01 Jan 2014
Review

รีวิว JBL Cinema 510 ชุดลำโพง 5.1 แชนแนลจะใช้รับชมภาพยนตร์หรือฟังเพลงก็สนุกไม่แพ้กัน


  • lcdtvthailand

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านและแฟนๆ เว็บไซต์ HOMETHEATERTHAILAND.COM กลับมาพบกันอีกเช่นเคยนะฮะ วันนี้ทางเราก็มีชุดลำโพงขนาดเล็กมารีวิวให้คุณผู้อ่านได้รับชมกันแบบชิวๆ กันบ้าง แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าคุณภาพเสียงไม่เล็กตามขนาดอย่างแน่นอน ซึ่งกระผมคิดว่าน่าจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพการใช้งานเป็นหลัก ทั้งยังคงไม่ไปลดพื้นที่ใช้สอยในภายในห้องมากจนเกินไป เพราะบางท่านอาจจะอยู่คอนโดแต่ก็ยังอยากได้อารมณ์การใช้งานที่เหมือนกับโรงภาพยนตร์ขนาดย่อมๆ อยู่ก็เป็นได้

JBL – Cinema 510
ราคา 20,000 บาท

โดยชุดลำโพงที่กระผมจะนำมารีวิวให้ทุกท่านได้รับชมในครั้งนี้จะเป็นชุดลำโพงขนาดเล็กจาก JBL มีชื่อรุ่นว่า Cinema 510 มาพร้อมกับระบบเสียง 5.1 แชนแนล ซึ่งรองรับการใช้งานกับแอมป์ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยจุดเด่นเห็นจะเป็นส่วนของลำโพง Center, Front Left-Right และ Surround Left-Right ที่มาในรูปทรงและขนาดเดียวกัน โดยตัวลำโพงนั้นจะเป็นแบบวางหิ้งและมีจุดยึดสำหรับแขวนกับผนังด้วยเช่นกัน

ส่วนของตัวลำโพง Subwoofer นั้นจะมีรูปทรงคล้ายกับลูกเต๋า แถมยังได้รับการออกแบบด้วยการใช้โทนสีดำเกือบทั้งหมด และในส่วนของกำลังขับทั้งหมดรวมกันจะอยู่ที่ราวๆ 160 วัตต์เลยทีเดียว แต่ทั้งหมดนี้มิอาจใช้เป็นเครื่องการันตีได้ว่ามันจะมาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่ดีตามไปด้วย จึงเป็นเหตุที่ทำให้เราจึงต้องมาพิสูจน์กันนั่นเอง แต่ก่อนอื่นต้องขอพาคุณผู้อ่านไปไล่ดูสเปคคร่าวๆ ของเจ้า JBL Cinema 510 กันซะก่อน

สำหรับสเปคคร่าวๆ ของ JBL Cinema 510 มีดังนี้
Satellites
Recommended Amplifier Power10 – 100 Watts
Power Handling (Continuous/Peak)50W/160W
Nominal Impedance8 Ohms
Sensitivity86dB @ 1 Watt/1 meter
Frequency Response150Hz – 20kHz (–6dB)
MidrangeOne 75mm (3”) driver
Dimensions (H x W x D)133mm x 95mm w 94mm (5-1/4” x 3-3/4” – 3.7”)
 
Weight0.63kg (1.39lb)
Subwoofer
Amplifier60 Watts RMS
Woofer165mm (6″ 1/2)
EnclosureBass reflex
Dimensions (H x W x D, including feet)321mm x 245mm x 242mm 
(12.64” x 9.64” x 9.53”)
Weight4.99kg (11lb)

Design – การออกแบบ

เป็นที่แน่นอนว่าหลังจากที่กระผมได้เกริ่นถึงรายละเอียดและคุณสมบัติเด่นของเจ้า JBL Cinema 510 ไปเมื่อครู่นี้แล้ว ทีนี้ก่อนที่เราจะได้ไปทดสอบการฟังกับเรื่องของเสียงนั้นต้องขอพาคุณผู้อ่านทุกท่านมาดูส่วนของดีไซน์ที่ทาง JBL ได้ใส่มาบนตัวของลำโพงชุดนี้ว่าจะมีความกลมกลืนของทุกชิ้นส่วนมากน้อยเพียงใด ถ้าหากพร้อมแล้วไปดูกันเลยจ้า

เมื่อทำการแกะกล่องออกมาทั้งชุดจะมีหน้าตาเป็นเช่นนี้

JBL Cinema 510 เป็นชุดลำโพงที่รองรับระบบเสียงสูงสุดที่ 5.1 แชนแนล ประกอบด้วยลำโพง Center, Front Left-Right, Surround Left-Right และ Subwoofer ทั้งหมดนี้จะมาพร้อมกับการออกแบบที่มีความกลมกลืนกันทั้งชุด โดยโทนสีของลำโพงนั้นจะเป็นโทนสีดำทั้งหมด

โดยส่วนที่เป็นลำโพง Center, Front Left-Right และ Surround Left-Right ทาง JBL ได้เลือกใช้ลำโพงที่เป็นรุ่นเดียวและแบบเดียวกันทั้งหมด
นี่คือหน้าตาของตัวอุปกรณ์ทั้งหมดที่แถมมาให้ภายในชุด

สำหรับของแถมที่ให้มาภายในชุดนั้นจะมีดังนี้
 1. สายลำโพง จำนวน 5 เส้น
 2. สาย RCA สำหรับเชื่อมต่อเข้ากับ Subwoofer จำนวน 1 เส้น
 3. สาย Power สำหรับใช้งานกับ Subwoofer จำนวน 1 เส้น
 4. คู่มือ จำนวน 1 ชุด

ลองนำลำโพงทั้ง 5 ตัวมาแปรแถวก็แลดูสวยดีเหมือนกันนะ คุณผู้อ่านคิดอยู่เหมือนกันไหม?

