14 Aug 2018
Review

รีวิว Onkyo TX-NR575E และ TX-NR474 ผสานกับชุดลำโพง Polk Audio T Series ซิสเต็มคุ้มค่าที่มากกว่ารุ่นเริ่มต้น


  • lcdtvthailand

7.2-Channel & 5.1-Channel Network AV Receiver 
With Affordable Home Theater Speaker and Powered Subwoofer

Onkyo TX-NR575E & TX-NR474
Polk T Series
Polk HTS-10

ท่านใดที่ติดตามเพจ HOMETHEATERTHAILAND อยู่ คงทราบดีว่าก่อนหน้านี้ได้ทำการทดสอบเอวีรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR676E และชุดลำโพง Polk Signature Series กันไปแล้ว มาในครั้งนี้ ยังคงเป็นรีวิวควบทั้ง 2 แบรนด์ยอดฮิตอยู่ แต่เป็นชุดดูหนังที่มีราคาประหยัดกว่ารีวิวก่อน แต่มีความโดดเด่นน่าสนใจไม่แพ้กัน เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับท่านใดที่กำลังมองหาชุดลำโพงมาเติมเต็มการรับชมภาพยนตร์ และเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลง

และซิสเต็มที่จะทำการทดสอบครั้งนี้ นำโดยเอวีรีซีฟเวอร์ 2 รุ่น Onkyo TX-NR575E กับ TX-NR474พร้อมด้วยชุดลำโพง Polk Audio ตระกูล T Series และซับวูฟเฟอร์พลังสูง Polk Audio HTS-10 บางท่านอาจสงสัยกันแล้วว่าทำไมรีวิวนี้ใช้เอวีรีซีฟเวอร์ถึง 2 รุ่นเลย นั่นก็พื่อเพิ่มทางเลือกในการซื้อ รุ่นไหนจะเหมาะกับผู้ใช้งานแบบใด ความสามารถจะคุ้มค่าตัวหรือไม่ ทั้งรับชมการทดสอบชุดลำโพงรุ่นประหยัด แต่เห็นสเปคแล้วต้องอยากลองพิสูจน์เสียงกันแน่นอน เกริ่นกันมาเยอะแล้ว มาเริ่มทำความรู้จักแต่ละรุ่นในชุดนี้กันเลยดีกว่า…

ราคาเปิดตัวของแต่ละรุ่น สนนอยู่ที่…
เอวีรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR575E ราคา 24,900 บาท
เอวีรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR474 ราคา 19,900 บาท
ลำโพงวางหิ้ง Polk Audio T-15 ราคา 7,490 บาท
ลำโพงเซ็นเตอร์ Polk Audio T-30 ราคา 7,490 บาท
ลำโพงตั้งพื้น Polk Audio T-50 ราคา 12,900 บาท
ซับวูฟเฟอรฺ Polk Audio HTS-10 ราคา 15,900 บาท

Design – การออกแบบ

หน้าตาและขนาดของเอวีรีซีฟเวอร์ทั้ง 2 รุ่นมีความแตกต่างกันพอสมควร TX-NR575E มีขนาดที่ใหญ่ ดีไซน์ค่อนข้างใกล้เคียงรุ่นที่ระดับสูงกว่า หน้ากว้างและความสูงอยู่ที่ 435 x 173.5 มม. รุ่นนี้เป็นเอวีซีฟเวอร์ 7.2-Chรองรับการติดตั้ง Top Surround แบบ 5.2.2-Ch ให้กำลังขับต่อแชนแนลสูงสุด 135W ที่ 6 โอห์ม

รูปโฉมคมเข้ม แต่เรียบง่าย

ด้านหน้าเครื่องของ TX-NR575E มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจนจากตำแหน่งนั่งฟัง ปุ่มคำสั่งก็ครบถ้วนต่อการใช้งาน เช่น ปุ่มเลือกใช้งานสำหรับช่องต่อต่างๆ, ปุ่มปรับโหมดเสียง, ปุ่มปรับแต่งย่านเสียง, ปุ่มโหมด Pure Audio และปุ่มปิด/เปิดเครื่อง ซึ่งทาง Onkyo ได้ใส่ปุ่มหมุนเพิ่มเติมเข้ามานอกจากการใช้ปรับระดับเสียง เพิ่มความสะดวกในการใช้ ส่วนช่องต่อที่อยู่ด้านหน้าเครื่อง ได้แก่ ช่องต่อหูฟัง 6.35 มม., ช่องต่อไมโครโฟนคาลิเบรทเสียง และสุดท้ายช่องต่อ AUX 3.5 มม.

