เสียง
ต่อด้วยการทดสอบคุณภาพเสียง B8000 มีโครงสร้างลำโพงแบบสเตอริโอซ้าย-ขวา ยิงเสียงลงไปด้านล่างหรือ Down Firing กำลังขับ 10 Watts x 2 เสริมด้วย Passive Radiator ทางด้านหลังที่จะช่วยขับเสียงย่านต่ำมาเพิ่มความนุ่มนวลของเสียงอีกด้วย โดยรวมโทนเสียงของทีวีรุ่นนี้จะมีความใหญ่+นุ่มนวลชวนฟัง ย่านแหลมและกลางก็ถือว่าไม่น้อยหน้าจัดว่าอยู่เกณฑ์ดีกลมกล่อม ส่วนความดังของเสียงถือว่าถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น คือไม่ได้เน้นดังสนั่นลั่นทุ่งแบบ U7A ในปีที่ผ่านมา ทว่าถูกปรับลดความเจี๊ยวจ๊าวลงให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะกับห้องภายในบ้านทั่วไป
อีกจุดเด่นคือความสามารถในการส่งผ่านระบบเสียง Dolby Atmos กลับไปยัง AV Receiver หรือลำโพง Soundbar ที่รองรับระบบเสียงรอบทิศทางขั้นท็อปมาตรฐานนี้ผ่านช่อง HDMI ARC
*โหมดเสียงที่แนะนำก็คือ Standard จะให้สมดุลเสียงที่ดีที่สุดในทุกๆ ย่านเสียง
*** หากอยากอัพเกรดพลังเสียง ขอแนะนำให้ใช้ลำโพง Soundbar ที่มี Dolby Atmos ไปเลย จะได้ใช้ทุกฟีเจอร์เด่นของ B8000 ได้อย่างคุ้มค่าหน่อย
เพิ่มเติม
สำหรับ B8000 ก็จะยังคงมากับระบบปฏิบัติการ VIDAA U 3.0 ของ Hisense เองเหมือนเคย โดยแอปพลิเคชั่นหลักๆ อย่าง Netflix และ Youtube นั้นก็ยังมีประจำการให้เลือกใช้งานเช่นเคย ร่วมด้วยหน้าตาของ UI (User Infterface) ที่ใช้งานง่าย ลองใช้งานเพียงแปบเดียวก็คล่องแล้ว
ซึ่งนอกจากแอปหลักๆ แล้ว VIDAA ก็ยังมีแอปพลิเคชั่นอื่นๆให้เลือกกันด้วย อย่าง PLEX ที่เป็นแอปพลิเคชั่น Media Sever ภายในบ้านก็มีให้ดาวน์โหลดเช่นกัน แม้ว่าแอปพลิเคชั่นโดยรวมแล้วจะมีน้อยกว่าระบบปฏิบัติการอื่นๆไปหน่อย แต่เอาเข้าจริงเท่านี้ก็เหลือเฟือต่อการใช้งานดูวีดีโอและหนังออนไลน์แบบผู้ใช้งานทั่วไป
ยังมีจุดสังเกตของ VIDAA อีกนิดหน่อยก็คือการตอบสนองกับรีโมทจะมีการตอบสนองที่อาจจะไม่เร็วปุ๊บปั๊บแต่ก็ถือว่าไม่ช้าจนน่าอึดอัด และยังไม่รองรับการสั่งงานทีวีด้วยคำสั่งเสียง