17 Jul 2016
Review

ชุดลำโพง Atmos ระดับอ้างอิง !!? รีวิว Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos 5.1.2


  • ชานม

Home Theater Speaker Set

Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos 5.1.2

ชุดลำโพง Atmos ระดับอ้างอิง !!?

ดังที่ทราบกันว่ามาตรฐานโฮมเธียเตอร์กำลังก้าวผ่านสู่ยุคถัดไป… นอกจากระบบภาพความละเอียดสูงระดับ 4K/Ultra HD และเทคโนโลยี HDR แล้ว ด้านเสียงก็ได้รับการพัฒนาสู่ยุคของ Immersive Audio ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ซึ่งควบรวมเสียงโอบล้อมโดยเพิ่มเติมมิติด้านสูงเข้ามาด้วย นำร่องโดยจ้าวแห่งระบบเสียงภาพยนตร์ที่คุ้นเคยกันดี คือ “Dolby Atmos” และตามติดมาด้วย “DTS:X”

หากต้องการสัมผัสรับฟังมิติใหม่ของระบบเสียงรอบทิศทางข้างต้น ย่อมจำเป็นต้องมีการอัพเกรดระบบลำโพงเพิ่มเติมกันสักเล็กน้อย และด้วยเหตุนี้ผู้ผลิตลำโพงชื่อดังที่คร่ำหวอดในแวดวงระบบเสียงในโรงภาพยนตร์และโฮมเธียเตอร์สัญชาติอเมริกันอย่าง Klipsch จึงเข้าร่วมวงไพบูลย์นำเสนอชุดลำโพงใหม่ที่พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS:X ด้วยซีรี่ส์ล่าสุด Reference Premiere Dolby Atmos!

การที่ Klipsch นำคำว่า “Reference” มาใช้กับซีรี่ส์ลำโพงนี้ก็ด้วยความหมายที่ตรงตัว คือ ชุดลำโพงที่เน้นเป้าหมายถ่ายทอดคุณภาพเสียงถูกต้องตรงตามมาตรฐานอ้างอิง อันมีที่มาจากการผสมผสานนวัตกรรมด้านเสียงอันยอดเยี่ยมระดับตำนาน ที่เริ่มต้นจากชายที่ชื่อว่า Paul W. Klipsch

ชุดลำโพง Reference Series ของ Klipsch นั้นมีมานานแล้ว หลายท่านคงจะคุ้นเคยกันดีกับลำโพงที่ติดตั้งตัวขับเสียงกลาง-ต่ำสีทองแดง ผสานตัวขับเสียงสูงทรงฮอร์น อันเป็นเอกลักษณ์ของชุดลำโพงที่มีประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในระดับสูงนี้ ปัจจุบัน Reference Series ได้รับการพัฒนามาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 3 นามว่า Reference Premiere

ปัจจุบัน Reference Premiere มีลำโพงทั้งหมด 13 รุ่น ประกอบไปด้วย

– ลำโพงตั้งพื้นพร้อม Dolby Atmos Enabled Speakers แบบ “Built-in” 1 รุ่น คือ RP-280FA
– ลำโพงตั้งพื้น 3 รุ่น คือ RP-280F, RP-260F และ RP-250F
– ลำโพงวางขาตั้ง 2 รุ่น คือ RP-160M และ RP-150M
– ลำโพงเซ็นเตอร์ 4 รุ่น คือ RP-450CA, RP-450C, RP-440C และ RP-250C
– ลำโพงเซอร์ราวด์แบบ Bi-pole 2 รุ่น คือ RP-250S และ RP-240S
– ลำโพง Dolby Atmos Enabled Speakers แบบ “Add-on” 1 รุ่น คือ RP-140SA

