Sound – เสียง
รู้จักสเปคและฟีเจอร์ต่างๆ ของ Klipsch RSB-14 กันไปแล้ว คราวนี้มาดูในเรื่องของเสียงกันบ้างดีกว่า เริ่มต้นทดสอบคุณภาพเสียงผ่านภาพยนตร์แอ็คชั่นอันเป็นแนวถนัดของ Klipsch ด้วยเรื่อง “Suicide Squad ทีมพลีชีพมหาวายร้าย” ที่มีจุดเด่นเรื่องภาพ HDR กับฉากต่อสู้ที่หวือหวาทั้งภาพและเสียง
สิ่งประทับใจอย่างแรกนั้นไม่ใช่เรื่องเสียง แต่เป็นความสามารถของ 4K Passtrough ส่งผ่านสัญญาณภาพ 4K HDR จากเครื่องเล่นไปยังทีวี ให้ภาพคมชัดสมบูรณ์ไม่บกพร่อง โดยเฉพาะความเจิดจรัสของ HDR ยังสาดแสงให้แสบตาได้ราวกับต่อเครื่องเล่นเข้าทีวีโดยตรง หมดกังวลในเรื่องการส่งผ่านสัญญาณภาพไปได้เลย
RSB-14 รองรับรหัสเสียงจาก Dolby Audio เท่านั้น ไม่รองรับฝั่ง DTS ในฉากการปะทะกับบรรดาผู้ต้องคำสาป ต้องบอกเลยว่าซาวด์บาร์เครื่องนี้สู้เสียงแอ็คชั่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเสียงปืนที่มีน้ำหนัก ไม่แห้งบางป็อกแป็กให้เสียอารมณ์ การต่อยตีก็เช่นกัน ความกระแทกกระทั้นของเสียง ชวนรู้สึกได้ถึงความแรงและน้ำหนักในการโจมตีแต่ละที สะใจคอหนังบู๊ที่มักจะหมดอารมณ์กับกับเสียงต่อสู้แบบแห้งๆ
สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือซับวูฟเฟอร์ สามารถให้ความดุดัน อึกทึกคึกโครม และมีความไวสูง ยิ่งผสานกับทวีตเตอร์ Tractix Horn อันเลื่องชื่อด้านประกายเสียงระยิบยับ จนเกิดไดนามิกเสียงที่กว้างจนสัมผัสได้ เสียงต่ำก็ลึกยาว เสียงสูงก็ขับประกายโชดช่วงไม่แข็งทื่อ มีสมดุลย์ไม่โดดไปมาอย่างน่าตกใจ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้การรับชมได้เสียงที่เป็นธรรมชาติ
ซึ่งธรรมชาติในทีนี้นั้น ให้ความหมายตรงตัวเลย หมายถึงได้เสียงที่ใกล้เคียงกับเสียงจริงๆ ไม่ปรุงแต่งให้ผิดเพี้ยน เช่น เสียงลมตามธรรมชาติที่เราได้ยิน ไม่ได้มีแค่เสียงหวีดแห้งๆ ยังมีเสียงเบสจากมวลของอากาศที่เคลื่อนไปมาแรงๆ เจ้า RSB-14 สามารถเติมเต็มเสียงลมให้เป็นธรรมชาติ ไม่ฟังดูแห้งได้
อาจเพราะด้วยเหตุดังกล่าว จึงไม่มีฟังก์ชั่น EQ หรือการปรับแต่งย่านเสียงใดๆ มาให้ แต่การรับฟังแบบธรรมดา ไม่เปิดโหมดใดๆ ก็แสดงถึงความเจนจัดหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Klipsch ซีรี่ส์ Refernce อย่างชัดเจน ซึ่งโหมดเสียงนั้นมีอยู่ 3 โหมด ได้แก่ โหมด Dialog, Surround และ Night สำหรับปรับแต่งเสียงเพื่อความสะดวกในการรับชม
หลังจากได้ทดสอบแล้ว จะขอแนะนำการใช้โหมดเสียงสักหน่อย เริ่มที่โหมด Dialog โหมดนี้จะเป็นการเสริมเสียงย่านกลางหรือเสียงพูดขึ้นมา เชื่อว่าหลายท่านต้องเคยเจอปัญหาเรื่องเสียงในภาพยนตร์ตูมตามเสียงดังมาก แต่เสียงสนทนาในฉากกลับเบาหวิว จนต้องเพิ่มลดเสียงบ่อยๆ โหมด Dialog นี้แหละจะมาแก้ปัญหาดังกล่าว โดยที่เสียงย่านอื่นๆ ไม่ได้ตกลงเลย
ถึง RSB-14 จะเป็นซาวด์บาร์ 2.1-Channel แต่อย่าเพิ่งตัดสินใจว่าไม่สามารถให้มิติเสียงในการรับชมได้ เพราะโหมด Surround จะมาขยายขอบเขตและมิติของเสียงให้กว้างขึ้น ในรูปแบบของสนามเสียง จากที่เคยยิงเสียงตรงๆ เมื่อปรับโหมดนี้ พื้นที่ของเสียงจะขยายองศามากขึ้น รู้สึกถึงความใกล้ไกล เช่นฉากสุดท้ายของ Suicide Squad ที่ตัวร้ายแว่บไปแว่บมา ซาวด์บาร์สามารถให้ตำแหน่งเสียงได้มีระยะห่างชวนอินกับฉากจริงๆ ส่วนโหมดสุดท้าย Night ก็ตามชื่อเลย สำหรับการรับชมตอนกลางคืน โดยจำกัดความคึกโครมของเบสและปริมาณเสียงเอาไว้ ไม่ให้รบกวนข้างบ้านนั่นเอง
