29 Jun 2021
Review

รีวิว Hisense 65U8G ULED TV สเปคเด็ดเทียบเคียง UHD Premium ให้ภาพดีในราคาเอื้อมถึง


  • ชานม
การเชื่อมต่อกับ PC และเครื่องเกมคอนโซลยุคใหม่ ทั้ง PS5 และ Xbox Series X นั้น 65U8G รองรับความละเอียดภาพสูงสุดที่ 4K 60Hz หรือ 1080p 120Hz และสามารถเปิดการแสดงผล HDR10 หรือ Dolby Vision ได้
รุ่นนี้มาพร้อมความสามารถ “ALLM” หรือ “Auto Low Latency Mode” โดยระบบจะ On – Game Mode เพื่อลด Input Lag ลงอัตโนมัติขณะเล่นเกม หรือเชื่อมต่อสัญญาณกับ PC หากอ้างอิงที่ความละเอียด 4K 60Hz ค่า HDMI Input Lag จะอยู่ที่ 35.3 ms

หมายเหตุ: กรณีที่ต้องการ On ตัวเลือก Game Mode เอง (เพื่อความชัวร์) ให้ทำการ Off – Auto Low Latency Mode ก่อน จะสามารถปรับเปลี่ยนตัวเลือก Game Mode ได้

ความสว่าง HDR Peak Brightness ระดับ 1,000 nits บวกกับ Wide Color Gamut จากเทคโนโลยี Quantum Dot การถ่ายทอดแสงสีเอฟเฟกต์จาก HDR Game จึงดูเตะตา เพิ่มอรรถรสการเล่นเกมได้น่าสนใจดี

เสียง

65U8G ติดตั้งลำโพงสเตอริโอ พร้อมภาคขยาย 2 x 10 วัตต์ ไว้ที่ส่วนล่างของจอภาพ แต่ที่พิเศษ คือ JBL มาช่วยจูนเสียงให้ การถ่ายทอดรายละเอียดเสียงจึงทำได้ชัดเจน จะแจ้ง ไม่คลุมเครือ ปริมาณเบสไม่ถึงกับมากมาย ไม่เด่นเท่าย่านกลาง-แหลม แต่ก็พอให้ไม่รู้สึกว่าไม่ขาด (ไม่แนะนำให้ปรับ EQ เพิ่มในส่วนของเบส เพราะอาจทำให้เกิดความเพี้ยนรบกวนเมื่อเร่งระดับเสียงดัง)

รุ่นนี้ยังเพิ่มเติม “Audio Enhancement” หรือ ระบบจำลองเสียงผ่านลำโพงทีวี ให้ถึง 2 ตัวเลือกด้วยกัน คือ Dolby Atmos และ DTS VirtualX ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล ให้ทดลองเปรียบเทียบดูก่อนครับว่าแบบไหนถูกใจกว่ากัน หรือถ้าไม่ชอบ จะ Off เลยก็ได้

หากต้องการอัพเกรดคุณภาพเสียงโดยเชื่อมต่อสัญญาณออกไปยังชุดโฮมเธียเตอร์หรือซาวด์บาร์ ผ่าน HDMI eARC (HDMI 2) จะสามารถ Pass-through ระบบเสียงรอบทิศทางอย่าง Dolby Digital, Dolby Digital Plus, Dolby TrueHD ไปจนถึง Dolby Atmos (DD+/TrueHD) เลยทีเดียว* DTS 5.1 ก็ได้ด้วย จะขาดก็แค่ DTS:X/DTS-HD (หากต้องการ ให้เชื่อมต่อ Player ตรงเข้า AVR)

*หมายเหตุ: อ้างอิง HDMI eARC โดยเชื่อมต่อสัญญาณจาก Oppo UDP-203 4K BD Player ผ่าน 65U8G ไปยัง Pioneer VSX-LX504 AVR

สรุป

ศักยภาพสมกับเป็น ULED TV รุ่นสูงสุด ณ เวลานี้ของ Hisense ด้วยราคาไม่แรง แต่ก็ได้คุณสมบัติเด่นใกล้เคียงรุ่นท็อป ๆ อย่าง เทคโนโลยี Quantum Dot และ Full-array LED Local Dimming Backlight ส่งผลให้การถ่ายทอดสีสันและความสว่างดีเทียบเท่ามาตรฐาน “Ultra HD Premium” ถึงแม้ลูกเล่นปลีกย่อยอย่างระบบ Smart TV ไม่ถึงกับโดดเด่น และยังไม่รองรับ 4K 120Hz แต่ด้วยระดับราคา หากเน้นเรื่องภาพถือว่าเป็นอีกรุ่นของปี 2021 ที่น่าจับจองเป็นเจ้าของมากครับ

จุดเด่นของ Hisense 65U8G

  • 4K VA Panel สามารถแสดงผล HDR ได้ครบ ทั้ง HDR10, HLG, HDR10+ และ Dolby Vision
  • Full-array LED Local Dimming Backlight คุมแสงให้ความดำลึก ความสว่างสูงระดับ 1,000 nits, เทคโนโลยี Quantum Dot ให้ขอบเขตสีกว้าง ผลลัพธ์เทียบเคียงมาตรฐาน Ultra HD Premium
  • มี Motion ประมวลผลแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหว แนะนำให้ปรับในระดับต่ำเพื่อความเป็นธรรมชาติ ดูไม่ขัดตา
  • ระบบเสียงจูนโดย JBL เบสอาจไม่ถึงกับจุใจ แต่ให้รายละเอียดเสียงจะแจ้งชัดเจนดี
  • ช่องเชื่อมต่อครบครัน มี HDMI 4 ช่อง รองรับ eARC 1 ช่อง สามารถ Passthrough ระบบเสียง Dolby Atmos/TrueHD และ DTS 5.1 ได้, มี Optical และ 3.5 mm Headphone Out พร้อม Bluetooth ให้ด้วย

จุดด้อยของ Hisense 65U8G

  • โครงสร้างจอภาพดูหนา แต่ก็เป็นผลจาก Full-array LED Local Dimming Backlight ที่ช่วยให้ได้ภาพที่ดีกว่า
  • มุมมองรับชมไม่กว้างนัก แนะนำตั้งวางทีวีในมุมตรงกับจุดรับชม ไม่ควรติดตั้งสูงหรือต่ำกว่าระดับสายตามากนัก
  • ยังไม่รองรับ 4K 120Hz
  • แม้เพิ่มจำนวนแอปมากขึ้น แต่ก็ยังไม่หลากหลายมากเท่าระบบปฏิบัติการอื่น (โดยเฉพาะจำนวน Local app), ช่วงเวลาที่ทดสอบ ยังไม่รองรับคำสั่งเสียง

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.25
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
8.25
ภาพ 2 มิติ หลังปรับภาพ (2D Picture Post-Calibrated)
8.50
ภาพ 2 มิติ (HDR)
8.50
เสียง (Sound)
8.25
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.50
ลูกเล่น (Features)
8.25
ความคุ้มค่า (Value)
8.50
คะแนนตัดสิน (Total)
8.4

คะแนน Hisense 65U8G 4K HDR LED TV

8.4

หมายเหตุ : มาตรฐานคะแนนปี 2021

ราคาเปิดตัว Hisense U8G

55 นิ้ว 36,990 บาท

65 นิ้ว 45,990 บาท