ว่ากันที่สเป็คโดยรวมของ Panasonic 50XT50 ตัวนี้กันก่อน เป็น Plasma TV ความละเอียดหน้าจอให้มาที่ 1024 x 768 สามารถแสดงผล 3D ได้ โดยใช้ 3D แบบ Active ( Frame Sequential ) ระบบจำลองเสียงรอบทิศทางแบบ V- Audio ProSurround และสุดท้ายยังมีฟังก์ชั่นอินเตอร์เน็ต Viera Connect มาให้เล่นอีกด้วย ราคาค่าตัวอยู่ที่ 2 หมื่นกว่าบาท ได้จอใหญ่ 50 นิ้วและฟังก์ชั่นขนาดนี้ คุ้มสุดๆไปเลย
ภาพ
ส่วนนี้เราจะมาทดสอบคุณภาพของภาพกัน ว่ามันดีสมคำร่ำลือหรือไม่ ผมอยากให้เริ่มดูจากโหมดภาพสำเร็จรูป คือโหมดภาพที่มาจากโรงงานโดยไม่ผ่านการปรุงแต่ง(ปรับภาพ) สีสันเป็นเช่นใด มีการ Over saturate หรือไม่ ในฉากดำมืดรายละเอียดจะต้องแสดงออกมาได้อย่างครบถ้วน ตามมาดูกันด้านล่างนี้เลยครับ
โหมดภาพสำเร็จรูปนั้นมีโหมด Dynamic , Normal , Cinema , True Cinema และ Game โดยทางทีมงานแนะนำให้ใช้โหมด True Cinema (หรือ Cinema และปรับ Colour Balance – Warm) ซึ่งให้ระดับ White Balance ค่อนข้างใกล้เคียง D65 แม้จะติดโทนอุ่นอยู่บ้าง แต่ก็ส่งผลให้ภาพที่แสดงออกมานั้นมีความสมจริงใกล้เคียงเหมือนดังต้นฉบับมากกว่าโหมดอื่นๆ และในโหมด Dynamic นั้นผมได้ทำการวัดค่าความสว่างออกมาได้ที่ 61 fl ซึ่งถือว่ามีความสว่างมากทีเดียวสำหรับพลาสม่าทีวีนี้ ส่วนโหมดอื่นๆ เพียงแค่ปรับระดับ Contrast ขึ้น ก็จะให้ความสว่างใกล้เคียงกับ Dynamic เลยทีเดียว
หลายคนหลงรักที่ความเร็วในการแสดงภาพเคลื่อนไหว Response Time รวมไปถึงการคุมแสงในห้องมืด แม้สำหรับเจ้า XT50T รุ่นนี้ จะด้อยกว่ารุ่นใหญ่ที่เป็น “Neo Plasma” แต่ถ้าเทียบกับ Plasma TV ในระดับเดียวกันของยี่ห้ออื่น ผมคิดว่าความดำขณะรับชมในห้องคุมแสงไม่เป็นรองใคร ซึ่งพัฒนามาจากรุ่น X30T ปีที่แล้วอย่างชัดเจนในเรื่องของโทนสีในที่มืด เมื่อรับชมในห้องสว่าง
Picture Mode | อุณหภูมิสี |
Dynamic | 10014 |
Normal | 7490 |
Cinema | 7451 |
True Cinema | 6029 |
Game | 7408 |
*ค่ามาตรฐานของอุณหภูมิสี D65 =6500K
ในด้านการปรับอัตราส่วนภาพสามารถกดคำว่า Aspect บนตัวรีโมทได้เลย ผมใช้แพทเทิร์นนี้เพื่อทดสอบการแสดงผลว่าสามารถแสดงได้ครบถ้วนเต็มจอหรือไม่ สังเกตได้จากแบบ 16:9 แถบเส้นการไล่ระดับบริเวณถัดจากเลข 5 ที่อยู่บนกับล่างของจอ จะแสดงขึ้นมาครบถ้วน ดังนั้นแนะนำให้เลือกใช้แบบ 16:9 แต่ต้องทำการปิด Over Scan ด้วยครับ
ทดสอบ 2D Hi-Definition
ปัญหาในด้านภาพที่พบเจอบ่อยๆ ก็คืออาการภาพติดอมแดง สังเกตได้จากใบหน้าคน ซึ่งมักจะเจอในรุ่นระดับล่างและระดับกลาง ซึ่งผู้ผลิตมักจะกำหนดตั้งค่า Color หรือ Saturation มาสูงเกินไป แต่ Panasonic นั้นส่วนมากจะไม่ค่อยพบเจอปัญหานี้ ซึ่งก็รวมถึงรุ่น 50XT50T นี้ด้วย ภาพที่แสดงออกมาโดยรวมแม้จะนวลๆ และติดโทนอุ่นสักหน่อย แต่ให้บาลานซ์ที่เป็นธรรมชาติ แน่นอนว่าเมื่อเป็นพลาสมาก็จะเหมาะกับการรับชมในห้องมืดๆ หน่อย เช่นห้องนอน ถือเป็นคาร์แร็คเตอร์ของภาพที่ผมชอบมาก ศักยภาพการให้ระดับความสว่างทำได้ดี ถ้าดูตอนกลางวันในห้องที่คุมแสงลำบากแนะนำปรับเพิ่มระดับ Contrast ขึ้น กระนั้นการคุมแสงแวดล้อมจะช่วยให้ถ่ายทอดระดับความดำได้ลึกกว่า และช่วยลดการสะท้อนไปได้มาก ส่วนการแสดงภาพเคลื่อนไหวเวลาดูหนัง Blu-ray 1080p 24Hz เราอาจจะเห็นการสะดุดและสั่นไหวของภาพในฉากแพนกล้อง ซึ่งเป็นเหมือนกันหมดตั้งแต่ Plasma ยัน LED โดยเฉพาะรุ่นล่างๆ แต่ทาง Panasonic ก็ได้ให้ฟังก์ชั่น Intelligent Frame Creation หรือ 24p Smooth Film มาด้วย ซึ่งพลาสมาทีวียี่ห้ออื่นไม่มีฟังก์ชั่นแบบนี้
แม้ศักยภาพอาจยังเป็นรองรุ่นสูงๆ แต่ก็ช่วยทำให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นขึ้น มีระดับให้เลือกคือ Off , Mid และ MAX โดยส่วนตัวแล้วผมชอบระดับ Mid นะครับ เพราะยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อยู่ แต่ถ้าอยากจะดูแบบลื่นหัวแตก ปรื้ดๆๆๆ ก็ต้อง Max ไปเลย แต่เวลาเจอการเคลื่อนไหวเร็วๆก็ต้องแลกมาด้วยโกสต์เรืองๆ ตามขอบวัตถุ (เกิดจากตัวทีวีไม่สามารถแทรกเฟรมภาพได้ทัน) ซึ่งจะเลือกใช้โหมดไหนแล้วแต่ความชอบของผู้ใช้งานเลยครับ