26 Nov 2019
Review

รีวิว Hisense 100LN60D สะใจทั้งภาพและเสียงจาก 4K HDR Laser TV ขนาด 100 นิ้ว !!


  • ชานม

ช่องต่อ

Hisense Laser TV ติดตั้งจุดเชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงที่ฝั่งซ้ายเมื่อมองจากด้านหลัง ซึ่งช่องต่อ HDMI In นั้น มีจำนวนมากกว่าโปรเจ็คเตอร์ทั่วไป จึงขยับขยายเพิ่มจำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อได้มากกว่า
HDMI In 4 ช่อง ประกอบไปด้วย HDMI v2.0 2 ช่อง และ HDMI v1.4 2 ช่อง (รองรับ ARC ที่ HDMI 2 In), USB 3.0 และ 2.0 อย่างละ 1 ช่อง ใช้เชื่อมต่อ Storage Devices (Flash Drive, HDD) เพื่อเล่นไฟล์ หรือใช้งานอุปกรณ์ Mouse/Keyboard

ช่องต่อรับสัญญาณเสียงอะนาล็อกแบบ Mini Jack (3.5 mm), ช่องต่อสัญญาณเสียงออกแบบอะนาล็อก (RCA) และแบบดิจิตอล (Optical)Ethernet (LAN) พร้อม Wi-Fi และ Bluetooth, ช่องต่อสายไฟเป็นมาตรฐาน IEC ถอดเปลี่ยนสายได้

ส่วนด้านข้าง ประกอบไปด้วย DVB-T2 Antenna In รับสัญญาณดิจิตอลทีวีจากเสาอากาศ นอกจากนี้ยังมี DVB-S2 Antenna In เพื่อรับสัญญาณจากดาวเทียม แต่ผมไม่ได้ลองนะครับว่าสามารถรับช่องรายการจานดาวเทียมของไทยได้ไหม

สรุปจำนวนช่องต่อของ Hisense 100LN60D ได้ดังนี้

HDMI™ In 4 (ด้านหลัง) 
USB2 (ด้านหลัง)
Ethernet1 (ด้านหลัง) พร้อม Wi-Fi Built-In
Composite Video In
Component Video In
RF (Antenna) In2 (ด้านข้าง) พร้อม DVB-T2
และ DVB-S2 Digital Tuner
PC HD15 In1 (ด้านหลัง)
Analog Audio In1 (Mini Jack ด้านหลัง)
Digital Audio Out1 (Optical ด้านหลัง)
Audio/Headphone Out1 (RCA ด้านหลัง)
Bluetooth AudioYes

เพิ่มเติม

ระบบปฏิบัติการ VIDAA U แบบเดียวกับ Smart TV ของ Hisense ลักษณะของอินเทอร์เฟสที่เรียบง่ายดูไม่ซับซ้อน ไปจนถึงลูกเล่นใช้งานต่างๆ ทำได้เหมือนกัน แน่นอนว่าเพิ่มลูกเล่นความหลากหลายเหนือกว่าโฮมเธียเตอร์โปรเจ็คเตอร์ทั่วไปแน่
หนึ่งในนั้นคือการติดตั้งแอพพลิเคชั่นความบันเทิงเพิ่มเติม ที่คุ้นๆ และใช้งานกันเป็นประจำ อาทิ YouTube, Netflix, PLEX, Media Player, Web Browser และ Games ความลื่นไหลก็นับว่าใช้ได้ ไม่ได้รู้สึกว่าติดขัด
สามารถเล่น Netflix, YouTube บริการวิดีโอสตรีมมิ่งยอดฮิตได้เลยไม่ต้องไปซื้อกล่องแยกต่อทาง HDMI แบบโปรเจ็คเตอร์ทั่วไป รองรับระบบภาพ 4K HDR10

