09 Aug 2015
Review

สัมผัสบรรยากาศสด กับชุดลำโพงอังกฤษระดับพระกาฬ !! รีวิว KEF R Series Speaker Set


  • ชานม

Sound – เสียง

ทดสอบการถ่ายทอดสนามเสียงโอ่อ่าและโอบล้อม อันเป็นผลจากศักยภาพของลำโพงที่สอดรับกันอย่างกลมกลืน ด้วยบลูเรย์ภาพยนตร์จีน Young Detective Dee: Rise of The Sea Dragon หรือชื่อไทย คือ “ตี๋เหรินเจี๋ย” ผจญกับดักเทพมังกร ฉากช่วงกลางของเรื่องที่มีการเล่นเทคนิคโยนเสียงจากหน้าไปหลัง หรือ หลังไปหน้าอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่ปาอาวุธลับธรรมดาๆ อย่างมีด ไปจนถึงใช้ “ผึ้ง”

ทั้งนี้ R Series ให้สเกลน้ำหนักทิศทางของเสียงที่คงที่ ไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลงไปตามความต่างของขนาดลำโพง ไปจนถึงให้ความต่อเนื่องของลำดับเวลาได้อย่างกลมกลืน ส่วนหนึ่งเป็นผลของการคำนึงถึงเรื่องของ Timbre Matching ที่ KEF ให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ถึงแม้ลำโพงจะคนละรุ่น ขนาดตัวขับเสียงและตัวตู้ต่างกัน ทว่าซีรี่ส์เดียวกันก็ให้ความกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันได้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นอานิสงส์จากการใช้ตัวขับเสียงกลาง-แหลมแบบ Uni-Q สเป็กเดียวกัน ขนาดเท่ากัน ตั้งแต่ R100 ไปจนถึง R900…

อย่างไรก็ดีในประเด็นด้านความต่อเนื่องนี้ การไฟน์จูนในส่วนของการกำหนด Bass Management ที่ AVR เพื่อแม็ตชิ่งการตอบสนองเสียงความถี่ต่ำตามศักยภาพของลำโพงแต่ละแชนเนล และการกำหนดดีเลย์ตามระยะห่างของลำโพง (Distance) ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างพิถีพิถันเช่นเดียวกัน

จากภาพยนตร์จีนเรื่องเดิม ทดสอบต่อเนื่องไปจนถึงช่วงท้ายที่พระเอกต้องเผชิญหน้ากับเทพมังกรขนาดมหึมา KEF R Series มีส่วนส่งเสริมอรรถรสได้มากอย่างมีนัยสำคัญ การถ่ายทอดพลัง ความยิ่งใหญ่ จากบรรยากาศเสียงโอบล้อมที่โอ่อ่า สัมพันธ์กับสเกลขนาดของภาพที่ปรากฏบนจอฉายโปรเจ็กเตอร์ขนาด 120 นิ้ว นั้น ช่วยดึงอารมณ์ร่วม จะเรียกว่าเสียงดีขึ้น ช่วยให้ดูหนังสนุกขึ้นก็คงไม่ผิดนัก

การถ่ายทอดเวทีเสียงที่โอ่าอ่าอลังการของ R Series นี้ ยิ่งชัดเจนเมื่อรับชมบลูเรย์คอนเสิร์ต เป็นการให้ “บรรยากาศสด” ที่หาได้ยากจากซิสเตมลำโพงทั่วๆ ไป

จริงอยู่ความโอ่อ่าที่ได้นี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากการใช้งานซิสเต็มลำโพงตั้งพื้นที่ให้ขนาดสเกลพื้นเสียงได้ดีกว่าลำโพงวางหิ้ง และจะยิ่งเห็นชัดโดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานในปริมาตรห้องขนาดใหญ่ อย่างไรก็ดีหากอ้างอิงจากงานบรรยายครั้งที่ผ่านๆ มา นี่มิใช่ครั้งแรกที่ทีมงานนำลำโพงตั้งพื้นไปใช้ ซิสเต็มแวดล้อม+สถานที่เหมือนเดิม เปลี่ยนแค่ลำโพงหลัก ทว่าผลลัพธ์ที่ได้รับนั้น ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดครับ

