26 Jul 2018
Review

รีวิวรีซีฟเวอร์รุ่นคุ้มค่า Onkyo TX-NR676E จับคู่ลำโพง Polk Signature และ Polk HTS-10 ซับฯทรงพลัง อีกซิสเต็มทีเด็ดที่ไม่ควรมองข้าม


  • lcdtvthailand

7.2-Channel Network AV Receiver 
With American Hi-Fi Speaker and Powered Subwoofer

Onkyo TX-NR676E
Polk Signature
Polk HTS-10

ห่างหายการรีวิวเอวีรีซีฟเวอร์จาก Onkyo ไปนาน มาครั้งนี้เป็นรุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มค่าเลย นั่นคือ Onkyo TX-NR676 รุ่นน้องรองจากซีรีส์ตัวท็อปอย่าง RZ Series แต่ดีกรีไม่ได้น้อยหน้า ด้วยฟีเจอร์น่าสนใจมากมาย จนอดไม่ได้ที่จะทำการรีวิว พิสูจน์ให้รู้กันไปว่าจะให้ความคุ้มค่าอย่างที่ร่ำลือกันหรือไม่

ซึ่งฟีเจอร์มากมายที่เอ่ยถึงนั้น มีทั้งด้านภาพและเสียง เช่น รองรับการส่งผ่านสัญญาณ HDR10/Dolby Vision/HLG, รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS:X, บิลต์อิน Chromecast, รองรับบริการสตรีมมิ่งต่างๆ รวมถึง Hi-Grade DAC ที่รับรองเสียงความละเอียดสูงถึง 384 kHz/32-bit เป็นต้น

โดยชุดลำโพงที่ร่วมทดสอบครั้งนี้ก็สมน้ำสมเนื้อเป็นอย่างยิ่ง ได้แก่ชุดลำโพง Polk Signature Series และซับวูฟเฟอร์ไร้สายรุ่นล่าสุด Polk HTS-10 เชื่อว่าหลายท่านคงจะทราบกันดีว่าแบรนด์ Polk Audio นี้ มีเอกลักษณ์เสียงตรงที่เบสมีความหนักแน่นตามสไตล์อเมริกัน จึงนิยมจับคู่กับเอวีรีซีฟเวอร์จาก Onkyo ที่มีความหวานนวลชวนเคลิ้มได้อย่างลงตัว

ราคาของแต่ละรุ่น สนนอยู่ที่…
เอวีรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR676E ราคา 32,900 บาท
ลำโพงเซ็นเตอร์ Polk Signature S35 ราคา 13,900 บาท
ลำโพงตั้งพื้น Polk Signature S50 ราคา24,900 บาท
ลำโพงวางหิ้ง Polk Signature S15 ราคา 9,900 บาท
ซับวูฟเฟอร์ Polk HTS-10  ราคา 15,900 บาท

คลิปรีวิวและทดสอบเสียง

Design – การออกแบบ

ดีไซน์ของ Onkyo TX-NR676E ยังคังเอกลักษณ์แบบเดิมเอาไว้ โดยรุ่นนี้เป็นเอวีรีซีฟเวอร์ 7.2-Ch ให้กำลังขับ 165W ต่อแชนแนลที่ 6 โอห์ม น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 12.5 กก. ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม ให้ความแข็งแรงทนทาน ขนาดตัวค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว หน้ากว้างมีขนาด 53.9 ซม. ความสูง 26 ซม. และความลึก 45 ซม. แนะนำว่าควรวัดขนาดพื้นที่ติดตั้งให้ดี

ด้านหน้ายังคงโฉมเดิมเอาไว้ ใครเห็นก็รู้ทันทีว่านี่คือ Onkyo !

ด้านหน้าตัวเครื่องมีจอแสดงผลขนาดใหญ่ ให้ความชัดเจนในการอ่านสูง ปุ่มต่างๆ ด้านหน้าประกอบด้วย ปุ่มปิด/เปิดเครื่อง, ปุ่ม Pure Audio, ปุ่มโหมดการฟัง กับ ปุ่มเลือกโทนเสียง ทั้ง 2 ปุ่มนี้จะมีปุ่มหมุนมาด้วย, ช่องอินพุตทุกการเชื่อมต่อใต้จอแสดงผล, ปุ่มเลือกโซน กับ เซ็ตอัพ, ปุ่มจูนคลื่นวิทยุ, ปุ่มหมุนเพิ่ม/ลดระดับเสียง, ช่องต่อหูฟัง 6.35 มม., ช่องต่อไมค์สำหรับเซ็ตอัพเสียง, ช่องต่อ AUX และสุดท้ายช่องต่ออินพุต HDMI

