Features – ลูกเล่น
ลูกเล่นของ Onkyo TX-NR676E นั้นให้มาคุ้มค่ากับค่าตัวเลย ปัจจุบันนี้เอวีรีซีฟเวอร์ไม่ได้เน้นแค่เรื่องภาพและเสียง ยังต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ มาหนุนความสนใจให้รู้สึกคุ้มค่าต่อผู้ใช้งาน ซึ่งในรุ่น TX-NR676E รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS:X ใช้งานได้ในรูปแบบ 5.1.2-แชนแนล และแถมช่องต่อลำโพงสำหรับโซน 2 มาให้อีกหนึ่งชุด ด้านภาพก็มีลูกเล่นครบครัน รองรับการส่งผ่านสัญญาณภาพ 4K/60Hz, HDR10, Dolby Vision, BT.2020 และ HDCP2.2
จุดเด่นหลักของรุ่นนี้ยังอยู่ที่ความสามารถในการรองรับสตรีมมิ่ง ผ่าน Wi-Fi แบนด์วิธ 2.4GHz และ 5GHzโดยการสตรีมมิ่งที่รองรับมีทั้งการสตรีมเล่นเพลงจาก Media Server ภายในเครือข่ายที่ใช้งาน หรือจะฟังเพลงบนบริการสตรีมมิ่งต่างๆ เช่น Spotify, Deezer, Tidal เป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นอย่าง FlareConnect, DTS Play-Fi, AirPlay, Onkyo App Controller เป็นต้น ซึ่งแอพฯ เหล่านี้ช่วยให้ใช้งานแบบมัลติรูม รวมถึงปรับแต่งการใช้งานต่างๆ ได้ตามความต้องการ เพิ่มความสะดวกมากขึ้นไปอีกด้วย Chromecast แคสต์เสียงที่อยากฟังมายังรีซีฟเวอร์ได้ทันที
ดูจากการรองรับช่องทางการฟังที่หลากหลาย จะเห็นได้ชัดว่า TX-NR676E ใส่ใจผู้นิยมฟังเพลงเป็นอย่างยิ่ง ซึงทาง Onkyo ได้เอาชิพประมวลผลสำหรับแปลงสัญญาณเสียงดิจิตอลเป็นอะนาล็อกหรือ DAC ของ AKMรุ่น AK4458 มาไว้ในเครื่องนี้ รองรับสัญญาณเสียงความละเอียดสูง 384kHz/32Bit แน่นอนว่าปัจจุบันยังไม่มีคอนเท็นต์ที่สูงขนาดนี้ แต่ก็เผื่อการรองรับไว้ใช้ในอนาคต
สำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ที่กังวลในเรื่องการเซ็ตอัพเสียง Onkyo ได้ใส่ฟีเจอร์ที่ชื่อ AccuEQ Room Acoustic Calibration ช่วยคาลิเบรทปรับจูนเสียงลำโพงแบบอัตโนมัติ เพียงแค่เสียบไมโครโฟนที่ให้มาในชุด ตัวเครื่องจะเข้าสู่โหมดคาลิเบรททันที ใช้เวลาปรับจูนไม่นาน ซึ่งเสียงที่ได้นั้นอยู่ในระดับน่าพึงพอใจ จนแทบจะไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มอีก
ไม่ใช่แค่ TX-NR676E ที่มีลูกเล่นน่าสนใจ ชุดลำโพง Polk Signature ก็มีฟีเจอร์เด็ดๆ ไม่แพ้กัน ที่ติดค้างเอาไว้ Power Port คืออะไร? Power Port เป็นพอร์ตอะลูมิเนียมยึดบริเวณตำแหน่งช่องคายเสียงของลำโพงซีรีส์ Signature ทุกรุ่น ด้านในจะมีกรวยยื่นเข้าไปในช่องคายเสียง โดยกรวยนี้ช่วยให้สลายและปรับทิศทางของมวลอากาศที่ถูกขับออกมาจากตู้ เพิ่มสมดุลย์เสียงเบสให้มีความอิ่มลึกมากขึ้น
