ภาพ
OLED evo ได้รับการปรับปรุงจุดใด จึงได้ศักยภาพสูงขึ้น ?
WRGB OLED Panel ประกอบขึ้นจากชั้น (Layer) ของตัวนำไฟฟ้าและสารเรืองแสง (B, R, YG, B) ขนาดบางเฉียบ นำมาซ้อนกันจนได้แหล่งกำเนิดแสงขาวที่สามารถปรับความสว่างและปิดแสงได้มืดสนิท เมื่อผ่านแม่สี RGB Color Filter แยกไปแต่ละ Subpixel ก็จะได้แสงสีจุดเล็ก ๆ ประกอบกันขึ้นเป็นภาพใหญ่บนจอ
ชั้น (Layer) ของตัวนำไฟฟ้าและสารเรืองแสงที่ว่านี้ ทาง LG พบว่า (1) หากเพิ่มชั้นเรืองแสงสีเขียว (Green emitter) เข้าไป (กลายเป็น B, R, YG+G, B) จะได้ระดับความสว่างสูงขึ้น
(2) เสริมด้วยการปรับเปลี่ยนสารประกอบในส่วนของชั้นเรืองแสงสีแดงและสีน้ำเงิน (Red & Dual Blue emitters) ส่งผลให้ได้ส่วนผสมของแสงขาวที่มีความยาวคลื่นแคบลง (Narrow Wavelength) ซึ่งใกล้เคียงแหล่งกำเนิดแสงตามอุดมคติมากขึ้น อันมีส่วนช่วยให้การแสดงขอบเขตสีขยายครอบคลุมกว้างขวางมากยิ่งขึ้นได้… นี่คือที่มาของ OLED evo !
ผลการทดสอบใช้งานจริงของทีมงานพบว่า หากทำการเทียบ G1 (OLED evo) กับรุ่น C1 (OLED) ที่วางจำหน่ายช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ยืนยันว่า G1 “สว่างกว่า” โดยเฉพาะเมื่อรับชม HDR content
นอกจากนี้ผลกระทบจาก ABL (Auto Brightness Limiter) ที่เป็นข้อจำกัดของเทคโนโลยี OLED ก็ลดน้อยลง ความสว่างที่ 100% Full Pattern ทำได้สูงกว่า C1 แบบที่สังเกตได้ไม่ยาก ผลคือ G1 ให้ภาพที่มีคอนทราสต์เจิดจรัสเตะตากว่าในหลายสถานการณ์ โดยเฉพาะฉากสว่างหรือซีนกลางแจ้ง
มาดูความเที่ยงตรงสีสันของโหมดภาพต่าง ๆ กันบ้าง โหมดภาพของ G1 ที่เหมาะกับรับชม SDR Content มี 4 โหมด ต่างกันที่ Cinema/ISF Expert Bright เหมาะใช้งานในห้องรับแขกสภาพแสงทั่วไป, ISF Expert Dark ความสว่างจะเพลาลงกว่า 2 โหมดข้างต้นเล็กน้อย เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีแสงรบกวนไม่มากนัก และ Filmmaker Mode เหมาะกับห้องที่จัดการกับแสงรบกวนได้เบ็ดเสร็จ หรือรับชมในเวลากลางคืน
– SDR –
อย่างไรก็ดีกรณีที่จะใช้งานโหมดภาพ Cinema/ISF Expert Bright รับชมกับสภาพห้องทั่วไป อาจติดดำจมอยู่สักหน่อย การแยกแยะรายละเอียดในส่วนมืด (Shadow Details) จะทำได้ยาก แต่ก็แก้ไขได้ง่าย ๆ สำหรับรุ่นนี้ คือ ชดเชย Screen Brightness ขึ้นสัก +3 ถึง +5 และหากต้องการเร่งความสว่างโดยรวมให้สูงขึ้นเพื่อสู้แสง สามารถปรับที่ตัวเลือก OLED Light เพิ่มได้อีกเล็กน้อย
<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล SDR Calibration Report>