สำหรับลำโพงหลักทั้ง 5 ตัวนี้จะมีขนาดตัวอยู่ที่ 133 x 95 x 94 มิลลเมตร (สูง x กว้าง x ลึก) มาพร้อมกับไดร์เวอร์มิดเรนจ์ขนาด 3 นิ้ว ซึ่งสามารถตอบสนองเสียงในย่านความถี่กลางได้ในระดับ 150Hz – 20kHz และในสเปคได้บอกไว้ว่าสามารถรองรับกำลังขับได้มากถึง 100 วัตต์ กับลำโพงขนาดเล็กแบบนี้ถือว่าไม่เบาจริงๆ

มาดูที่หน้าตาของลำโพง Center, Front Left-Right และ Surround Left-Right ในมุมใกล้ๆ กันบ้าง

โดยด้านหน้าของลำโพงจะเป็นตะแกรงโลหะสีดำมีลักษณะโค้งมนทั้งขอบด้านซ้ายและด้านขวา ส่วนที่บริเวณตรงกลางด้านล่างจะเป็นแผ่นโลหะสีเงินที่มีการสกรีนโลโก้ของ “JBL” และแน่นอนว่าที่ด้านล่างก็จะมีคำว่า “Cinema 5.1” ที่เป็นตัวหนังสือตัวเล็กๆ กำกับไว้อยู่เช่นกัน

นอกจากนี้แล้วยังมีแผ่นยางสำหรับช่วยลดการสั่นสะเทือนของลำโพงมาให้เราได้ใช้งานกันอีกด้วยนะ
ลองจับพลิกมาดูที่ด้านหลังกันสักหน่อย

หลังจากที่พลิกมาดูที่บริเวนด้านหลังของลำโพงจะพบว่าตัวบอดี้ภายนอกทั้งหมดนั้นยังทำมาจากพลาสติกคุณภาพสูง มาพร้อมกับโทนสีดำด้านและผนวกเข้ากับสีดำมันเงาตรงส่วนของขอบลำโพง นอกจากนี้จะเห็นว่าตรงส่วนที่เป็นช่องต่อสายลำโพงทาง JBL ได้ใส่ฝา Lock ที่บริเวณนี้มาให้อีกด้วย

ถ้าหากเห็นแรกๆ จะสงสัยกันใช่ไหมว่าเจ้าฝา Lock นี้มันมีประโยชน์อย่างไร ซึ่งประโยชน์ของเจ้าฝาที่ว่านี้ก็คือมันจะช่วยให้เราสามารถใช้ยึดตัวของลำโพงเข้ากับผนังได้นั่นเอง โดยรอยบากที่เป็นแฉกๆ นั้นจะเป็นส่วนที่ใช้สำหรับแขวนเข้ากับสกรูได้อย่างแนบเนียน

ซูมผ่านตัวฝาตระแกรงกันแบบใกล้สุดๆ กันอีกสักภาพ จะเห็นว่าตัวไดร์เวอร์มิดเรนจ์ขนาด 3 นิ้วนั้นใหญ่เต็มพื้นที่บริเวณด้านหน้าเลยล่ะ
มาดู Subwoofer ที่เป็นลำโพงอีกหนึ่งตัวที่ถือว่ามีความสำคัญไปไม่น้อยเลยแม้แต่นิดเดียวถ้าหากเทียบกับลำโพงทั้ง 5 ตัวที่ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้

โดยตัวของ Subwoofer นั้นเป็นแบบ Active จะมาในรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพิ่มความน่าเกรงขามด้วยการใช้โทนสีดำทั้งหมดและเสริมความโดดเด่นเล็กน้อยด้วยผ่านยางรองขาลำโพงที่เป็นโทนสีส้มจี๊ดจ๊าด ในส่วนขนาดของตัวลำโพง Subwoofer นั้นจะอยู่ที่ 321 x 245 x 242 มิลลิเมตร (สูง x กว้าง x ลึก) ซึ่งถือว่าขนาดไม่ได้ใหญ่อะไรมากนัก

ขยับมาดูที่บริเวณทางด้านหลังจะพบเข้ากับส่วนของท่อเบสที่ยิงออกทางด้านหลังตู้ พร้อมกันนี้ยังเป็นส่วนของภาคขายที่ซ่อนอยู่บริเวณนี้อีกด้วยเช่นกัน
เมื่อลองจับลำโพง Subwoofer ตะแคงนอนกับพื้นจะพบเข้ากับไดร์เวอร์วูบเฟอร์ขนาด 6 1/2 นิ้ว ที่ยิงคลื่นเสียงความถี่ต่ำลงสู่พื้นเหมือนลำโพงตัวอื่นๆ ที่มักใช้หลักการทำงานในลักษณะนี้