Polk HTS-10 ซับวูฟเฟอร์ยักษ์ใหญ่ของรีวิวนี้เองก็มี Power Port อยู่ด้านล่างตัวตู้ เพื่อสร้างสมดุลย์ของมวลเบสที่ขับมาจากดอกลำโพงยิงเสียงด้านหน้าขนาดถึง 10 นิ้ว ซึ่งดอกลำโพงใหญ่ขนาดนี้มักจะพบปัญหาด้านมวลเบสส่วนเกินที่จะทำให้เกิดอาการบวมล้น และซับวูฟเฟอร์รุ่นนี้ยังเอาใจผู้ใช้งานด้วยการใส่ปุ่มปรับแต่งต่างๆ มาให้ด้านหลังเครื่อง เพื่อความสะดวกในการปรับเสียง
Setup – การติดตั้ง
การทดสอบครั้งนี้ได้ทำการติดตั้งเป็นระบบ 5.1.2 แชนแนล ประกอบด้วย Onkyo TX-NR676E, Polk Signature, HTS-10 และเพิ่มเติมด้วยลำโพงฝังฝ้า KEF เพื่อทดสอบศักยภาพของเอวีรีซีฟเวอร์ได้อย่างเต็มระบบ นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์เสริมการทดสอบอย่าง OPPO UDP-205, สาย LCD HDMI Jericho และสายลำโพง Velocita Rome V ที่เป็นสายแบบ Bi-Wire ทั้งลำโพงและรีซีฟเวอร์รองรับสายลำโพงหัวกล้วย ง่ายต่อการเสียบสาย
อย่างที่บอกไปแล้วว่า TX-NR676E มีฟีเจอร์คาลิเบรทเสียงอัตโนมัติ AccuEQ Room Acoustic ก่อนฟังเสียงก็ได้ใช้ฟีเจอร์นี้ในการปรับจูนเสียง ตำแหน่งเสียงที่ได้ค่อนข้างตรง เหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง โดยในรุ่นนี้ยังสามารถปรับ EQ แต่งย่านเสียงต่างๆ ได้ตั้งแต่ย่าน 25Hz-16kHz และมีโหมดปรับแต่งเสียงสำหรับลำโพงประเภท Atmos Enabled มาให้ ช่วยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเสียงพอสมควรปรับแต่งได้ถูกใจมากขึ้น
Sound – เสียง
มาถึงเวลาทดสอบกันแล้ว เริ่มการทดสอบด้วยภาพยนตร์เรื่อง Lone Survivor เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทหารกลุ่มหนึ่งที่ติดอยู่ท่ามกลางหุบเขา หนีฝ่าการถูกล้อมรอบด้วยผู้ก่อการร้ายนับสิบ โดยระบบเสียงของเรื่องนี้เป็นระบบ DTS:X ให้ความเจนจัดเรื่องเสียงสมจริง และเซอร์ราวด์ที่ระบุตำแหน่งชัดเจน จนถูกยกให้เป็นภาพยนตร์สำหรับอ้างอิงเครื่องเสียงอีกหนึ่งเรื่อง
ชื่อเสียงที่คร่ำหวอดมานานว่าหากชุดลำโพง Polk Audio ได้มาจับคู่กับเอวีรีซีฟเวอร์ Onkyo เสียงที่ได้จะต้องนุ่มนวล หวานฉ่ำ จนดูหนังแอ็คชั่นไม่สนุก เป็นนิยามที่คุ้นเคยกันอย่างดี ได้หยุดลงที่รุ่นนี้เป็นแน่ ขอยกตัวอย่างฉากการปะทะในหุบเขา TX-NR676E สามารถโยนเสียงได้อย่างว่องไวทันท่วงที โทนเสียงมีความสว่างกว่ารุ่นก่อนๆ
ประจวบกับชุดลำโพง Polk Signature ที่สร้างความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ของแบรนด์อย่างเห็นได้ชัดตรงที่ย่านเสียงเบส มวลของเบสบางลงเล็กน้อย แต่ได้ความกระชับมากขึ้น ตอบสนองแรงขับจากรีซีฟเวอร์ได้ดี ช่วยให้ไดนามิกเสียงมีจังหวะจะโคน สัมผัสแรกปะทะจากวูฟเฟอร์บนลำโพงคู่หน้าได้ สังเกตได้จากเสียงปืนที่กระชับว่องไว น้ำหนักเสียงขับออกมาในลักษณะ “วูบเดียว” ตามการระเบิดกระสุนจากปลายปืน เป็นการเปลี่ยนแปลงจนใครที่เคยได้ฟังชุดลำโพงของ Polk Audio หลายซีรีส์ก่อนหน้า ต้องรู้สึกแปลกใจ ขอยกความดีความชอบให้ฟีเจอร์ Power Port ของซีรีส์นี้เลย
