11 Nov 2016
Review

รีวิว Harman Kardon Aura Studio เบสลึกลั่น สนั่นทุกอณูทั่วห้องครอบคลุม 360 องศา


  • lcdtvthailand

Wireless Bluetooth Home Speaker System

Harman Kardon Aura Studio

ราคา 11,900 บาท

หากซาวด์บาร์ยังรู้สึกใหญ่เกินไป สำหรับการใช้งานภายในห้องนอนขนาดเล็กหรือห้องทำงานภายในออฟฟิศ คงดูไม่เหมาะเท่าไรที่จะติดตั้งซาวด์บาร์ เนื่องจากความยาวของซาวด์บาร์ที่บางท่านประสบปัญหาในการติดตั้ง และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจ ตอบโจทย์ข้างต้นด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครของรุ่นนี้

จากลำโพงรุ่นขึ้นชื่อของ Harman Kardon ที่สร้างคำชมเอาไว้มากมายอย่าง Aura สู่ Aura Studio รุ่นต่อยอดที่ลดระดับลงมา แต่ไม่ลดด้านคุณภาพเสียง เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงและจับต้องได้มากขึ้น ซึ่งหน้าตาและดีไซน์ถอดแบบชนิดโคลนนิ่งกันมาเปรียบเสมือนน้องฝาแฝดเลยก็ว่าได้

คลิปทดสอบเสียงสดๆ จาก Aura Studio

เชื่อว่าหลายท่านคงเคยเห็นดีไซน์ผ่านตากันมาบ้างแล้ว ต้องบอกก่อนเลยว่าเห็นหน้าตาแปลกๆ แบบนี้ ในรุ่น Aura เคยได้คว้ารางวัล Red Dot Design Award ประจำปี 2013 มาแล้ว เป็นสิ่งยืนยันถึงคุณภาพได้เป็นอย่างดี และในรุ่น Aura Studio ก็ยังคงดีไซน์เดิมเอาไว้ เพราะเหตุใด ทำไมถึงยังใช้ดีไซน์แบบนี้ ไปทำความรู้จัก พร้อมหาคำตอบถึงเหตุผลของการออกแบบกันดีกว่า

Design – การออกแบบ

มาพิจารณาส่วนต่างๆ ของดีไซน์อันแปลกตารุ่นนี้กันก่อน ตัวเครื่อง Aura Studio จริงๆ จะมีเพียงฐานด้านล่าง ส่วนที่เหลือด้านบนเป็นโดมพลาสติกใส ผิวเรียบมันเหมือนแก้ว มีความแข็งแรงทนทาน ครอบทับตัวเครื่องเอาไว้อยู่ โดยส่วนบนของโดมจะมีรูท่ออยู่ตรงกลางทอดยาวลงมาด้านในคล้ายกรวย

ดีไซน์ที่แตกต่าง สร้างความสวยงามสะดุดตาไม่ใช่เล่น

Aura Studio มีความสูง 14.3 นิ้ว ความกว้าง 9.9 นิ้ว และน้ำหนักประมาณ 2 กก. นิดๆ ให้เสียงแบบ 2.1 Channel ส่วนล่างนี้จะรวบรวมดอกลำโพงเอาไว้ด้วยกัน ด้านข้างจะประกอบไปด้วยไดรเวอร์ Mid – High Range ขนาด 1.5 นิ้ว จำนวน 6 ดอก วางตำแหน่งกระจายอยู่รอบๆ ตัวเครื่อง หุ้มด้วยผ้ายืดสีดำ แปะด้วยโลโก้อะลูมิเนียมมันวาวไว้ตรงกลาง ใต้ตัวเครื่องมีขาตั้งเป็นยางซิลิโคนยืดหยุ่นแข็งแรง เหนียวแน่นไม่ลื่นไหล ลดแรงสะเทือนได้เป็นอย่างดี

ปุ่มคำสั่งต่างๆ จะอยู่ตรงแถบซิลิโคนด้านข้างตัวเครื่อง คั่นระหว่างส่วนของผ้าและโดมพลาสติกใส ปุ่มคำสั่งจะมีดังนี้ ปุ่มปิด/เปิดเครื่อง, ปุ่มเปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth และปุ่มสำหรับการใช้งานรับสายโทรศัพท์ผ่านลำโพง ซึ่งลำโพงรุ่นนี้ได้รับการบิลต์อินไมโครโฟนในตัว สะดวกต่อการใช้งาน โดยปุ่มคำสั่งดังกล่าวเหล่านี้ เป็นระบบสัมผัส ใช้งานง่ายเพียงแตะเบาๆ ไฟ LED ที่ปุ่มก็จะแสดงออกมา

นอกจากนี้ยังมีปุ่มเพิ่ม/ลดความดัง แต่จะไม่มีไฟแสดงผล LED และตัวปุ่มจะมีผิวนูนขึ้นมาต่างจากปุ่มอื่น

