Extra – เพิ่มเติม
มาดูอุปกรณ์ภายในกันสักหน่อย ทาง Onkyo เลือกใช้ High-output EI Transformer และตัวเก็บประจุคัดเกรด เป็นขุมกำลังให้กับภาคขยายแบบ High current กำลังขับ 135 วัตต์ (@6-Ohm, 1kHz, 1% THD) จำนวน 7 แชนเนล นอกจากนี้ยังติดตั้ง 384kHz/32-bit DAC chip จาก AKM เพื่อให้การถ่ายทอดเสียงระดับ Hi-resolution เป็นไปโดยสมบูรณ์
ดังที่เกริ่นไปตอนต้นว่า จุดเด่นที่เพิ่มขึ้นของ 494 คือ จำนวนภาคขยายรองรับ Immersive Audio สูงสุดที่ 5.1.2 Channel กระนั้นจุดที่ถูกตัดออกไป คือ Network Features ลูกเล่นเสริมที่หลายท่านเคยใช้งานกันบ่อยๆ แต่ไม่ต้องกังวล… เพราะ 494 ยังมี Bluetooth สามารถใช้ Smartphone ทำการสตรีมมิ่งเพลงจากแอพผู้ให้บริการ Online Music ชื่อดัง อาทิ Spotify, TIDAL หรือ Internet Radio อื่นๆ แล้วส่งสัญญาณเสียงแบบไร้สายเพื่อมาฟังกับ 494 ได้ครับ จุดเด่นของคุณภาพของภาคขยายแบบ High Current และ Hi Resolution DAC ของ 494 จะช่วยให้ได้อรรถรสด้านเสียงที่ดีเช่นเดียวกัน
494 สามารถรับสัญญาณเสียงจากทีวีผ่านทาง HDMI ARC ได้ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos (via Dolby Digital+) โดยทีวีจะต้องรองรับฟีเจอร์นี้ด้วยนะครับ
Setup Microphone ที่ให้มา มีไว้ใช้งานร่วมกับ AccuEQ ระบบช่วยเหลืออ้างอิงตั้งค่าลำโพงรอบทิศทาง ดำเนินการแบบกึ่งอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาลดขั้นตอนยุ่งยากได้เยอะเลย
ขั้นตอนสำคัญก่อนดำเนินการใช้งานระบบ AccuEQ คือ การกำหนด Speaker Configuration ให้ตรงกับการติดตั้งจริง กรณีที่จะรับฟังระบบเสียง Dolby Atmos/DTS:X สามารถกำหนดรูปแบบลำโพงที่รองรับได้ตั้งแต่ 2.1.2 ไปจนถึง 5.1.2
กรณีที่ไม่มีลำโพง Top Surround ติดตั้งอยู่ สามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ Speaker Virtualizer ที่ Onkyo แจ้งว่าสามารถใช้ “จำลอง” มิติเสียงด้านสูงในระบบ Dolby Atmos/DTS:X ได้ อย่างไรก็ดีผลการใช้งานพบว่า ยังไม่สามารถเทียบชั้นบรรยากาศเสียงที่ได้จากลำโพง Top Surround จริงๆ ครับ
