21 Jan 2016
Review

สวยเนี๊ยบเฉียบทุกมุม รีวิว Harman Kardon : ESQUIRE Bluetooth Speaker


  • boom

Harman Kardon แบรนด์เครื่องเสียงอเมริกาแดนในฝันที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรามาเป็นเวลานานพอสมควร ด้วยชื่อเสียงเรื่องความดุดันในพลังเสียงที่หนักหน่วงไม่แพ้ใคร ทำให้ชาวหูเหล็กหลายท่านล้วนติดใจในคุณภาพของสินค้าจากแบรนด์นี้ เรียกได้ว่าใครอยากได้เบสหนักหน่วงมาเป็นลูกหนักอัดกระแทกชัดเจนก็ต้องมองหาตัว HK ที่หน้าเครื่องกันเลยทีเดียว

ทว่าปัจจุบันสถานการณ์การเสพย์เสียงได้เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่เปิดแผ่นเสียงกันธรรมดา กลายมาเป็นฟังจากคลังเพลงเคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบันก็ไม่จำเป็นจะต้องเสียบสายสัญญาณให้พันรกรุงรังกันอีกต่อไป นิยมหันมาใช้แบบ Wireless ผ่านช่องสัญญาณต่างๆมากขึ้น ทาง Harman Kardon เองก็ไม่อาจทำตัวเป็นคนแก่ยุคโบราณได้ ก็ต้องหันมาเกาะติดกระแสนิยมออกสินค้ามารองรับตลาดนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของสินค้าที่ผมจะนำมารีวิวในครั้งนี้นามว่า Harman Kardon “ESQUIRE”

ESQUIRE คำนี้หากเปิดดิคฯดูความหมายก็จะแปลว่า “ข้ารับใช้ประจำอัศวิน” แหม่ ฟังละเท่ไม่หยอกเลยทีเดียวสำหรับลำโพงแบบพกพาตัวนี้ โดยความสามารถพื้นฐานของกล่องสี่เหลี่ยมชิ้นนี้คือรองรับการเล่นเพลงแบบไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth พร้อมแบตเตอรี่แบบ Li-on 7.4V/4000mA ภายในตัว รองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมงติดต่อกัน ออกแบบมาตรงไลฟ์สไตล์วัยสะรุ่นสมัยนี้อย่างแรง ส่วนประสิทธิภาพเสียงจะเจ๋งขนาดไหน ผมจะมาทดสอบให้ทุกท่านได้รับชม ณ บัดนาวว..

Harman Kardon ESQUIRE Portable, wireless Speaker
– แอมป์กำลังขับ 2×10 Watts ตอบสนองความถี่ที่ 80-22kHz
– แบตเตอรี่กำลังไฟ 7.4V/4000mA รองรับการใช้งานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง
– รองรับการเล่นไฟล์ผ่าน 3 ช่องทาง NFC, Bluetooth และ ช่อง AUX 3.5 มม.
– ขนาดโดยประมาณ 147(W) x 147(H) x 46.5(D)mm.

ราคาตั้ง 9,990 บาท

Design – การออกแบบ

แกะกล่องออกมาดูความงามกันเลยดีกว่า โดยทั่วไปแล้วจะมีสีสามสีให้เลือกคือ ดำ, ขาว และน้ำตาล
สำหรับสีที่เราได้มาทดสอบคือสีน้ำตาลครับ
เปิดกล่องมาก็พบกับกระเป๋าหนังสำหรับพกพา ด้านในมีที่ชาร์จไฟและสาย USB สำหรับเสียบชาร์จ
พร้อมกับตัวเครื่อง ESQUIRE นอนแน่นิ่งเป็นสีน้ำตาลโอวัลตินอยู่
มาดูตัวเครื่องใกล้ๆเลยดีกว่าครับ ด้านนี้เป็นหน้ากากกันไดร์เวอร์ลำโพงใช้วัสดุเป็นพลาสติกแข็งเหมือนลำโพงทั่วไป
ด้านในซุกซ่อนเอาลำโพงสองทางพร้อมกับ bass port เอาไว้ โดยถ้าเราวางหงายแบบนี้เสียงก็จะยิงขึ้นด้านบนครับ
พลิกคว่ำมาอีกด้านจะเป็นผิวสัมผัสหนังแท้ที่ซุกซ่อนเอา NFC Reader ไว้ งดงามเลอค่าอย่างแรง
แต่วางคว่ำแบบนี้ท่าจะไม่ค่อยดี เสียงคงอู้อี้น่าดู
รูปแบบการวางเพื่อใช้งานที่ทางผู้ผลิตแนะนำคือแบบนี้ครับ วางตั้งขึ้นโดยเอาด้านที่เป็นยางซิลิโคนสีน้ำตาลลง
แล้วหันด้านลำโพงเข้าหาคนฟังครับ ซึ่งถ้าผิวโต๊ะเรียบจริงตัวลำโพงก็สามารถตั้งได้นิ่งและมั่นคงไม่ต้องกลัวล้มครับ
บริเวณด้านบนเป็นปุ่มกดต่างๆ สังเกตุว่ามีปุ่มนึงมีสัญลักษณ์โทรศัพท์อยู่
ถูกต้องละครับคุณดูไม่ผิด ลำโพงตัวนี้ใช้เป็น Handsfree เพื่อคุยโทรศัพท์ได้ด้วย!
บริเวณนี้เป็นช่องเสียบสาย Micro USB และ AUX 3.5 มม.
ข้างๆเป็นไฟแถวสีขาว 5 ดวง บอกสถานะแบตเตอรี่ครับผม
เราสามารถกดที่ปุ่ม Play/Pause เพื่อเช็คปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือได้
ซึ่งก็จะแสดงเป็นแถวไฟ LED สีขาวอย่างรูปด้านบนนี้ครับผม

เห็นดีไซน์โดยรวมแล้วต้องอุทานมาดังๆว่า “หรูโคตร!” เป็นลำโพงตระกูล Micro Audio ที่หรูหราที่สุดเท่าที่ผมเคยจับมาเลย ต้องชมทีม Harman ว่าเก็บงานได้เทพมากๆ เนี๊ยบทุกอนูสัมผัสโดยเฉพาะผิวหนังแท้บริเวณที่เป็น NFC Reader เพิ่มค่าให้ตัวสินค้ามากขึ้นไปอีกหลายสเต็ปนัก การจัดวางปุ่มต่างๆก็ออกแบบมาได้เหมาะสมและคงทน โดยที่กดง่ายแต่พังยาก ด้านดีไซน์นี่ถูกใจคนรีวิวอย่างแรงนี่บอกเลย