Sound – เสียง
ใครที่เคยได้ฟังลำโพง JBL มาบ้างก่อนหน้านี้ น่าจะพอมีไอเดียเกี่ยวกับเสียงของแบรนด์นี้อยู่บ้างแน่นอน ด้วยน้ำเสียงชัดแจ่มฟังสนุก เนื้อเสียงมีความกระชับ ซึ่งผมว่าค่อนข้างจะถูกจริตกับการเอามารับชมภาพยนตร์พอสมควร
ดังนั้นผมจะเน้นการทดสอบไปที่การใช้งานแบบ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์เต็มรูปแบบ เพื่อดึงเอาขีดสุดของความสามารถจากซาวด์บาร์ตัวนี้ออกมาให้ได้ชมกัน
สำหรับการจัดวางเราสามารถเลือกได้ว่าจะแขวนผนังแบบรูปด้านบน หรือจะตั้งกับชั้นวางทีวีก็ไม่มีปัญหา เพียงแค่อย่าลืมไปปรับสวิตช์ EQ ด้านหลังเลือกโหมดเสียงให้ถูกต้องว่าตอนนี้ใช้แบบ Wall หรือ Table ก็จะช่วยให้เราขับเสียงที่ดีที่สุดออกมา
อีกหนึ่งจุดคืออย่าวางซับวูฟเฟอร์ไกลกับตัวซาวด์บาร์มากนัก เพราะทั้งสองอุปกรณ์จะเชื่อมต่อกันด้วยสัญญาณไร้สาย ถ้าเกิดไปวางไว้ในมุมอับที่สัญญาณไม่สามารถทะลวงเข้าไปถึง อาจส่งผลให้ตัวเครื่องทำงานเชื่อมกันได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แล้วเกิดอาการเสียงสะดุดขึ้นได้ ซึ่งตามรูปด้านบนถือว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว
ผมเริ่มทดสอบด้วยการเปิด Star Wars – The Force Awaken ในฉากไล่ลาที่ดาวแจ็คคู ในฉากนี้เราจะได้ทดสอบทั้งเสียงเบส และเสียงบรรยากาศโดยรอบในช่วงที่เรย์ขับมิลเลเนียมฟอลค่อนหลบกองทัพปฐมภาคี
SB 250 ให้ความสดของเสียงที่เป็นเอกลักษณ์แบบไม่ผิดคาด ตั้งแต่เสียงพูดไปยันเสียงยานเฉี่ยวผนังดูใกล้ชิดจนสัมผัสได้ และมีทิศทางที่ชัดเจน ทำให้มิติซ้ายขวาของซาวด์บาร์ตัวนี้ดูดีเลยทีเดียว
ตรงนี้ถ้าเรากดเปิดใช้งานโหมด Surround ตัวลำโพงจะทำการจำลองเสียงให้เวทีกว้างขึ้น ซึ่งผมเดาว่า JBL น่าจะเซ็ตให้ไดร์เวอร์ทำการบีบสัญญาณเสียงให้เล็กลงเพื่อให้ได้ระยะเสียงที่โอบล้อมมากขึ้นจากจุดนั่งฟัง แต่ก็แน่นอนว่ามิติเสียงที่เฟี้ยวฟ้าว ก็ต้องแลกมาด้วยเนื้อเสียงที่บางลงเช่นกัน
หลังจากดูยานบินไปมาฉากเดิมซ้ำๆ จนเริ่มจะเวียนหัว ผมก็เปลี่ยนมาเปิด Mad Max บ้าง ในฉากไล่ล่าที่พี่แมกซ์ต้องมาเจอกับการรุมลงแขกจากบรรดาแก๊งเด็กแวนซ์ทะเลทราย จนทำเอารถบรรทุกเกือบพัง เป็นอีกหนึ่งฉากที่ใช้ทดสอบเครื่องเสียงได้อย่างดี ทั้งเสียงระเบิด, เสียงมอเตอร์ไซค์ที่ขี่เลี้ยวไปมา คลอด้วยแบ๊คกิ้งแทร็คจากวงออเครสต้าคอยปลุกเร้าอารมณ์ ถ้าถ่ายทอดออกมาไม่ดีก็ไม่ต่างอะไรกับนั่งดูรายการเรื่องจริงผ่านจอ
ซับวูฟเฟอร์ตัวนี้แม้ไซส์จะเล็กแต่ความดังของเสียงย่านความพี่ต่ำที่ขับออกมานั้นไม่ธรรมดา ในช่วงจังหวะระเบิดตกใส่รถฟังแล้วเหมือนมีแรงปะทะเกิดขึ้นตรงหน้าจริง แต่ว่ายังแยกความใหญ่โตได้ไม่ค่อยขาด ทำให้แยกยากว่าอันไหนเสียงระเบิด หรือเสียงกลองจากแบ๊คกิ้งแทร็ค ส่วนเรื่องรายละเอียดในฉากนั้นผ่านฉลุย ยังคงไว้ซึ่งความสดสนุกเช่นเดิม