ภาพ

โดยลักษณะที่เป็น Ultra Short-throw Projector จัดวางเลนส์ให้มีระยะตั้งวางประชิดเกือบติดกับจอรับภาพจึงมีอัตราสูญเสียแสงน้อย ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีแสดงภาพแบบ DLP (Digital Light Processing) พร้อมแหล่งกำเนิดแสง Dual Laser + Color Filter Phosphor ซึ่งให้ระดับความสว่างสูง ภาพของ 100LN60D Laser TV จึงดูสว่างเจิดจ้า โดยศักยภาพสู้แสงนั้นดูไม่แพ้ทีวีจริงๆ ทดลองวัดแสงที่สะท้อนจากจอรับภาพก็ยังสว่างราวๆ 200 – 300 nits! ถือว่าสว่างมากสำหรับมาตรฐานโปรเจ็คเตอร์

เทคโนโลยีแสดงภาพแบบ DLP และแหล่งกำเนิดแสง Dual Laser + Color Filter Phosphor หัวใจสำคัญของ Hisense Laser TV มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 2 หมื่นชั่วโมง
ไม่ใช่แค่เรื่องความสว่างสูงเพียงอย่างเดียว จุดเด่นของเทคโนโลยี Dual Laser ยังรวมไปถึงความสามารถรองรับขอบเขตสีกว้าง (Wide Color Gamut) หากอ้างอิงมาตรฐาน BT.2020 ทำได้ครอบคลุม 77.03% หรือเท่ากับ 98.34% หากอิงมาตรฐาน UHDA-P3
โหมดภาพเมื่อรับชมคอนเทนต์แบบ SDR นั้น มีจำนวน 5 โหมด หากใครเคยใช้งานทีวีของ Hisense มาก่อนก็คงจะคุ้นเคยดี เพราะอิงมาตรฐานแนวภาพแบบเดียวกัน ซึ่งโหมดภาพที่ให้ความเที่ยงตรงดีที่สุด คือ Cinema Day และ Cinema Night ตามคาด ความต่างคือ Cinema Day ตั้งระดับ Light Level ไว้เต็ม เหมาะใช้งานเวลากลางวันหรือในห้องที่เปิดไฟ ในขณะที่ Cinema Day ความสว่างจะเพลาลง เหมาะใช้งานในห้องที่ควบคุมแสงรบกวนได้แบบในห้องโฮมเธียเตอร์
อุณหภูมิสีของโหมด Cinema Day/Night จะติดโทนเย็นนิดๆ เฉลี่ย 7000K เข้าใจว่าเพื่อชดเชยกับแสงไฟตามบ้านที่มักจะใช้หลอดไฟแสงสีออกไปทางโทนอุ่น โดยรวมยังให้สมดุลสีได้ดี
กรณีที่ต้องการปรับภาพเพิ่มเติมสามารถทำได้ โดยในจุดนี้ดำเนินการได้ละเอียดครอบคลุมเช่นเดียวกับมาตรฐานทีวีของ Hisense ตัวเลือกตั้งค่าต่างๆ อิงตามกันมาเลย ในส่วนของ White Balance รองรับทั้ง 2-point และ 10-point ไปจนถึง CMS (Color Management System) และ Gamma
โหมดภาพเมื่อรับชม HDR มี 4 โหมด ซึ่งด้วยพื้นฐานจากแหล่งกำเนิดแสงแบบ Dual Laser ที่ให้ระดับความสว่างเจิดจ้ามาก ภาพดูมีพลังไม่แพ้ 4K HDR TV ยิ่งถ้าหากรับชมในห้องมืดที่คุมแสงรบกวนได้ 100% ด้วยแล้วล่ะก็ การถ่ายทอดความเปรียบต่างของแสงได้อย่างเต็มที่ภาพดูเจิดจรัสเตะตาดีจริงๆ
แต่แน่นอนว่าหากรับชมภาพ HDR จากแหล่งกำเนิดแสง Dual Laser ที่สว่างมาก ในห้องมืดสนิทนานๆ สายตาจะล้าเอาได้ แต่ประเด็นนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับ Hisense 100LN60D Laser TV เพราะสามารถปรับระดับความสว่างของแหล่งกำเนิดแสงได้ละเอียดมาก (อารมณ์เหมือนปรับ Backlight ของทีวี) จึงให้ความลงตัวเหมาะกับทุกสภาพใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น