22 Jul 2019
Review

รีวิว Hisense 65B8000 4K Dolby Vision TV ภาพสวยเสียงแจ๋ว ราคาสบายกระเป๋า


  • tormoo

ภาพ

มาเริ่มดูในส่วนของภาพ B8000 รุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียดแบบ 4K รองรับการแสดงผล Dolby Vision ซึ่งเป็นระบบ HDR ขั้นท็อปที่สุดในตอนนี้ทั้งการรับชมผ่าน 4K UHD Blu-ray และ Netflix มาพร้อมชิพประมวลผล Hi-View Engine ที่เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนพลังภาพ

Hisense ยังคงใช้พาแนลแบบ VA ที่มีจุดเด่นที่ระดับความดำที่ดำลึกรวมไปถึงการแสดงสีสันที่สดใส ภาพของรุ่นนี้จะมีในสไตล์ที่อยู่ กึ่งกลางกันระหว่างความนุ่มนวลและความคมชัดภาพที่ออกมานั้นมีความ ชัดแบบสบายตา สีสันสดใสอยู่ในเกณฑ์ดี” ความสว่างสูงสุดก็อยู่ในระดับมาตรฐานของทีวีมิดเอ็นด์ประมาณ 341 nits ในโหมด HDR Day และ 398 nits ในโหมด HDR Sports 

สำหรับใครที่แพลนจะวางทีวีรุ่นนี้ไว้ในห้องที่ควบคุมแสงได้ มันก็จะโชว์ศักยภาพสูงสุดได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าห้องมีแสงจ้าสาดทะลุเข้ามา ภาพที่ได้ก็อาจดร็อปไปบ้าง ดังนี้ตัวช่วยให้ภาพแจ่มขึ้นอย่างอัตโนมัติโดยแทบไม่ต้องพึ่งการปรับภาพคือ ม่านคุมแสง” นั่นเองจ้า 

แต่ก่อนที่จะนำไปทดสอบภาพกับหนังจริง ทีมงานก็ขอวัดค่าและปรับแต่งภาพของ B8000 ให้เข้าที่เข้าทางกันเสียก่อน ตรงนี้ต้องขอชม Hisense อีกครั้งว่า “ค่าเดิมที่ถูกตั้งมาจากโรงงานนั้นค่อนข้างดีอยู่แล้ว” ยิ่งถ้าได้รับการปรับจูนภาพจากผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมอีกสักหน่อย ภาพที่ได้ยิ่งมีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น

วัดค่าการแสดงผลโหมดภาพแบบ SDR อย่าง Cinema Day/Night ทำได้ดีมาตั้งแต่ก่อนปรับ อาจจะติดแดงเล็กน้อยเท่านั้น
วัดความสว่างสูงสุดได้ 398 nits
ก่อนปรับแต่งภาพในโหมด HDR ถือว่าค่อนข้างดีแต่ต้น ทั้ง White Balance สมดุลแสงขาว และ ขอบเขตสี CMS
การแสดงผลแบบ SDR ก่อนปรับแต่งแม้ว่าจะไม่เนี๊ยบเท่า HDR แต่โดยรวมก็โอเค

เรามาดูค่าหลังปรับภาพกันเลยดีกว่า!!!

การแสดงผลแบบ SDR ดีขึ้นแบบชัดเจน จะเห็นได้ว่าค่า Delta E หรือค่าความผิดเพี้ยนของภาพลดลง แถมยังครอบคลุมขอบเขตสีเพิ่มขึ้น
HDR ก็ดีขึ้นเช่นกันแจ่มแจ๋ว สมดุลสีดีขึ้นให้ความเที่ยงตรงดี อาการติดโทนแดงของภาพหายไป

หลังจากที่ปรับจูนภาพให้เข้าที่เข้าทางแล้ว ก็ขอเริ่มทดสอบกับหนัง 4K และ 1080p จริงๆ เรื่องแรกนั้นจะเป็นคิวของ AQUAMAN แบบ 4K HDR Dolby Vision ซึ่ง B8000 นั้นก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แม้ในโหมด Dolby Vision จะไม่เปิดให้มีการปรับค่าภาพ ถูก Fixed เมนูไว้เลย แต่ค่าภาพสำเร็จรูปจากโรงงานก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แนวภาพได้ที่ออกมาสว่างใส สีสันอิ่ม รายละเอียดมาครบ อย่างเช่นแสงสีของพวกลำแสงต่างๆ ก็ออกมาเจิดจรัสในระดับ “พอดีคำ” ไม่มากไม่น้อยไป จึงค่อนข้างดูสบายตา แต่หากจะเอาเจิดจรัสแบบสุดฤทธิ์คงต้องเขยิบไปเล่น OLED TV ตัวท็อปรุ่น 55A91 แทน (ถ้างบถึง)

*เมื่อเปิดคอนเทนท์ที่เป็น Dolby Vision แนะนำให้ใช้โหมด Dolby Vision Dark

ฉากสู้รบใต้น้ำจากเรื่อง AQUAMAN แบบ 4K Dolby Vision ภาพที่ได้ = สวยเลย !