อีกด้านของตัวเครื่องจะรวบรวมช่องเชื่อมต่อต่างๆ เอาไว้ เริ่มจากช่องซ้ายได้แก่ ช่องเสียบสาย AUX ขนาด 3.5 มม., ช่องเสียบสาย USBสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นเพื่ออัพเดตเฟิร์มแวร์ และสุดท้ายคือช่องเสียบสาย AC Adaptor ภายในชุดได้ให้หัวปลั๊กต่ออะแดปเตอร์สำหรับเสียบเต้ารับไฟถึง 3 แบบด้วยกัน สามารถเลือกใช้ได้ตามเหมาะสม

แอบเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีช่องเสียบสาย Optical แบบรุ่น Aura

ด้านในของโดมใส จะเป็นช่องคายลมด้านหลังไดรเวอร์ของซับวูฟเฟอร์นูนขึ้นมา มีดีไซน์เป็นเกลียวตัดด้วยไฟ LED เพิ่มความโดดเด่น ซึ่งรุ่นนี้ไม่สามารถปรับระดับความสว่างของไฟ LED ได้ คงที่อยู่ในระดับเดียว เวลากดปุ่มเพิ่ม/ลดความดัง ไฟ LED นี้จะให้สัญญาณด้วยการกระพริบ เมื่อใช้งานในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืน แสงจากไฟ LED จะสะท้อนกับท่อ เกิดเป็นความงามคล้ายตะเกียงเลยทีเดียว

โดมใสนี้ไม่สามารถถอดออกได้ หากมีอะไรหล่อนเข้าไปในรูท่อคายเสียง อาจเอาออกกันลำบาก

เพื่อเติมเต็มมิติในการฟังให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น Harman Kardon ได้จับดอกลำโพงซับวูฟเฟอร์มาใส่ในรุ่นนี้ด้วย บางท่านอาจสงสัยว่าอยู่ตรงไหน เมื่อจับตัวเครื่องหงายขึ้นมาก็จะพบกับดอกซับวูฟเฟอร์ขนาด 4.5 นิ้ว มีวัสดุเป็นกระดาษขอบยาง หันหน้าแบบ Down-Firing ทำหน้าที่ยิงเสียงลงพื้น เพื่อกระจายเสียงเบสออกไปรอบทิศทาง

ทีเด็ดของรุ่นนี้ซ่อนอยู่ด้านล่างนั่นเอง!

Features – ลูกเล่น

ลูกเล่นที่อยากพูดถึงเป็นอันดับแรก นั่นคือฟีเจอร์ 360º Sound ไฮไลต์ของรุ่นนี้ ที่จะให้เวทีเสียงกว้างครอบคลุม 360 องศา ด้วยการออกแบบให้ดอกลำโพงกระจายอยู่รอบข้างตัวเครื่อง เพื่อขยายองศาการถ่ายทอดเสียง ส่วนซับวูฟเฟอร์ก็คอยยิงเสียงลงพื้น กระจายเบสออกรอบตัว บวกกับโดมใสที่มีกรวยท่อคายเสียงชี้ขึ้นด้านบน ช่วยเติมเต็มให้เสียงแผ่กระจายออกได้อย่างทั่วถึง ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง

ผังการออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงการกระจายเสียงอย่างครอบคลุม

หากเปรียบกับทีวี เวลารับชมทีวีจากมุมเฉียงออกด้านข้างจะเห็นสีของภาพที่ผิดเพี้ยนต่างจากการรับชมในมุมตรงอย่างชัดเจน ลำโพงเองก็มีข้อจำกัดด้านนี้เช่นกัน เมื่อออกนอกพื้นที่เสียงของลำโพงนั้น คุณภาพเสียงที่ได้ยินก็จะตกลง ซึ่ง Aura Studio ออกแบบมาให้ทำลายขีดจำกัดดังกล่าว ไม่ว่าจะตั้งที่มุมไหนก็สามารถกระจายเสียงออกได้ 360 องศา เติมเต็มเสียงได้ทั่วทั้งห้อง

การออกแบบพิเศษ ช่วยกระจายเสียงครอบคลุมแม้อีกฝั่งจะไม่มีดอกลำโพง

อีกหรึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน กับฟีเจอร์ Speaker Phone ผ่านลำโพง ให้สามารถรับสายโทรศัพท์ พูดคุยสนทนากับคู่สายได้โดยไม่ต้องรับสายบนสมาร์ทโฟนที่จับคู่การเชื่อมต่ออยู่ ด้วยไมโครโฟนที่ถูกบรรจุลงในเครื่องนี้ ส่วนการใช้งานลำโพงผ่านแอพพลิเคชั่น Harman Kardon Remote บนสมาร์ทโฟนนั้น สามารถใช้งานฟังเพลงผ่านแอพนี้ได้ แต่ไม่สามารถปรับแต่ง EQ หรือระดับความสว่างของไฟ LED บนลำโพงได้

สัญลักษณ์แสดงให้เห็นถึงไมโครโฟนบนตัวเครื่อง