ภาพ
สเปคด้านภาพ ของ EF-100W เครื่องนี้เป็น 3LCD Projector ที่ใช้แหล่งกำเนิดแสงแบบ Laser ให้ความสว่างได้สูงถึง 2000 Lumens สู้แสงได้ในระดับหนึ่ง ความละเอียดภาพแบบ WXGA หรือ 1280 x 800 Pixelอัตราส่วนภาพ 16:10 โดยสามารถฉายภาพได้ตั้งแต่ขนาดภาพ 30 นิ้วที่ระยะ 0.65 เมตร ไปจนถึงใหญ่สุดที่ 150 นิ้ว ที่ระยะ 3.41 เมตร เลยทีเดียว ส่วนขนาดของภาพที่ทาง Epson แนะนำ มาว่าจะให้คุณภาพของภาพที่ดีที่สุดจะอยู่ที่ขนาดภาพ 60 นิ้ว ในระยะฉายที่ 1.34 เมตร
ในเรื่องของ อายุการใช้งาน เนื่องจาก EF-100W เครื่องนี้ใช้แหล่งกำเนิดแสงเป็นแบบ Laser จึงมีอายุการใช้ที่ยาวนานได้สูงสุดถึง 20,000 ชั่วโมง เลยทีเดียว (โหมด ECO) ยาวนานกว่าโปรเจคเตอร์ทั่วไปที่ใช่แหล่งกำเนิดแสงแบบหลอดใส้ ซึ่งมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 4000 ถึง 5000 ชั่วโมงเท่านั้น
แม้ว่า EF-100W เครื่องนี้จะเป็นโปรเจคเตอร์แบบพกพา แต่คุณภาพของภาพก็ไม่ได้เป็นรองรุ่นใหญ่เลย โหมดภาพสำเร็จรูปที่มีมาให้จากโรงงานก็มีความเที่ยงตรงพอสมควร สามารถให้ขอบเขตสีได้มากถึง 85.5 % ของมาตราฐาน sRGB/Rec.709 ในโหมด Dynamic, Bright Cinema และ Cinema
ส่วนโหมดภาพสำเร็จรูปที่มีความเที่ยงตรงที่สุด ให้ขอบเขตสีที่ถูกต้องที่สุดจะเป็นโหมด Natural ที่แม้ขอบเขตของสีจะลดลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ 81.3 % ของมาตรฐาน sRGB/Rec.709 แต่อุณหภูมิของสีถือว่าดีมาก วัดได้อยู่ที่ 6506 K ซึ่งโหมดนี้ทำให้ ภาพได้จะมีความเป็นธรรมชาติและใกล้เคียงมาตรฐานภาพตามอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่สุด ส่วนใครที่จะนำโปรเจคเตอร์เครื่องนี้ไปใช้งานในที่ๆ มีแสงสว่างหรืออยากได้ภาพที่เปิดสว่างสู้แสงก็แนะนำให้ใช้โหมด Dynamic ที่โดยรวมคุณภาพของภาพยังถือว่าดี ความเที่ยงตรงไม่เพี้ยนมากจนเกินไป
ในเรื่องของการปรับภาพ แม้ EF-100W จะเป็นโปรเจคเตอร์รุ่นเล็ก แต่ก็สามารถปรับภาพแบบละเอียดได้เท่ารุ่นใหญ่เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2-point White Balance, Color Management System (CMS) และ Gamma ใครที่มีความรู้ความสามารถหรือมีอุปกรณ์ปรับภาพก็สามารถเข้ามาตั้งค่าแก้ไขในจุดนี้ได้
อีกหนึ่งจุดที่ส่วนตัวผมไม่เคยเห็นในโปรเจคเตอร์รุ่นไหนมาก่อนคือ EF-100W เครื่องนี้สามารถปรับระดับความสว่างของหลอดฉายได้แบบละเอียดมาก โดยกดเพิ่มหนึ่งครั้งจะเป็นการเพิ่มขึ้นที่ละ 5% ตั้งแต่ 50% 55% 60%… ไปจนถึง 100% ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีเลยทีเดียว
พูดถึงสเปกกันไปแล้วที่นี้เรามาลอง ทดสอบ ใช้งานจริงกันบ้างดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไร เรื่องแรกที่นำมาทดสอบจะเป็นภาพยนตร์ Action ชื่อดังอย่าง Mission Impossible : Fall Out ในช่วงฉากขับเฮลิคอปเตอร์ไล่ล่ากันท้ายเรื่อง ภาพที่ได้ออกมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีความเป็นธรรมชาติ สีผิว สีต้นไม้ สีหิมะ ต่างๆ ทำออกมาได้ดี ส่วนความคมชัดแม้จะไม่เท่าโปรเจคเตอร์ที่มีความละเอียดระดับ Full HD หรือ 4K UHD แต่หากนั่งในระยะที่เหมาะสมภาพที่ได้ถือว่าคมชัดพอสมควร
อีกเรื่องหนึ่งกับหนังในตำนานอย่าง AVATAR ในช่วงสู่รบกันท้ายเรื่อง สีผิวที่เป็นสีฟ้าของเหล่า AVATAR สีต้นไม้ใบหญ้า ดูดี ดูสวยงาม บวกกับขนาดของจอภาพที่มีขนาดใหญ่ทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
ด้วยความที่ EF-100W เป็นโปรเจคเตอร์แบบ Home Entertainment เชื่อว่าหลายๆ คนต้องนำไปเปิดการ์ตูนนั่งชมกับลูกๆ อย่างแน่นอน ผมเลยลองหยิบการ์ตูนเรื่อง Angry Birds มาทดสอบดู ภาพที่ได้ถือว่าดีเลยทีเดียว สีสันที่ได้มีความชัดเจน โดดเด้งในระดับหนึ่ง แม้ไม่เท่ากับโปรเจคเตอร์รุ่นใหญ่ๆ แต่ก็ทำให้การดูการ์ตูนมีความสนุก มีความสุขร่วมกับครอบครัวได้เป็นอย่างดีเลย
ดูหนังกันไปแล้วที่นี้มาทดสอบในส่วนของการ เล่นเกม Street Fighter V บน PS4 Pro กันบ้าง แม้ว่า EF-100W เครื่องนี้จะไม่มีโหมด Game มาให้ แต่จากการที่ได้วัดค่า Input Lag ของโหมดภาพของทุกโหมดนั้นเท่าๆ กันอยู่ที่ประมาณ 40-42 Ms เท่านั้น ทำให้การเล่นเกมนั่นออกดี ลื่นไหลไม่มีสะดุดเลยครับ