ไหนๆ ซื้อซาวด์บาร์มาทั้งที จะเอามาดูหนังอย่างเดียวก็ดูไม่คุ้มค่าตัว ผมเลยลองเปิดเพลงฟังดูด้วยการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธจาก iPhone ของผม โดยเลือกเอาแทร็คคันทรี่ร็อคใสๆ Late To the Party ของ Kacey Musgraves ร่างอวตารของ Taylor Swift ในสมัยที่ยังทำดนตรีแบบคันทรี่อยู่
เสียงใสๆ ของ Kacey ถูกถ่ายทอดมาได้ชัดเจนคมกริบ คลอกับเมโลดี้จากโฟล์คกีต้าร์ซะจนหวาน ระหว่างที่กำลังจะเลี่ยนก็มีเสียงกระเดื่องที่ขับออกมาจากซับวูฟเฟอร์ช่วยทอนให้กลมกลืนกัน ฟังเพลินๆ กันไปจากตอนแรกที่กลัวว่าเสียงซาวด์บาร์ตัวนี้เสียงจะจัดเกินฟังเพลง กลายเป็นเสียงที่สดฟังสนุกขึ้นมาทันที
Conclusion – สรุป
JBL Cinema SB250 ถูกออกแบบมาให้เหมาะเหม็งกับการดูหนังตามชื่อซีรี่ย์ของมันจริงๆ ด้วยเสียงกลางแหลมที่สดและพุ่งทะยานพร้อมสร้างความบันเทิงในการรับชมได้ทันที นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์จำลองเสียง Surround ช่วยให้เราได้เสียงที่โอบล้อมคนฟังมากขึ้นไปอีกระดับ สร้างบรรยากาศในการดูหนังให้สนุกขึ้นกว่าลำโพงทีวีหลายช่วงตึก
ซับวูฟเฟอร์แบบไร้สายที่มาในเซ็ตต้องบอกว่าไม่ได้ทำงานขี้เหร่แต่อย่างใด มันสามารถตอบสนองเสียงความถี่ต่ำได้ดังและกระชับแบบไม่มีบกพร่อง จะมีก็แต่หากเราวางซับวูฟเฟอร์ในตำแหน่งที่สัญญาณเสียงโดนขวางจากโต๊ะหรือตู้มากเกินไป เสียงที่ได้จะไม่ต่อเนื่องกับสัญญาณจากซาวด์ในบางช่วง เหมือนกับเป็นเสียงสะท้อนที่ตามหลังเสียงจากซาวด์บาร์อะไรประมาณนั้น ตรงนี้ก็ต้องหาที่ลงดีๆ ครับไม่งั้นจะมาขัดอรรถรสความมันส์เอาเปล่าๆ
อีกอย่างคือระดับความดังของเสียงเบสควรจะต้องได้รับการปรับจูนเล็กน้อย ให้ขับออกมาเป็นแผ่นเดียวกันกับเสียงเบสที่ได้จากลำโพงของซาวด์บาร์ ก็คงต้องลองทดสอบฟังกันไปครับ แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าดูหนังหรือเล่นเกมอาจจะไม่ค่อยเห็นผลชัดเจน ต้องฟังแทร็คออดิโอไฟล์นั่นแหละครับ ถึงจะพอจับสังเกตุได้
สรุปสุดท้ายว่าซิสเต็มซาวด์บาร์ตัวนี้ให้เสียงที่คุ้มค่าตัวไม่ใช่เล่นๆ สามารถใช้ดูหนัง, ฟังเพลง หรือเล่นเกมได้อย่างสนุกสนานในระดับหนึ่ง หากเดิมแล้วคุณดูหนังผ่านลำโพงทีวีมาล่ะก็ การอัพเกรดมาเล่นซาวด์บาร์ชุดนี้น่าจะช่วยเติมความเร้าใจให้เวลาว่างของคุณได้ดีทีเดียว แต่ทั้งนี้ห้องที่ติดตั้งจะต้องไม่มีขนาดที่ใหญ่โตจนเกินไป JBL Cinema SB250 จึงจะสามารถแสดงอานุภาพออกมาได้อย่างเต็มขีดจำกัด
ข้อดี
– เสียงสดฟังสนุก ใช้ชมภาพยนตร์แล้วได้อรรถรสเร้าอารมณ์ได้เป็นอย่างดี สร้างความแตกต่างแบบชัดเจนจากลำโพงทีวี
– ระบบการเชื่อมต่อหลากหลายทั้งแบบมีสายและไร้สาย เพิ่มอิสระในการใช้งานได้เป็นอย่างมาก
ข้อเสีย
– ซับวูฟเฟอร์แบบไร้สายอาจทำงานได้ไม่เสถียรหากมีสิ่งกีดขวางที่ค่อนข้างหนาในระยะสัญญาณ แนะนำให้วางในจุดเปิดโล่ง เพื่อประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ จะช่วยให้ตัวลำโพงทำงานได้อย่างสอดคล้องกับตัวซาวด์บาร์ แล้วยังช่วยดันเสียงความถี่ต่ำให้เด่นชัดขึ้น
– ไม่มีช่องต่อ HDMI