ไม่ใช่คู่หน้าที่ให้เบสได้กระชับ ซับวูฟเฟอร์ HTS-10 ก็ขับเสียงกระชับเช่นกัน สามารถปรับแต่งได้ค่อนข้างละเอียดจากปุ่มต่างๆ ที่ด้านหลังเครื่อง ซับวูฟเฟอร์รุ่นนี้ใช้แอมป์คลาส D เสียงที่ได้มีความดุดันทรงพลังสูง มีขนาดตัวและดอกลำโพงที่ใหญ่ ต้องบอกเลยว่าใช้เวลากับการหาตำแหน่งติดตั้ง รวมทั้งการปรับจูนเสียงนานพอสมควร เปรียบดั่งฮีโร่ Hulk มีพละพลังกำลังมหาศาล พร้อมระเบิดพลังตลอดเวลา
แต่เมื่อปรับได้เหมาะสมกับจุดนั่งฟังแล้ว ความบันเทิงก็บังเกิดทันที คาแรกเตอร์เสียงที่ได้ฟังจากการรับชมภาพยนตร์ HTS-10 มีความอิ่มหนา นุ่มลึก แต่ให้ความสนุกรุกเร้า ด้วยความไวและความกระชับได้แรงปะทะแบบเนื้อๆ อันเป็นผลจาก Power Port ไม่ทิ้งมวลเสียงหรือระเบิดความบวมของเบสออกมาให้ขุ่นเคืองใจ ทำให้ซับวูฟเฟอร์รุ่นนี้ไม่ใช่แค่เหมาะกับชุดลำโพงในซีรีส์ Signature สามารถจับคู่เข้ากันกับรุ่นอื่นๆ ได้ไม่ยาก
รับชมจนถึงฉากที่กลุ่มตัวเอกรอเฮลิคอปเตอร์มารับ ถึงกับต้องสะดุดหูที่เสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ ลอยเด่นอย่างมีมิติอยู่เหนือศรีษะ ให้ความรู้สึกเติมเต็มการรับชมอย่างออกรสออกชาติ ซึ่ง Onkyo รุ่นนี้ให้ทิศทางเสียงระหว่างลำโพงแต่ละตัวมีความกลมกลืนกัน เช่นเสียงเฮลิคปอเตอร์ที่บินมาจากด้านบนพุ่งไปด้าน เสียงไล่ระดับตำแหน่งลงมาแล้วค่อยๆ จางไป โดยมีเซอร์ราวด์ช่วยพยุงบรรยากาศ เป็นอีกหนึ่งรสชาติที่เคยหาได้เฉพาะบนรีซีฟเวอร์รุ่นสูงๆ แต่ตอนนี้แค่รุ่นกลางก็สามารถให้อรรถรสไม่แพ้รุ่นสูงๆ ได้แล้ว
ต้องใช้สำนวนที่ว่า “เคมีตรงกัน” กับการทดสอบเครื่องเสียงชุดนี้จริงๆ อย่างที่บอกเอาไว้ TX-NR676E หลังจากทดสอบมาระยะหนึ่ง สังเกตได้ว่ามุ่งเน้นไปในย่านเสียงแหลมมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง Polk Signature เองก็มุ่งเน้นย่านเสียงแหลมมากขึ้นเช่นกัน ออกแบบให้ทวีตเตอร์สามารถตอบสนองย่านเสียงได้สูงถึง 40kHz
และเมื่อทดสอบด้วยคอนเท็นต์ที่ชื่อ Shattered บนแผ่น Dolby Atmos Demo Blu-ray เสียงเศษกระจกที่แตกมีความระยิบระยับ ประกายเสียงแหลมเสียงพุ่งในเกณฑ์ดี ขุดรายละเอียดเสียงออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ทั้งจากลำโพงคู่หน้าและลำโพงเซอร์ราวด์ เสียงแหลมจัดแจ้งคมชัดจนเป็นเอกลักษณ์แปลกใหม่ของรุ่นนี้ อย่างที่ Polk Audio รุ่นอื่นๆ ไม่มี
ส่วนลำโพงเซ็นเตอร์ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี เสียงกลางชัดสะอาด เสียงพูดมีติดทุ้มเล็กน้อย เนื่องจากการออกแบบที่ใช้ดอกมิดเรนจ์ถึง 6 ดอก ยังช่วยให้เสียงพูดมีความกลมกลืนกับบรรยากาศเสียงอื่นๆ ไม่ได้พุ่งมาตรงหน้าจนรู้สึกโดดออกจากบรรยากาศเสียงรายล้อม ให้องศาเสียงค่อนข้างกว้างกว่าลำโพงเซ็นเตอร์ทั่วไป