นอกเหนือจากแนวเสียงที่เปลี่ยนไปตามสไตล์ของผู้ลิตแต่ละเจ้าแล้ว ยังมีประเด็นเรื่องของการคงดุลเสียงที่ระดับความดังสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่เลี่ยงมิได้เมื่อต้องใช้งานในพื้นที่งานบรรยายที่เป็นห้องหับขนาดใหญ่เช่นนี้

แม้ว่าลำโพงตั้งพื้นจะถูกออกแบบให้สามารถทนกำลังขับได้สูงกว่าลำโพงวางหิ้งก็ตาม ทว่าลำโพงระดับรุ่นสูงๆ ก็ยังคงตอบสนองในจุดนี้ได้ดีกว่า ถึงแม้ภายนอกจะมีลักษณะเป็นลำโพงตั้งพื้นเหมือนๆ กันก็ตาม

โดยทั่วไปเครื่องเสียง+ลำโพงทุกซิสเต็ม จะมีลิมิตของมันอยู่ ผลของการใช้งานที่ไม่สมดุล มักจะมาในรูปแบบที่ซิสเต็มสูญเสียการควบคุม ดุลเสียงมักจะตีรวน ออกไปทางแข็งกร้าว อิมเมจและเวทีเสียงเริ่มเลือน อันเป็นผลจากระดับความเพี้ยนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้มักจะเกิดจากภาคขยายไม่สามารถควบคุมลำโพงได้ ทว่าในอีกด้านหนึ่งก็ควรพิจารณาดูในส่วนของศักยภาพลำโพงด้วย

ด้วยลักษณะเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ที่ KEF ยึดมั่นมาตลอดกว่า 50 ปี คือ ดุลเสียงที่เที่ยงตรง การถ่ายทอดเสียงที่เป็นธรรมชาติตลอดทุกย่านเสียง จึงมิใช่คำกล่าวอ้างลอยๆ เพื่อเอาใจหู อย่างไรก็ดีในประเด็นนี้สำหรับ R Series นั้น ยังคงสถานะนี้อย่างต่อเนื่องแม้จะใช้งานในระดับวอลลุ่มสูงอย่างในห้องบรรยาย

ซึ่งในสถานการณ์เดียวกันนี้หากเป็นลำโพงตั้งพื้นบางรุ่น เสียงจะเริ่มบีบบางลง ฟังไม่ได้อรรถรสเหมือนที่ระดับวอลลุ่มปกติฟังตามบ้านพักอาศัย แต่ R Series “เอาอยู่” ยังคงฟังได้สบายๆ ไม่รู้สึกล้าแต่อย่างใด ซึ่งสัมผัสได้ไม่เฉพาะกับภาพยนตร์ เมื่อรับชมบลูเรย์คอนเสิร์ต หรืออัลบั้มเพลง 2 แชนเนล ก็แสดงให้เห็นชัดเจนเช่นกัน และในจุดนี้ R900 และ R600C ที่รับหน้าที่สำคัญที่สุด จากการถ่ายทอดเสียงร้อง ก็ยิ่งฉายแววอันโดดเด่น

เหนือสิ่งอื่นใดอันเป็นจุดเด่นจุดเด่นของลำโพงอังกฤษ คือ เสียงกลางที่ไหลลื่น หากจะบอกว่า KEF เป็นหนึ่งในลำโพงที่ถ่ายทอดเสียงลูกคอของ Andrea Bocelli และ Sarah Brightman ในเพลง Time to Say Goodbye ได้น่าฟังที่สุดก็คงไม่เกินเลยไปนัก อันเป็นเสียงที่กระจ่างไร้สีสัน เมื่อบวกกับความโอ่อ่าของเวทีเสียงดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ อัลบั้ม Vivere Live in Tuscany ผ่าน R Series จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของหลายๆ คนอย่างแน่นอน

