ้มเล็กน้อย แต่มีข้อสังเกตนิดหน่อยตรงที่เวลาเราดูหนังฉากที่มีเสียงเข้ามาพร้อมกันหลายอย่าง เช่นเสียงคนพูดระหว่างฉากสงคราม เสียงพูดอาจจะมีความเบาบางลงไปบ้างแต่ก็ยังสามารถรับฟังได้อย่างไม่มีปัญหา

ทดสอบคุยโทรศัพท์

หูฟังทั้ง 2 รุ่นนี้ได้ถูกติดตั้งไมโครโฟนสำหรับคุยโทรศัพท์มาให้ด้วย จากการทดสอบถือว่าสอบผ่านเลย เสียงของเราที่ถูกส่งไปยังปลายทางถ้าอยู่ในที่ที่ไม่มีเสียงรบกวนถือว่าทำได้ดีเลย ส่วนเวลาที่อยู่ในที่ที่เสียงรบกวนค่อนข้างมากเวลาที่เรายังไม่ได้พูดอาจมีเสียงเข้ามาเยอะพอสมควร แต่ในขณะที่เราพูดตัวไมค์ถือว่าจับเสียงของเราส่งไปสู่ปลายทางได้ค่อนข้างชัด เรียกว่าสามารถนำไปใช้คุยโทรศัพท์ได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องเสียงปลายทางมาสู่หูฟังของเรานั้นให้เสียงที่ดังฟังชัดเจนเป็นปกติ

สรุป

Denon AH-C830NCW และ AH-C630W เป็นหูฟัง True Wireless 2 รุ่นแรกจาก Denon ที่มีคุณภาพเสียงดี ฟังเพลงได้ทุกแนว ตัวหูฟังและเคสมีน้ำหนักเบา ขนาดเล็กกะทัดรัด มีดีไซน์ที่สวยงามทันสมัยเข้ากับทุกเพศทุกวัย ใครที่มีงบประมาณเยอะหน่อยอยากได้ฟีเจอร์ครบครัน คุณภาพเสียงแบบสุดทาง รวมถึงฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนอย่าง Active Noise-cancelling และ Transparency Mode ก็แนะนำให้เลือกเป็นรุ่นพี่อย่าง AH-C830NCW แต่ถ้าหากใครมีงบประมาณที่จำกัดไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน เน้นฟังเพลง ดูหนัง ใช้งานแบบทั่วไป ต้องการประหยัดงบก็สามารถเลือกเป็นรุ่น AH-C630W ได้ โดยรวมถือว่าหูฟังทั้ง 2 รุ่น เป็นหูฟังที่มีระดับราคาที่เข้าถึงง่ายและคุ้มค่าสุดๆ รุ่นหนึ่งในเวลานี้เลย

ข้อดี

  • เป็นหูฟังที่มีดีไซน์เรียบหรู ดูแพง คุณภาพเสียงดี คุ้มค่าคุ้มราคา
  • เคสชาร์จมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กและเบาพกพาง่าย ใส่กระเป๋ากางเกงได้
  • มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนภายนอกอย่าง Active Noise-cancelling และ Transparency Mode ให้เราเลือกใช้งานได้

ข้อเสีย

  • คำสั่งในการใช้งานบางอย่างค่อนข้างใช้งานยากต้องใช้เวลาทำความเข้าใจสักระยะ
  • เคสหูฟังในรุ่น AH-C830NCW มีความมันเงาอาจเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่ายต้องทำความสะอาดบ่อยสักเล็กน้อย

รายละเอียดข้อมูลการจัดจำหน่าย

  • Denon AH-C830NCW ราคา 4,590 บาท
  • Denon AH-C630W ราคา 2,990 บาท
  • หาซื้อได้ที่ Showroom มหาจักร / ร้าน Sound City / ร้าน Dream Theater