ก่อนจะไปว่ากันต่อเกี่ยวกับรายละเอียดและจุดเด่นของลำโพงในซีรี่ส์ Reference Premiere ผมขอทวนความจำเกี่ยวกับลำโพงที่ทำหน้าที่สร้างมิติเสียงด้านสูง (Height Channel) สำหรับ Dolby Atmos (และสามารถใช้งานร่วมกับ DTS:X ได้ด้วย) กันสักหน่อยว่ามีลักษณะใดบ้าง เพื่อให้ท่านได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ…

ลำโพงด้านสูงที่ใช้งานร่วมกับระบบเสียง Dolby Atmos แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ ตามลักษณะการติดตั้ง

1. Top Speakers หรือลำโพงที่ติดตั้งบนฝ้าเพดาน ตำแหน่งของลำโพงลักษณะนี้จะติดตั้งอยู่เหนือศีรษะของผู้ฟังจริงๆ แต่ต้องอาศัยการติดตั้งที่ยุ่งยากสักหน่อย เพราะต้องมีการเจาะยึดฝ้าเพดานเพิ่มเติม

2. Dolby Atmos Enabled Speakers ลำโพงพิเศษที่ใช้หลักการยิงเสียงขึ้นไปสะท้อนกับฝ้าเพดานลงมา แบ่งออกเป็น 2 แบบย่อย คือ “Integrated (Built-in) Speakers” แบบที่ฝังมากับลำโพงคู่หน้าและ/หรือลำโพงเซอร์ราวด์ กับแบบ “Add-on Speakers” ที่เป็นตู้ลำโพง-ขนาดเล็กแยกอิสระ สำหรับนำไปวางบนลำโพงคู่หน้าและ/หรือลำโพงเซอร์ราวด์ทั่วไป รูปแบบนี้จึงติดตั้งใช้งานได้ง่าย แต่ลักษณะสภาพแวดล้อมการติดตั้งก็จะส่งผลกับศักยภาพของลำโพงรูปแบบนี้อยู่บ้าง

ทั้ง 2 รูปแบบข้างต้น มีพร้อมให้เลือกใช้งานจากชุดลำโพง Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos!

โดย Dolby Atmos Enabled Speakers “Built-in” มาในรุ่น RP-280FA ซึ่งเป็นลำโพงตั้งพื้นรุ่นสูงสุดของซีรี่ส์ฯ รับหน้าที่เป็นทั้งลำโพงคู่หน้า พร้อมๆ กับเสริมสร้างมิติเสียงด้านสูงโดยอาศัยตัวขับเสียงอีกชุดหนึ่งฝังอยู่ด้านบนตู้ลำโพง

ส่วน Dolby Atmos Enabled Speakers แบบ “Add-on” มาในรุ่น RP-140SA ลักษณะเป็นตู้ลำโพงอิสระขนาดเล็ก จึงสามารถนำไปเพิ่มเติมติดตั้งบนลำโพงตั้งพื้นหรือลำโพงวางขาตั้งอื่นใดในซีรี่ส์ Reference Premiere ได้อย่างลงตัว

แต่หากท่านใดต้องการลำโพงด้านสูงรูปแบบ “Top Speakers” ที่ให้ทิศทางเสียงเหนือศีรษะผู้ฟังจริงๆ จากลำโพงที่ติดตั้งบนฝ้าเพดาน ทาง Klipsch เขาก็มีเช่นกัน โดยใช้งานร่วมกับลำโพงฝังฝ้าหลากหลายรุ่น อย่างไรก็ดีสำหรับรีวิวในครั้งนี้จะเน้นทดสอบรายงานผลเฉพาะรูปแบบ Enabled Speakers ครับ

Design – การออกแบบ

กลับมาที่จุดเด่นของลำโพงซีรี่ส์ใหม่ของ Klipsch… มาดูกันว่า Reference Premiere ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมจุดใด จึงได้ผลลัพธ์ทางเสียงยอดเยี่ยมเหนือกว่าเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า