ขยับมาทางด้านหลัง รุ่นนี้ให้ช่องต่อมาครบครันมาก ไม่ว่าจะเป็น CoaxialOpticalEthernetComponentAV InPhono InFM/AMUSBHDMI อินพุต 6 ช่อง และ HDMI เอ๊าท์พุตอีก 2 ช่อง (รองรับ ARC เพียงช่องเดียว) ส่วนช่องต่อสายลำโพงนั้น สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งสายเปลือยและสายหัวกล้วย รองรับการติดตั้งลำโพงเซอร์ราวด์ด้านสูง ในรูปแบบ 5.2.2 แชนแนล และสามารถแยกใช้งานโซน  2 ได้ด้วย ทั้งยังมีเสารับสัญญาณอยู่ 2 เสา รองรับสัญญาณ Wi-Fi แบนด์วิธ 2.4GHz และ 5GHz รวมถึง Bluetooth

ช่องต่อยัดมาไว้ให้ใช้งานกันแบบเหลือๆ

สำหรับรีโมทของรุ่นนี้ มีหน้าตาเรียบง่าย ตัดปุ่มตัวเลขออก ทำให้มีรีโมทมีขนาดสั้นลง กะทัดรัดไม่ใหญ่เทอะทะ ปุ่มคำสั่งมีพอดีต่อการใช้งาน เช่น ปุ่มช่องอินพุตต่างๆ, ปุ่ม Net ที่รวมช่องทางสตรีมมิ่งเอาไว้, ปุ่ม Quick Menu, ปุ่ม i เพื่อแสดงรายละเอียดคอนเท็นต์ที่เล่น, ปุ่มตั้งค่า, ปุ่มโหมดเสียง เป็นต้น

รีโมทดีไซน์ไม่ต่างจากเดิมเท่าไร แยกปุ่มชัดเจนใช้งานง่าย

ทำความรู้จักกับเอวีรีซีฟเวอร์กันไปแล้ว มาดูดีไซน์ของชุดลำโพง Polk Signature กันบ้าง รุ่นนี้วางจำหน่ายมาสักพักแล้ว หลายท่านคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี Polk Audio ไม่ได้ออกชุดลำโพงซีรีส์ใหม่มานาน ซึ่งรุ่นนี้มาในคอนเซ็ปต์ American Hi-Fi จะมีอะไรใหม่ และน่าสนใจอย่างไรบ้าง เดี๋ยวจะอธิบายต่อในส่วนถัดไป

รูปลักษณ์ภายในของซีรีส์ Signature มีความสวยงามเป็นอย่างมาก จนต้องเทคะแนนในเรื่องการออกแบบ ใช้วัสดุหลักเป็นไม้เนียนสวย ขอบตู้โค้งมน ลำโพงตั้งพื้นรุ่น S50 มีความสูง 95 ซม. น้ำหนักประมาณ 14 กก. บริเวณฐานจะยกตัวตู้ลำโพงลอยขึ้นมา ช่องคายเสียงอยู่ใต้ตู้ลำโพงฐานของรุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ที่ชื่อ Power Port ที่จะอธิบายในส่วนถัดไปนั่นเอง มีขาลำโพงที่ให้ความแข็งแรงมั่นคงสูง พื้นเป็นยาง ลดการสะเทือนดีเยี่ยม แต่ไม่สามารถใส่สไปค์รองลำโพงได้

รูปลักษณ์ผสมผสานระหว่างยุคสมัยเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว

S50 ใช้ช่องต่อ Binding Post ชุบทองแบบ Bi-Wire มีบริดจ์เชื่อมสัญญาณมาให้แล้ว รองรับการเสียบสายลำโพงหัวกล้วย สลับมาที่ด้านหน้าบ้าง ช่วงดอกลำโพงจะมีแผงหน้าสีดำมันวาว เพิ่มความสวยงามหรูหรา รอบดอกลำโพงทวีตเตอร์มีการสลักคำเอาไว้ว่า “Polk Audio American HiFi Est. 1972” อันหมายถึง Polk Audio เป็นแบรนด์ที่ให้เสียงคุณภาพสไตล์อเมริกันมาตั้งแต่ปี 1972 เหมือนเป็นการตอกย้ำความมั่นใจในคุณภาพจากชื่อซีรีส์ Signature ขึ้นไปอีก