อย่างที่บอกไปแล้วว่า RSB-14 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาเป็นการสตรีมมิ่งไร้สายผ่านสัญญาณ Wi-Fi มีหรือจะไม่ทดสอบ โดยการจะฟังเพลงผ่าน Wi-Fi ได้ จำต้องใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น Klipsch Stream หรือ DTS Play-Fi (วิธีใช้งานอ่านได้จากหน้าก่อน) ด้วยวิธีนี้ ทำให้สามารเพลิดเพลินไปกับเพลง Hi-Res ความละเอียดสูงถึง 24Bit/192kHz
ซาวด์บาร์สามารถตอบสนองได้ทุกย่านเสียง ทดสอบด้วยเพลงหนักๆ สไตล์แทรชเมทัลอย่าง Metallica ที่ซาวด์กีต้าร์แตกละเอียดคอยขยี้โสตประสาท RSB-14 ก็จัดเต็มให้ความมันแบบถึงพริกถึงขิง ถึงจะเป็นลำโพงแนวเสียงจัดจ้านหนักแน่น ก็ไม่ได้แปลว่าจะฟังแล้วไม่สบายหู เพราะซาวด์บาร์สามารถให้เสียงที่มีความคม กระชับ สะอาด ไม่รกรุงรังจนรู้สึกระคายหู
อย่าเพิ่งคิดว่าจะเป็นแนวดุดันอย่างเดียว เพลงแนวป็อปฟังสบาย หรืออะคูสติกใสๆ ก็ให้ความใสกระจ่าง ฟังสบายลื่นหู ไร้ความเสียดทาน ซึ่งการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth เองก็ใช้จะธรรมดา เพราะมีคำว่า apt-X พ่วงหลังด้วย เสริมศักยภาพในการรับส่งรหัสเสียงให้สูงขึ้น แต่กระนั้น ตัวอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อก็ต้องรองรับ apt-X แม้คุณภาพเสียงอาจไม่เท่าการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi แต่เสียงที่ได้จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ยังให้เบสที่ชัดเจน เว้นเพียงรายละเอียดหรือประกายเสียง ไม่แหลมคมระยิบระยับเท่าการเล่นผ่าน Wi-Fi อ่านไปอาจยังไม่เห็นภาพ ไปรับชมคลิปทดสอบเสียงจริงกันเลยดีกว่า…
Conclusion – สรุป
ต้องยอมรับเลยว่าไลน์อัพซาวด์บาร์รุ่นใหม่ของ Klipsch ประจำปี 2017 นี้ มาเพื่อเขย่าวงการซาวด์บาร์จริงๆ โดยเฉพาะ RSB-14 ที่จัดหนักจัดเต็มด้วยการเชื่อมต่อที่หลากหลายและทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น HDMI ที่มีช่องอินพุตถึง 3 ช่อง สามารถส่งสัญญาณภาพ 4K HDR ได้ทุกช่อง และการเชื่อมต่อ Wi-Fi สำหรับการใช้งานแบบ Multi-room ขยายซิสเต็มให้ใหญ่ขึ้นเพีงแค่เพิ่มลำโพงเข้าไป รวมถึงคุณภาพเสียงที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ให้ประสบการณ์การฟังที่ยอดเยี่ยมโดยไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งใดๆ ในราคาที่สมเหตุสมผล เอาอยู่ทั้งการดูหนังหรือจะฟังเพลง คงคอนเซ็ปต์ของ Reference Series เอาไว้เลยว่า “ให้เสียงระดับอ้างอิง สมจริงเป็นธรรมชาติ สร้างอารมณ์รับชมใกล้เคียงกับโรงภาพยนตร์“
ข้อดีของ Klipsch RSB-14
1. คงเอกลักษณ์ความดุดันหนักแน่น ตอบสนองทุกย่านเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม มีช่วงไดนามิกที่กว้าง แต่สมดุลย์อย่างน่าประทับใจ
2. ช่องต่อครบครันทันสมัย ช่องต่อ HDMI เยอะมาก แถมรองรับ 4K HDR Passtrough
3. รองรับการใช้งานแบบ Multi-room และการสตรีมมิ่งเพลง Hi-Res ผ่านสัญญาณ Wi-Fi 2.4GHz
ข้อเสียของ Klipsch RSB-14
1. บริเวณช่องต่อ HDMI ค่อนข้างคับแคบไปสักนิด อาจยากต่อการเสียบหรือถอดสาย
2. หน้าจอแสดงผลมีขนาดเล็ก มองเห็นได้ยากแม้อยู่ในระยะรับชม และไม่มีค่าแสดงผลสำหรับบอกระดับเสียง
3. ไม่รองรับการเล่นไฟล์ผ่าน USB Drive แต่แทบไม่จำเป็น เพราะใช้งานผ่านการเชื่อมต่ออื่นๆ ที่ครบครันได้
คะแนน
คะแนน Klipsch RSB-14 Soundbar & Wireless Subwoofer
8.4
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
บริษัทซาวด์รีพับลิคจำกัด (บริษัทโฮม ไฮ-ไฟ จำกัด)
โทร. 02-448-5489, 02-448-5465-6
www.sound-republic.com