“ปากฮอร์น” อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งถูกใช้ในลำโพงของ Klipsch ทุกรุ่น โดยรูปแบบของ Reference Premiere เป็นโครงสร้างที่เรียกว่า Tractrix Horn ได้รับการพัฒนาปรับปรุงมาจาก Reference II อีกทีหนึ่ง ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน คือ ไดเมนชั่น จากเดิมจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผื้นผ้า 60×90 ก็กลายมาเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส 90×90 เมื่อผสานกับโครงสร้างทรงกลมบริเวณใจกลาง จะยิ่งส่งเสริมมุมกระจายเสียงของทวีตเตอร์ได้ครอบคลุมกว้างขวางยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ตามมา คือ เวทีเสียงที่โอ่อ่าเปิดกว้าง และการตอบสนองทางไดนามิกยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น

วัสดุที่ใช้ขึ้นรูป Tractrix Horn นี้ ยังเปลี่ยนมาใช้ซิลิโคนทดแทน ABS ในเจนฯ ก่อน คุณสมบัติทางเรโซแนนซ์จึงดีขึ้น ส่งผลถึงการตอบสนองต่อเสียงความถี่สูงที่ราบเรียบและให้ความนุ่มนวลเป็นธรรมชาติมากกว่า

ซึ่ง Klipsch ยังได้ทำการปรับปรุงตัวขับเสียงสูงที่เรียกว่า Titanium Linear Travel Suspended (LTS)Tweeters เพิ่มเติม ด้วยการออกแบบโครงสร้าง Phase Plug ใหม่ เพื่อขยายขีดความสามารถในการถ่ายทอดรายละเอียดเสียงอันซับซ้อนจากทั้งดนตรีและภาพยนตร์

วัสดุที่ใช้ผลิตโคนวูฟเฟอร์อันโดดเด่นของ Klipsch คือ Copper Cerametallic ยังถูกนำมาใช้กับ Reference Premiere เช่นเคย ทว่าภายในได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมโครงสร้าง Titanium Voice Coil เพื่อการขยับตัวได้อย่างมีเสถียรภาพ เสียงเบสจะสะอาด และตอบสนองฉับไวกว่าเดิม

โครงสร้างแบบ Tractrix Horn นั้น มิได้ส่งผลดีเฉพาะกับการควบคุมมุมกระจายเสียงของทวีตเตอร์เท่านั้น ทว่ายังสามารถนำมาประยุกต์กับท่อเบสได้ด้วยจึงก่อเกิดเป็น Tractrix Port เป็นการไฟน์จูนให้การถ่ายเทมวลอากาศจากภายในตู้ลำโพงเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว และลดทอนเสียงรบกวนจากลมหมุนวนบริเวณปลายท่อได้อีกต่างหาก

หากสังเกตจะเห็นว่าลำโพงตั้งพื้นและลำโพงวางขาตั้งจะติดตั้งฐานมาพร้อมจากโรงงาน ซึ่งฐานนี้นอกจากเพิ่มความมั่นคงแล้ว ยังทำหน้าที่ยกหน้าลำโพงให้แหงนขึ้นเล็กน้อยเพื่อผลทางเสียงด้วย

รายละเอียดปลีกย่อยอย่างการลบมุมบริเวณแผงหน้า ซึ่งวัสดุเป็น MDF ดูผสานกลมกลืนเป็นชิ้นเดียวกับตัวตู้มากกว่าวัสดุ ABS ที่ใช้ในรุ่น Reference II อีกทั้งเปลี่ยนวัสดุปิดผิวให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยวีเนียร์โพลีเมอร์ลายปัดเสี้ยนสีดำ และลวดลายไม้ หน้ากากผ้าก็ใช้การยึดติดด้วยแม่เหล็ก ถอดใส่ได้สะดวกแล้วยังมีส่วนช่วยให้แผงหน้าลำโพงดูสวยงามสะอาดสะอ้านดี (ไม่มีรู)