ช่องต่อทางด้านหลังของ TX-NR575E มีมาให้เพียงพอต่อการใช้งาน ช่องอินพุต HDMI มีจำนวน 4 ช่อง และเอ๊าท์พุต HDMI ARC จำนวน 1 ช่อง ทุกช่องรองรับ HDR10, Dolby Vision, BT.2020, 4K/60Hz และ HDCP 2.2 ช่องต่อสายลำโพง Binding Post รองรับการเข้าสายทั้งแบบเปลือยและแบบหัวกล้วย ช่องต่ออื่นๆ สำหรับภาคดิจิตอลและอะนาล็อกก็มีให้เลือกใช้มากมาย ส่วนภาคการเชื่อมต่อไร้สาย ได้มีเสารับสัญญาณมาให้ถึง 2 เสา รองรับ Bluetooth 4.1 และ Wi-Fi แบนด์วิธ 2.4GHz กับ 5GHz

ช่องเชื่อมต่อมีเพียบพร้อมหลากหลาย

มาดูฝั่งรุ่นรองกันบ้าง TX-NR474 ความสูงของตัวเครื่องจะเล็กลงมาหน่อย อยู่ที่ 160 มม. ให้กำลังขับ 135Wต่อแชนแนล รองรับซิสเต็มขนาด 5.1-Ch ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้อยู่ที่การรองรับระบบเสียง Dolby Atmosและ DTS:X สามารถติดตั้งลำโพงในรูปแบบ Dolby Atmos 3.1.2-Ch อย่าเพิ่งตกใจ… นี่คือเรื่องจริง ไม่ได้พิมผิดแต่อย่างใด การเซ็ตอัพแบบนี้ ตัดการเซอร์ราวด์ด้านข้างออก ไปเพิ่มเซอร์ราวด์ด้านบน จะให้อรรถรสการฟังที่ดีสู้ระบบ 5.1-Ch แบบปกติได้หรือไม่ รอชมการทดสอบในส่วนถัดไปกัน

หน้าตาของรุ่นนี้ อาจไม่ดูหรูหราเท่ารุ่นสูงกว่า แต่ก็จัดวางปุ่มคำสั่งต่างๆ ทางด้านหน้าตัวเครื่องได้เป็นระเบียบ ใช้งานง่าย โดยปุ่มคำสั่งและช่องต่อหน้าเครื่องจะเหมือนกับรุ่น TX-NR575E ต่างกันนิดหน่อยตรงที่ไม่มีปุ่มหมุน เป็นเพียงแค่ปุ่มแบบกด ส่วนจอแสดงผลก็มีขนาดใหญ่ มองเห็นไ้ด้ชัดเจน

สัดส่วนจะเล็กลงนิดหน่อย หน้าตาแตกต่างกันพอสมควร

ช่องต่อทางด้านหลังจะลดหลั่นจำนวนลงมาตามลำดับรุ่น ช่องต่ออินพุต HDMI มี 4 ช่อง ส่วนเอ๊าท์พุต HDMI ARC มี 1 ช่อง ด้านการรองรับสัญญาณจะเหมือนกับรุ่นบน ช่องต่อสายลำโพงก็เป็น Binding Post รองรับสายเปลือยกับหัวกล้วยเช่นกัน ซึ่ง TX-NR474 จะถูกตัดการเชื่อมต่อลำโพงโซน 2 ออกไป แต่ภาคเชื่อมต่ออื่นๆ ทั้งดิจิตอล อะนาล็อก และไร้สาย ยังคงมีให้ครบเพียงพอต่อการใช้งาน

สังเกตได้ว่าช่องต่อด้านหลังค่อนข้างโล่ง แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน

รีโมทของเอวีรีซีฟเวอร์ทั้ง 2 รุ่นนั้นเป็นแบบเดียวกัน เน้นความเรียบง่าย ใช้งานสะดวก จัดเรียงปุ่มตามช่องอินพุตต่างๆ มีขนาดกะทัดรัด นอกจากนี้ภายในชุดยังให้ไมโครโฟนรับเสียง สำหรับการคาลิเบรทอัตโนมัติ อีกหนึ่งลูกเล่นเด็ดของ Onkyo

