ไลน์สินค้า Micro Audio ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์สร้างชื่อให้กับแบรนด์ Denon มาแต่ช้านาน เรียกได้ว่าเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการเครื่องเสียงไม่แพ้เจ้าอื่น และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ทาง Denon ก็ได้กำหนดทิศทางวางชื่อเรียกให้กับกลุ่มสินค้านี้แบบสั้นๆ ว่า CEOL (อ่านว่า เซียล) ซึ่งเป็นคำ Irish ที่แปลว่า Music
สำหรับ Denon CEOL Series จะชูจุดเด่นในเรื่องของความง่ายสบายตัวเดียวจบ รองรับการเล่นเพลงจากหลากหลายสื่อบันเทิง ถ้าเป็นในสมัยก่อนอย่างเก่งก็ CD, AUX และ USB แต่ในปัจจุบันนี้โลกของเรากำลังก้าวไปสู่ยุคไร้กันแล้ว ฉะนั้น Denon CEOL N9 เซ็ต Micro Audio รุ่นล่าสุดที่ผมจะนำมารีวิวนี้ จึงมาเต็มในเรื่องการเล่นเพลงแบบไร้สาย พร้อมกับสามารถแปลงร่างเป็น Music Server ได้อีกด้วย
Denon CEOL N9
ราคาตั้ง 21,900 บาท
Design – การออกแบบ
เซ็ตที่ทีมงานได้มาทดสอบนี้จะเป็นสีขาวมุขงามสง่า จะวางคู่กับเฟอร์นิเจอร์แบบไหนก็สวยเข้าเซ็ตไปหมด ต้องบอกว่า Denon นั้นมือขึ้นมากๆ เรื่องการนำเอาความมีสไตล์เค้ามาใช้กับเครื่องเสียง
ในส่วนของ Head Unit หากเทียบกับรุ่นก่อนหน้า N8 จะไม่เจอ Docking อีกต่อไปแล้ว เดาว่าทางแบรนด์คงเบื่อที่จะต้องวิ่งตามพอร์ตสารพัดที่เปลี่ยนแปลงกันอยู่ตลอดเวลา จึงตัดสินใจเอาออกดีกว่า แล้วใส่เครื่องอ่าน NFC เข้ามาแทนบริเวณมุมซ้ายล่าง
เมื่อกวาดสายตาจากจุดอ่าน NFC มาทางขวาเรื่อยๆ เราก็จะเจอกับปุ่มปรับวอลู่ม, ปุ่ม Source และปุ่มควบคุมแบบสี่ทิศทาง ที่ตรงกลางเป็นปุ่มตกลงและเป็นปุ่มเพลย์ในตัว
ฝั่งซ้ายของบริเวณหน้าปัดเป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และช่องเสียบ USB สำหรับอ่านไฟล์เพลงแบบ MP3, FLAC, WAV, AAC, WMA, MP3 และ AIFF
ทางด้านขวาเป็นปุ่ม EJECT สำหรับเอาถาดใส่แผ่น CD ออกมา ด้านล่างก็เป็นช่องเสียบพอร์ต 3.5 มม. สำหรับใช้ร่วมกับหูฟัง สมดั่งคอนเซ็ปต์เครื่องเดียวจบจริงๆ
มาโฟกัสกันที่ลำโพงกันต่อเลยนะครับ สำหรับลำโพง SC-N9 ที่ถูกจัดมาเข้าชุดกับเฮดยูนิตในครั้งนี้ ทั้งคู่เป็นลำโพงสองทาง กำลังขับข้างละ 120W(PEAK) มีท่อเบสรีเฟล็กซ์ยิงลมออกทางด้านหลัง ใช้ขั้วต่อลำโพงแบบสปริงหนีบ น่าจะพอใช้สายลำโพงขนาดประมาณ 12-14 AWG ได้อยู่ ที่น่าเสียดายคือหน้ากากถูกยึดติดในตำแหน่งที่แกะออกยาก ทำให้อดเปิดโชว์ดอกลำโพงเหมือนที่เคยทำได้ในรุ่นก่อนหน้า
Connectivity – ช่องต่อ
สลับมาดูช่องต่อด้านหลังจะพบว่าแม้จะเป็นเครื่องสำหรับการใช้งานแบบเล็กๆ ไม่ซีเรียส แต่ก็นำสารพัดช่องต่อใส่มาเพียบอยู่เหมือนกัน
ช่องต่อที่ใช้งานหลักๆ นั้นก็มีดังต่อไปนี้
- ANALOG IN
- SUB WOOFER OUT
- DIGITAL IN 1 และ 2
- ANTENNA
- NETWORK (LAN)
- SPEAKER Cable
นอกจากนี้จะเห็นปุ่มแดงๆ สองอันเขียนว่า WPS และ iOS สำหรับช่วยในการเชื่อมต่อกับ Wireless Router ให้ง่ายขึ้นโดยจุดนี้เราสามารถดูคู่มือประกอบในการใช้งานได้ครับ