ช่องต่อเป็น Bi-Wire ชุบทอง มีบริดจ์มาให้ไว้ใช้กับสายลำโพง Single Wire ด้วย

ดอกทวีตเตอร์ขนาด 1 นิ้ว เป็น Terylene Dome Tweeter หรือก็คือเส้นใยโพลีเอสเตอร์ชนิดหนึ่ง ซึ่งทาง Polk Audio ได้เคลมเอาไว้ว่ารองรับเสียงระดับ Hi-Res สามารถตอบสนองย่านเสียงได้สูงถึง 40kHz เลยทีเดียว ส่วนดอกลำโพงมิดเรนจ์ของรุ่นนี้มีจำนวน 2 ดอก ขนาด 5.25 นิ้ว เป็น Dynamic Balance ใช้วัสดุที่มีส่วนผสมระหว่าง Mica และ Polypropylene ด้านหลังดอกลำโพงจะมี Voice Coil ที่ซ้อนกันถึง 4 ชั้น ช่วยในเรื่องรายละเอียดเสียงที่มีความกระแทกกระทั้น แต่ยังได้ความชัดเคลียร์

หน้าตาหล่อเหลาเอาการ ดอกลำโพงสีเงิน ตัดสลับกับแผงหน้าสีดำมันวาว
คลิปการออกแบบของ Polk Signature Series มีแรงบันดาลใจจากกีตาร์โปร่ง

ต่อมาที่ลำโพงวางหิ้งรุ่น S10 ตัวตู้มีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ ความสูง 12 นิ้ว ความลึก 7.5 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 5.9 กก. มีดีไซน์แบบเดียวกับ S50 ส่วน Power Port ของ S10 จะอยู่ทางด้านหลัง ด้านช่องต่อเป็น Binding Post ชุบทองแบบ Single-Wire ดอกลำโพงประกอบด้วยทวีตเตอร์และมิดเรนจ์อย่างละ 1 ดอก เป็นไซส์และชนิดเดียวกับรุ่น S50 เลย

ลำโพงวางหิ้งก็ถอดแบบมาจากลำโพงตั้งพื้นแทบจะทั้งหมด

ลำโพงรุ่น S35 เป็นอีกหนึ่งลำโพงเซ็นเตอร์ที่มีความอลังการมาก ตรงที่ใช้ดอกลำโพงมากถึง 7 ดอกแบ่งเป็นทวีตเตอร์ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 ดอก และลำโพงมิดเรนจ์ขนาด 3 นิ้ว จำนวน 6 ดอก ที่ให้มาเยอะขนาดนี้ เพราะต้องการลดช่องว่างเสียงระหว่างลำโพงเซ็นเตอร์กับลำโพงคู่หน้า เติมเต็มพื้นที่การฟังได้มากขึ้น ด้านหลังลำโพงก็มี Power Port เช่นกัน และช่องสำหรับเสียบแขวน ซึ่งใครที่สะดวกติดตั้งบนชั้นวางทีวี ด้วยความสูงแค่ 4 นิ้ว จึงประหยัดพื้นที่ติดตั้งได้เป็นอย่างมาก

ดอกลำโพงทั้ง 6 ดอกย่อส่วนจากดอกลำโพงของรุ่นตั้งพื้น เหมาะทั้งติดตั้งบนชั้นวางและแบบแขวน

สุดท้ายที่ซับวูฟเฟอร์รุ่น HTS-10 รุ่นนี้ก็เป็นหนึ่งใน Signature Series มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ความสูง 16.5 นิ้ว หน้ากว้าง 15.12 นิ้ว น้ำหนักอยู่ที่ 17 กก. เศษๆ มีดีไซน์เฉกเช่นกับตระกูล Signature รุ่นอื่นๆ ดอกลำโพง Dynamic Balance Polypropylene ขนาด 10 นิ้ว ภายในบรรจุแอมป์คลาส D ให้กำลังสูงสุด 200W ตอบสนองย่านเสียงตั้งแต่ 25Hz-180Hz ด้านล่างตัวเครื่องจะมี Power Port ยกตัวตู้ลอยขึ้นมา ช่องต่อทางด้านหลังมีให้ทั้ง LFE และ RCA (ซ้าย-ขวา) รวมถึงมีปุ่มสำหรับปรับเสียง, จุดตัดเสียง และปรับเฟส มาให้อย่างครบครัน สามารถอัพเกรดสายไฟได้ด้วย

โฉมหน้าของซับวูฟเฟอร์พลังสูง รุ่นนี้ก็อิงดีไซน์สุดเท่จากซีรีส์ Signature
ปุ่มสำหรับปรับแต่งเสียงและช่องเชื่อมต่อมีไว้ให้ครบถ้วนในรุ่นนี้