65G1 ตัวที่ทำการทดสอบ พบว่า โหมดภาพ Cinema มีความเที่ยงตรงของสีสันดีที่สุด อุณหภูมิสีเฉลี่ยอยู่ที่ราว 6484K ค่าความผิดเพี้ยนสมดุลแสงขาวเฉลี่ย (Grayscale Avg dE) ต่ำเพียง 2.6 ขอบเขตสีก็ทำได้เที่ยงตรงอิงมาตรฐาน Rec.709 ค่าความผิดเพี้ยน (Color Space Avg dE) ดีมากเพียง 1.9 การใช้งานตามบ้านอาจไม่จำเป็นต้องปรับภาพเพิ่ม (นอกจากชดเชย Screen Brightness กับห้องที่ไม่ได้คุมแสงรบกวน)
ถึงกระนั้นหากปรับภาพเชิงลึกก็ย่อมจะให้ความเพอร์เฟกต์ยิ่งกว่า ค่าความผิดเพี้ยนสมดุลแสงขาว (Grayscale Avg dE) ลดต่ำลงมาเหลือเพียง 0.6 เท่านั้นเอง ส่วนค่าความผิดเพี้ยนสี (Color Space Avg dE) จะลดลงเหลือเพียง 0.9
Rec.709 Color Checker หลังดำเนินการปรับภาพ ก็ให้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยม ค่าความผิดเพี้ยนสีโดยรวมแบบเฉลี่ย (Saturation Avg dE) ที่ 0.9 (Max dE = 2) จะใช้อ้างอิงทำงานกราฟิก-ตัดต่อวิดีโอ แทนมอนิเตอร์ก็สามารถทำได้
– HDR –
การแสดงผล HDR รุ่น 65G1 รองรับมาตรฐาน Static HDR ทั้ง HDR10 และ HLG ส่วน Dynamic HDR รองรับมาตรฐาน Dolby Vision โดยสามารถให้ระดับความสว่าง HDR Peak Brightness (10% Window) ที่ 876 nits ในโหมด Dynamic ขณะที่โหมดความเที่ยงตรงสูงอย่าง Cinema/Filmmaker ความสว่างจะเพลาลงมาอยู่ที่ 819 nits
<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล HDR Calibration Report>
ความเที่ยงตรงของสีสัน HDR ในโหมด Filmmaker ของ 65G1 นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก (Grayscale Avg dE 2.6, Colorspace Avg dE 2.3) ส่วนขอบเขตสี HDR Color Space ทำได้ครอบคลุม 97.94/99.03% ของมาตรฐาน DCI-P3 (xy/uv) หรือเทียบเท่า 70.53/73.56% Rec2020 (xy/uv)
อย่างไรก็ดี หากใช้งานในห้องที่มีแสงรบกวน ควรชดเชย Screen Brightness ขึ้นเล็กน้อย (เช่นเดียวกับที่แนะนำให้ทำกับโหมดภาพ SDR) จะช่วยให้การแยกแยะรายละเอียดส่วนมืด (Shadow Dteails) ทำได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
และเช่นเคย ว่าหลังปรับภาพ HDR ในโหมด Cinema/Filmmaker ให้ความเที่ยงตรงยอดเยี่ยม (Grayscale Avg dE 0.7, Colorspace Avg dE 1.1) ความสว่าง HDR Peak Brightness จะลดลงอยู่ที่ 760 nits
กรณีที่รับชม Dolby Vision HDR จะไม่มี Filmmaker Mode แต่สามารถเลือกใช้โหมดที่ให้สีสันเที่ยงตรงอย่าง DV Cinema หรือ DV Cinema Home ก็ได้ ความต่างคือ DV Cinema Home จะชดเชย Highlight/Shadow Details ให้เหมาะกับห้องที่มีแสงรบกวนมากกว่า
กรณีที่รู้สึกว่าภาพ Dolby Vison จ้าเกินไป ดูแล้วแสบตาในบางสภาพห้อง สามารถใช้คุณสมบัติ “Dolby Vision IQ” ระบบ AI และเซนเซอร์วัดแสงของทีวี จะปรับระดับความสว่างของภาพให้อัตโนมัติอิงตามสภาพแสงแวดล้อม สามารถเปิดใช้งานได้ที่ตัวเลือก General > AI Service > AI Brightness Settings