ต่อกันที่คอนเทนท์ 4K HDR10 แบบปกติกันบ้างทีมงานได้เลือกหนังเรื่อง Kingsman มาทดสอบด้วย เพื่อโชว์ศักยภาพของ B8000 ที่ปรับจูนภาพแล้ว ภาพและสีสันมีความถูกต้องสวยงามน่าประทับใจ ผิวของพระเอกนั้นออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เต่งจัดจ้านจนเกินจริง ในขณะที่แว่นตาหรืออุปกรณ์เครื่องแต่งกายรวมไปถึงแสงไฟในฉากก็ยังมีสีสันที่ดูเอิบอิ่ม ติดวาววับเล็กๆ ช่วยเสริมได้มิติภาพได้ดี 

B8000 มีฟีเจอร์ Edge LED – Local Dimming ที่เป็นการเปิด-ปิด-หรี่หลอดไฟ LED เป็นโซนแบบบน-ล่าง ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็ช่วยควบคุมระดับความดำให้ดีขึ้นอีกสเต็ปเล็กๆ ซึ่งโดยตามปกติแล้วทีวีในระดับเริ่มต้นถึงมิดเอ็นด์มักจะไม่ให้ฟีเจอร์นี้มาเพราะต้นทุนมันสูง !

คอนเทนท์ HDR แนะนำให้เลือกใช้โหมด HDR Day เพื่อความถูกต้องของภาพ

*แนะนำให้ปรับระดับของฟีเจอร์ Local Dimming ไว้ที่ Medium จะดิมหลอดไฟได้เป็นธรรมชาติที่สุด

ทดสอบกับหนังความละเอียด Full HD บ้าง ขอใช้เรื่อง Captain America : Civil War เมื่อเปิดดูกับเจ้า B8000 ก็ถ่ายทอดภาพออกมาได้ชัดเจนและสะอาดสะอ้าน คุมสัญญาณรบกวนได้ดีใช้ได้ สำหรับการอัพสเกลภาพจากสัญญาณ Full HD ไปเป็น 4K ถือว่าทำได้ดี และ HD/SD ไปเป็น 4K ก็อาจจะยังชัดกลางๆอยู่ โดยรวมชิพ Hi-View Engine ถือว่า รับมือ” กับคอนเทนต์ทดสอบอันหลากหลายได้ไม่เลว 

*ในโหมดการแสดงผลแบบ SDR แนะนำให้เลือกโหมดภาพ Cinema Night ที่จะให้ภาพที่เที่ยงตรงและถูกต้อง 

*ทีวีรุ่นนี้มีฟีเจอร์ Motion แทรกเฟรมด้วย แนะนำให้ปรับไว้ที่ระดับ Custom – Dejudder ที่ 1 เท่านี้ภาพก็จะลื่นดูใกล้เคียงต้นฉบับ ไม่กระตุกให้สากตา

ภาพ Full HD 1080p จากเรื่อง Captain America : Civil War ถือว่าชัดแบบสบายตา สีสันอิ่มกำลังดี

ทดสอบกับแผ่นหนังแบบ “ออฟไลน์” ครบถ้วนแล้ว ขอทดสอบดูหนังและซีรีส์แบบ “ออนไลน์” ด้วยแอปอันดับหนึ่งที่พวกเราดูกันบ่อยสุดอย่าง Netflix ซึ่งเจ้า B8000 นี่แอบ “ใจป้ำ” รองรับการแสดงภาพ HDR ขั้นท็อปอย่าง Dolby Vision ในขณะที่แบรนด์อื่นจะต้องเป็นตัวท็อปราคาสูงลิ่วเท่านั้นถึงจะยอมให้ฟีเจอร์นี้มา

ทดสอบด้วยซีรีส์เรี่องดังของ Netflix อย่าง Stranger Things ที่กำลังฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง และแน่นอนเรื่องนี้สามารถรับชมแบบ Dolby Vision ได้ด้วย แสงสีนีออนของเมือง Hawkins ที่เป็นฉากหลังของซีรีส์ก็ดูมีความสดใสแบบติดกลิ่นอายวินเทจยุค 80 สีผิวของตัวละครยังคงให้ความเป็นธรรมชาติอยู่ไม่ได้ถูกปรุงแต่งจนโอเว่อร์ รวมถึงฉากระเบิดที่เป็นไคลแม็กซ์ตอนท้ายเรื่องแบบ HDR สีของเปลวไฟแผดเผาตัดสลับกับหมอกควันที่ลอยละล่องช่วยสร้าง “อารมณ์ร่วม” ได้ดีกว่าภาพ SDR แบบปกติที่มักจะขับแสงสีได้แค่ประมาณหนึ่ง จึงได้มิติภาพแบบแบนๆเท่านั้น

B8000 เป็นทีวี 55″ ราคาประมาณสองหมื่น รุ่นเดียวในท้องตลาดที่รองรับ Dolby Vision ภาพของคุณตำรวจฮ็อปเปอร์ ในฉากที่ปืนใหญ่ยิงประตูมิติระเบิดตู้ม !!!!
ส่วนการ์ตูนบน Netflix ภาพสวยอยู่แล้ว ต้นทางเป็น Computer Graphic ได้เปรียบเสมอ

ทดสอบกับเกมส์คอนโซลกันบ้าง ค่า HDMI Input Lag ของ B8000 นั้นก็ถือว่าอยู่ในเกณณ์ใช้ได้เลย โดยโหมดภาพปกติจะอยู่ที่ประมาณ 109.5 ms ซึ่งถือว่าสูงอยู่ แต่เมื่อเปิดใช้งาน Game Mode จะเหลือเพียง 34.8 ms (ไม่ควรเกิน 50 ms ถือว่าดี) ตอบสนองต่อคำสั่งจอยได้ไว ไม่ต้องกลัวว่าจะดีเลย์หรือหน่วงมือแต่อย่างใดเมื่อใช้โหมดนี้

ถ้าเล่นเกม ก็แนะนำให้ใช้ Game Mode เพื่อการตอบสนองต่อคำสั่งจอยที่ฉับไว
Digital TV ก็จูนช่องได้ผ่านฉลุย แนะนำให้ต่อเสาก้างปลาบนหลังคาบ้านจะให้สัญญาณได้ชัดสุด
Digital TV ดูตารางออกอากาศได้ด้วยนะ