รีโมทใช้งานง่าย แยกปุ่มชัดเจน

มาดูชุดลำโพง Polk Audio T Series กันต่อ โดยซีรีส์นี้มีนิยามการออกแบบที่เน้นในเรื่องคุณภาพเสียงชั้นดี ในระดับราคาที่ใครก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย รูปลักษณ์ภายนอกมีดีไซน์ที่อาจจะดูธรรมดา ใช้วัสดุเป็นไม้ MDF ผิวตู้เป็นลายไม้สีดำ แต่ในขณะเดียวกันก็ให้อารมณ์เรียบง่าย สุภาพเคร่งขรึม ไม่หวือหวาจนเกินไป เหมาะกับทุกสไตล์การตกแต่งบ้าน

Polk Audio T Series มีดีไซน์และโทนสีที่เน้นความเรียบง่าย แต่ให้ความเคร่งขรึม

ลำโพงตั้งพื้นรุ่น T50 เป็นลำโพงตู้ปิด ไม่มีช่องคายเสียง มีความสูงประมาณ 40.35 นิ้ว บรรจุดอกลำโพงถึง 4 ดอก แบ่งเป็นดอกลำโพงทวีตเตอร์โดมผ้าไหม Wave Guide ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 ดอก, ดอกลำโพง Bass Radiator ขนาด 6.5 นิ้ว 2 ดอก และสุดท้ายเป็นดอกลำโพงมิดวูฟเฟอร์ Dynamic Balance อีกหนึ่งดอก ตามสเปคแล้วนับว่าเป็นลำโพงคู่หน้าที่ตอบสนองย่านเสียงต่ำได้ลึกเลยทีเดียว อยู่ที่ 38Hz-24kHz ช่องต่อทางด้านหลังเป็น Binding Post รองรับสายหัวกล้วย ฐานลำโพงเป็นแบบแบนราบกับพื้น สามารถติดตั้งสไปค์รองลำโพงได้

หน้ากากลำโพงเป็นแบบรูเสียบ มีอักษรบ่งบอกประเภทดอกลำโพงบนทวีตเตอร์ด้วย

ปกติแล้วลำโพงวางหิ้งและลำโพงตั้งพื้นในซีรีส์เดียวกันมักจะมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องการออกแบบตัวตู้และดอกลำโพง แต่สำหรับลำโพงวางหิ้งรุ่น T15 นั้นจะค่อนข้างแตกต่างจาก T50 อยู่สักหน่อย ตัวตู้มีช่องคายเสียงอยู่ทางด้านหน้าระหว่างดอกลำโพงทวีตเตอร์และมิดเบส ใช้ดอกทวีตเตอร์ผ้าไหม Dynamic Balance ขนาด 0.75 นิ้ว ส่วนดอกมิดวูฟเฟอร์เป็น Dynamic Balance Polymer Composite Cone ขนาด 5.25 นิ้ว ด้านช่องต่อสายจะเป็นแบบเดียวกัน มีรูสำหรับแขวนอยู่ทางด้านหลังด้วย

ลำโพงวางหิ้งมีดีไซน์เคร่งขรึมสวยงาม
ด้านหลังมีรูสำหรับแขวนให้ด้วย

ลำโพงเซ็นเตอร์รุ่น T30 มีขนาดตัวกำลังพอดี ความสูง 6.5 นิ้ว หน้ากว้าง 19 นิ้ว เข้ากับชั้นวางทั่วไปได้ ใช้ดอกลำโพงชนิดเดียวกับรุ่น T50 ซึ่งทวีตเตอร์มีขนาดเท่ากัน ดอกมิดวูฟเฟอร์จะมีขนาดเล็กกว่า อยู่ที่ 5.25 นิ้ว มีจำนวน 2 ดอก ด้านหลังตัวตู้จะมีช่องคายเสียงอยู่ตรงกลาง ข้างๆ กันจะเป็นช่องต่อ Binding Post

ลำโพงเซ็นเตอร์ T30 ขนาดตัวไม่เล็กหรือใหญ่ ลงตัวเข้ากับชั้นวางทั่วไป

ปิดท้ายชุดนี้กันด้วยซับวูฟเฟอร์รุ่น HTS-10 ซับวูฟเฟอร์พลังสูงที่บิลต์อินแอมป์คลาส D มาในตัว เคยรีวิวกันมาแล้วในรีวิวก่อน รายละเอียดดีไซน์คงไม่ต้องลงลึกอะไรมากแล้ว ด้วยกำลังขับกว่า 200W และฟีเจอร์ Power Port จากซีรีส์ Signature ที่มากรันตีพลังเสียง ทั้งราคายังจับต้องได้ จึงเหมาะแก่การทดสอบกับซิสเต็มนี้ยิ่งนัก

Polk HTS-10 ซับวูฟเฟอร์พลังช้างสาร