Splashproof Portable Bluetooth Speaker
JBL Charge 2+
อีกหนึ่งแบรนด์แค่เพียงได้ยินชื่อ ก็รับรู้ถึงคุณภาพและความคุ้มค่าในการเลือกซื้อได้แล้ว กับ JBL แบรนด์เครื่องเสียงสัญชาติอเมริกัน ที่ใครๆ ต่างนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งตอนนี้ก็เข้าใกล้เทศกาลสงกรานต์มากขึ้นทุกทีแล้ว และนี่ JBL Charge 2+ ลำโพงพกพาไร้สายที่จะทำให้สงกรานต์นี้ เป็นปาร์ตี้สุดสนุกได้อย่างไม่ยาก ด้วยฟีเจอร์กันน้ำสุดเก๋ รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ
จากการต่อยอดในซีรี่ส์ Charge อันมีจุดเด่นในเรื่องขนาดที่เล็ก ง่ายต่อการพกพา แต่ให้พลังเสียงเกินตัว จนกลายเป็นอีกซีรี่ส์ยอดนิยมที่ถูกกล่าวขวัญร่ำลือถึงความเยี่ยมยุทธ์ และในรุ่นนี้ Charge 2+ จะพลัสจะเพิ่มเติ่มฟีเจอร์อะไรบ้าง เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ว่าแล้วก็มาเริ่มทำความรู้จักกับ Charge 2+ กันเลย
Design – การออกแบบ
มาดูหน้าตาของ JBL Charge 2+ กันก่อนดีกว่า ลำโพงตัวนี้แม้จะเป็นรุ่นใหม่ แต่ยังคงใช้ดีไซน์เดิมอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ กับลำโพงรูปทรงกระบอก ขนาดกะทัดรัด หน้ากว้างประมาณ 18 ซม. ความสูงประมาณ 8 ซม. จับถือง่ายกระชับ มีน้ำหนักพอดีมือ เพียง 600 กรัม เท่านั้น ไม่เป็นอุปสรรคต่อการพกพา ตัวเครื่องเป็นผิวยางให้สัมผัสค่อนข้างหนึบมือ แม้เปียกน้ำก็ยังสามารถจับได้ถนัด ตัดด้วยด้านหน้าเป็นตะแกรงอะลูมิเนียม พร้อมโลโก้ JBL เด่นๆ ตรงกลาง
ด้านข้างเป็นช่องขับเบสออกทั้งซ้ายขวาคล้ายๆ รุ่นเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยความกันน้ำ วัสดุเป็นพลาสติกพร้อมโลโก้ JBL มีขอบเป็นยางยืดหยุ่น ปิดสนิท ไม่มีช่องให้น้ำรั่วซึม และแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน ต่างจากรุ่น Charge ที่เป็นเพียงช่องตะแกรงสำหรับขับเบส
มาดูด้านบนของตัวเครื่องกันบ้าง ด้านบนจะพบกับปุ่มคำสั่งต่างๆ ได้แก่ ปุ่มปิด-เปิด, ปุ่มเปิดการเชื่อมต่อด้วยสัญญาณ Bluetooth, ปุ่มเพิ่ม-ลดความดัง, ปุ่ม Social Mode และ ปุ่มการโทรแบบ Hand Free แผงคำสั่งมีผิวสัมผัสเป็นยางเรียบๆ มีไฟ LED คอยแสดงถึงการใช้งานฟังก์ชั่นนั้นๆ รวมถึงไฟ LED สำหรับบอกปริมาณแบตเตอรี่อีกด้วย ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยว่าแบตใกล้หมดหรือเปล่า
ช่องเชื่อมต่อจะอยู่ทางด้านหลังของตัวลำโพง มีช่องเสียบ Micro USB สำหรับชาร์จไฟ ช่องเสียบขนาด 3.5 มม. สำหรับเชื่อมต่อกับหูฟัง และช่องเสียบ USB สำหรับเป็นแหล่งจ่ายไฟ เหมือนเป็นแบตเตอรี่สำรองสำหรับสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์อันโดดเด่นของ Charge 2+เลย
อุปกรณ์ที่ให้มาด้วยในชุด จะมีคู่มือการใช้งาน สาย Micro USB และหัวอะแดปเตอร์แบบต่างๆ มีถึง 4 แบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นแบบหัวแบนตรง 2 ขา, แบบหัวแบนเฉียง 2 ขา, แบบหัวกลม 2 ขา และสุดท้ายแบบหัวเหลี่ยม 2 ขา