15 Jun 2020
Review

รีวิว JBL Link Bar ซาวด์บาร์เสียงดี ราคาสุดคุ้มที่มาพร้อมกับ Android TV รุ่นแรกในโลก!!


  • tormoo

Sound – เสียง

ถ้ารีวิวซาวด์บาร์แล้วไม่พูดถึงเรื่องเสียงก็คงจะไม่ได้ สำหรับเจ้า JBL Link Bar นั้นจะเป็นซาวด์บาร์ที่มาในรูปแบบ 2.0 Ch กำลังขับสูงสุด 100 W รองรับสามารถถอดรหัสสัญญาณเสียงได้ถึงระบบ Dolby Digital 5.1 ซึ่งถือว่าเพียงพอกับการใช้งานในการรับชมคอนเทนท์ต่างๆ ทั้ง ดูหนัง, เล่นเกม, Netflix, YouTube รวมไปถึงการฟังเพลงด้วย

โดยส่วนของการติดตั้งก็ทำได้ง่ายดายเพราะว่าการที่มีเพียงแค่ซาวด์บาร์เพียงอย่างเดียวผู้ใช้งานเพียงแค่วางซาวด์บาร์ไว้บริเวณชั้นวางทีวีจากนั้นก็เชื่อมต่อทีวีเข้ากับตัวซาวด์บาร์ก็เป็นอันเรียบร้อย

ตัว JBL Link Bar นั้นรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายมากๆ ทั้งผ่านพอร์ต HDMI บนตัวเครื่องที่สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นหรือเครื่องเกมเข้ามายังซาวด์บาร์ได้ หรือแม้แต่การส่งผ่านเสียงจากทีวีมายังซาวด์บาร์ได้โดยตรงผ่านช่อง HDMI ARC ก็ได้เช่นเดียวกัน

สำหรับคอนเทนท์แรกที่เราใช้ทดสอบเสียงของเจ้าซาวด์บาร์รุ่นนี้ก็คือภาพยนตรืเรื่อง Bad Boys For Life โดยที่ทางทีมงานได้ใช้แผ่น 4K Blu-ray เปิดผ่านเครื่องเล่น Oppo 203 ที่เชื่อมต่อเข้ากับซาวด์บาร์ผ่านช่อง HDMI ซึ่งช่อง HDMI บน JBL Link Bar นั้นสามารถที่จะส่งผ่านภาพความละเอียดระดับ 4K HDR ได้อย่างไม่มีปัญหา (ในปัจจุบัน JBL Link Bar ยังไม่รองรับการ Pass Through Dolby Vision)

Bad Boys For Life หนังแอคชั่นยิงแหลก เสียงดีเนื้อเรื่องสนุก เมื่อจับคู่กับ JBL Link Bar ความมันส์จึงเกิด!!

โดยเนื้อเสียงของตัวซาวด์บาร์รุ่นนี้ถือว่าทำได้เป็นแจ๋วเลย ทั้งเสียงในย่านต่ำของเสียงระเบิดหรือปืนถือว่ามีน้ำมีนวลมีแรงปะทะที่น่าพอใจในระดับหนึ่งแม้ว่าจะไม่มีซับวูฟเฟอร์มาให้ในชุด (แต่ถ้าได้จับคู่กับซับวูฟเฟอร์คาดว่าเสียงที่ได้จะฟังแล้วเต็มอิ่มกลมกล่มไปอีกขั้นแน่นอน)

เสียงย่านกลางที่เป็นเสียงพูดคุยก็มีความเต็มอิ่ม เสียงย่านสูงทั้งเสียงกระจกแตกหรือปลอกกระสุนที่ร่วงลงพื้นในฉากต่างๆ ก็ทำออกมาได้ใสสะอาดพอสมควร สำหรับการแยกทิศทางเสียงบนซาวด์บาร์รุ่นนี้ก็ทำได้ดีอาจจะไม่ถึงระดับซาวด์บาร์ระดับท๊อปแต่ก็สามารถจับแยกทิศทางของวัตถุและเสียงได้อย่างชัดเจนพอตัวเลยครับ อีกทั้งเสียงของดนตรีประกอบฉากต่างๆ เมื่อฟังผ่านซาวด์บาร์รุ่นนี้ก็มีความชัดเจนทรงพลังทำให้เราสามารถอินและสัมผัสบรรยากาศในเรื่องได้ใกล้ชิดมากกว่าการฟังผ่านลำโพงทีวีธรรมดาๆ