น่าแปลก R Series ใช้วัสดุตัวขับเสียงเป็นโลหะทั้งสิ้น ทว่าเสียงไม่มีความแข็งกระด้างใดๆ เลย ตรงกันข้ามดุลเสียงด้านสูงกลับเนียนละเมียด มีส่วนคล้ายโดมผ้าบางส่วนทว่ายังคงความกังวานตามแบบฉบับของโลหะได้อย่างน่าฟัง การเก็บดีเทล แจกแจงรายละเอียดทำได้ดี เรียกว่าครบเครื่อง ฟังเพลงคึกคักหรือภาพนยตร์แอ็คชั่นก็ไม่น่าเบื่อ ครั้นจะฟังเพลงผ่อนคลาย ฟังเพื่อการพักผ่อนสบายๆ ก็เข้าทางมากๆ

R Series ให้จุกโฟมอุดท่อเบสมาด้วย ซึ่งไว้ใช้จูนเสียงเบสในกรณีที่สภาพการติดตั้งไม่เอื้ออำนวยจนส่งผลให้เบสบวม อันจะช่วยให้การติดตั้งเพื่อคงผลการตอบสนองความถี่ที่เที่ยงตรง มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

การตอบสนองเสียงความถี่ต่ำ ตามสไตล์ลำโพงใหญ่ที่ได้น้ำได้เนื้อ ตัวขับเสียงเบสที่ผสมผสานโลหะกับวัสดุสังเคราะห์ บาลานซ์ความฉับไวกับเนื้อหนังได้ดี เบสลึกขึ้นตามขนาดตัวตู้ ไม่เน้นกระแทกดุดันพร่ำเพรื่อ ศักยภาพในส่วนของ R900 นำมาฟังคลาสิกเต็มวงได้อรรถรสดีมากทีเดียว

นอกเหนือจากเวทีเสียงอันโอ่อ่า การชี้ตำแหน่งชิ้นดนตรีก็ทำได้ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน แน่นอนว่าในประเด็นนี้จะคงอยู่ แม้จะเปิดฟังในระดับเสียงที่สูงเกินกว่าระดับที่รับฟังในบ้าน ทั้งนี้หากอัพเกรดภาคขยายให้มีศักยภาพสูงขึ้นจากรุ่นทีใช้อยู่ ก็เชื่อว่าจะขยายศักยภาพอันโดดเด่นของลำโพงอังกฤษยี่ห้อนี้ให้ได้สัมผัสเพิ่มขึ้นอีกเป็นแน่แท้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ณ เวลานี้ น่าพึงพอใจอย่างมากแล้วครับ

KEF R Series เสียงดีจริง ! ผมกับคุณโรมัน
และทีมงาน LCDTVTHAILAND / HDPLAYERTHAILAND ขอการันตีเลยจ้า

Conclusion – สรุป

ซิสเต็มลำโพงจากผู้ผลิตที่สั่งสมประสบการณ์มากว่า 50 ปี ซึ่งมีพัฒนาการต่อเนื่องเรื่อยมา เทคโนโลยีด้านเสียงส่วนใหญ่ถอดแบบมาจากรุ่น Reference ได้ใกล้เคียงมากๆ ในขณะที่ระดับราคาย่อมเยากว่าพอสมควร โครงสร้างภายนอกดูสวยงามโดดเด่นทั้งผิวเปียโนเงางาม โครงสร้างตัวขับเสียงที่สะดุดตา กับฐานโลหะพร้อมเดือยแหลมที่มั่นคงดูดี ที่สำคัญคือเสียงอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ผู้ดีอังกฤษ ผสมผสานกับดุลเสียงที่เที่ยงตรงแม้เปิดฟังในระดับความดังสูง อรรถรสทางเสียงที่ได้รับนี้ จึงเป็นความรู้สึกดึงดูดที่ยากแก่การถอนอย่างยิ่ง…

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
9.25
เสียง (Sound)
9.00
ลูกเล่น (Features)
8.75
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.50
ความคุ้มค่า (Value)
8.50
คะแนนตัดสิน (Total)
8.80

คะแนน KEF R Series Home Theater Speaker Set

8.8

by ชานม !
2015-08

ราคา KEF R Series (Promotion)R900 = 109,000.-
R700 = 79,900.-
R500 = 59,900.-
R600C = 39,900.-