มาต่อกันที่คอนเทนท์ที่สองที่เราจะเปลี่ยนจากการเล่นคอนเทนท์ผ่านเครื่องเล่นไปเป็นการเล่นแอปพลิเคชั่น Netflix บน JBL Link Bar โดยตรง ซึ่งคอนเทนท์บน Netflix ที่เราจับมาทดสอบก็เป็นหนังฮิตอีกเรื่องที่ชาว Netflix น่าจะรู้จักกันดีอย่าง Extraction ซึ่งแสดงนำโดย Chris Hemsworth หรือพี่ธอร์นั่นเอง

และแม้ว่าจะไม่ได้เปิดผ่านเครื่องเล่น 4K Blu-ray Player แต่ JBL Link Bar นั้นก็สามารถที่จะแสดงผลภาพได้ถึงระดับ 4K ผ่าน Android TV ที่ติดตั้งมาบนซาวด์บาร์ สำหรับเสียงของหนังเรื่องนี้เจ้าซาวด์บาร์รุ่นนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด ทั้งในเรื่องของรายละเอียดเสียงต่างๆ สามารถถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดีน่าพอใจเมื่อเทียบกับขนาดตัวทั้งย่านเสียงต่างๆ ถูกขับออกมาได้กลมกล่อมพอดิบพอดีเติมเต็มอรรถรสในการรับชมได้อย่างลงตัวครับ

Extraction หนังดีอีกเรื่องประจำ Netflix แอ็คชั่นมันส์ๆ กับเสียงแน่นๆ ก็จัดว่าแจ่มครับ
เสียงของเกมก็ทำได้ดีเหมือนกัน เล่นเกมสนุกขึ้นเยอะด้วยเสียงที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
ส่งภาพสัญญาณความละเอียด 4K HDR จาก PS4 ไปยังทีวีได้อย่างไม่มีปัญหา
หรือจะส่งเสียงย้อนกลับมาผ่านช่อง HDMI ARC ก็ทำได้เหมือนกัน
สำหรับใครที่ไม่ได้ใช้ Android TV บน JBL Link Bar

มาที่เรื่องของการฟังเพลงบ้าง ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทีมงานประทับใจเพราะว่า JBL Link Bar ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซาวด์บาร์ที่สามารถฟังเพลงได้อย่างไม่เขอะเขินเลยแหละครับ ด้วยเนื้อเสียงที่ไม่ได้จัดจ้านจนเกินไปมีความกลมกล่อมกำลังดี

ในย่านต่ำที่เป็นย่านของเบสและกระเดื่องนั้นสามารถทำได้แบบกระชับมีน้ำหนัก เสียงย่านกลางที่เป็นเสียงร้องก็ทำได้ชัดเจน ย่ายเสียงสูงก็ไม่บาดหูจนเกินไปทำให้การฟังเพลงบนซาวด์บาร์รุ่นนี้สามารถทำได้อย่างเพลินๆ ครับ ผู้ใช้งานก็สามารถที่จะ Cast เพลงผ่านแอป Spoitfy หรือเปิดผ่านแอปได้โดยตรงหรือจะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ก็ทำได้เช่นกันครับ

เปิดเพลงผ่าน Spotify ด้วยการ Cast หรือเปิดจากแอปบนทีวีก็ทำได้ เสียงดีซะด้วย
เปิดเพลงจาก Bluetooth ก็แจ๋วมีการบอกรายละเอียดของเพลงที่กำลังเปิดอยู่ด้วย