15 Nov 2019
Review

รีวิว Panasonic 65GZ2000 4K HDR OLED TV ตัวท็อปมาตรฐานภาพระดับ Hollywood พร้อมลำโพง Atmos ในตัว


  • ชานม

ภาพ

หัวใจด้านภาพของ GZ2000 คือ HCX (Hollywood Cinema eXperience) Pro Intelligent Processor โดยทำการวิเคราะห์ข้อมูลสัญญาณภาพ 3 ประการ ได้แก่ สีสัน (Colour), ความเปรียบต่างของแสง (Contrast) และ รายละเอียด (Clarity) นำไปประมวลผลถ่ายทอดเป็นภาพให้เราได้รับชมอย่างถูกต้อง ครบถ้วน พร้อมตอบสนองอย่างทันท่วงที

ซึ่งแน่นอนว่าก่อนจะมาเป็นภาพบนจอ Panasonic OLED TV ให้ได้ชมกันนี้ ผ่านการไฟน์จูนจากมืออาชีพที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จนมีศักยภาพเป็นจอภาพที่ใช้ “อ้างอิง” เพื่อการตัดต่อภาพยนตร์ได้
GZ2000 ให้โหมดภาพมาจำนวนทั้งสิ้น 9 โหมด ในจำนวนนี้มีโหมดภาพอ้างอิงจากทาง THX 2 โหมด ยืนยันว่ารุ่นนี้ยังคงได้การรับรองมาตรฐาน THX Certified Display
ในแง่ความเที่ยงตรงของสีสันโหมดการรับชมแบบ SDR นั้น THX Bright Room/Professional1 (เน้นดูในห้องสว่าง) และ THX Cinema/Professional2 (เน้นดูในห้องคุมแสงสลัว) ให้ผลลัพธ์ที่ดีใกล้เคียงกัน จะต่างกันที่ระดับความสว่าง เลือกให้เหมาะกับสภาพแสงภายในห้องได้
โหมดภาพทั้ง 4 ข้างต้น อุณหภูมิสีเฉลี่ยจะติดโทนอุ่นนิดๆ ที่ราว 6300K แต่สมดุลแสงขาวดีตามคาด ค่าความผิดเพี้ยน (dE) เฉลี่ยอยู่ที่ 2.2 เท่านั้น ถือว่าดีมาก ในส่วนของ Color Space แม็ตชิ่งได้ดีตามมาตรฐาน Rec.709 การรับชมในบ้านทั่วไป แม้ไม่ทำการปรับภาพใดๆ ก็ให้ความลงตัวดีเพียงพอแล้ว
แต่เแน่นอนว่าด้วยความที่เป็นจอภาพระดับสูงต้องให้ความสำคัญกับ “ความเที่ยงตรง” เป็นพิเศษตลอดการใช้งาน GZ2000 จึงรองรับการปรับภาพขั้นสูง ซึ่งรวมไปถึง CalMAN AutoCal ที่นำระบบ AI เข้ามาช่วยเรื่องของการประเมินและประมวลผลปรับชดเชยด้านภาพ ผลลัพธ์ความเที่ยงตรงดีเยี่ยม อุณหภูมิสีเฉลี่ย 6479K ค่าความผิดเพี้ยน (dE) เฉลี่ยลดต่ำลงอยู่ที่ 0.5-0.6 เท่านั้น!
การรับชม GZ2000 ร่วมกับคอนเทนต์แบบ HDR ยิ่งดึงศักยภาพของทีวีเครื่องนี้ออกมาได้โดดเด่นยิ่งกว่า ซึ่งระดับความสว่าง HDR Peak Brightness (10% Window) ถือว่าทำได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์สำหรับ OLED TV ยังไม่มีใครเทียบเคียงได้ที่ 1020 nits ในโหมด Dynamic! หากอ้างอิงโหมดภาพที่ให้สีสันเที่ยงตรงจะย่อหย่อนลงมาเพียงเล็กน้อยที่ 903 nits (THX Cinema) ต่ำสุดไม่เกิน 812 nits (Professional1) ในส่วนของขอบเขตสี (HDR Color Space) ครอบคลุม 96.8% DCI-P3 หรือเท่ากับ 70.4% Rec.2020
ผล Lab Test ยืนยันความเที่ยงตรงของดุลสีโหมดภาพโรงงานร่วมกับการรับชมแบบ HDR ของ GZ2000 ว่าทำได้ยอดเยี่ยม
ทดลองไฟน์จูนโหมดภาพ HDR ของ GZ2000 ด้วย CalMAN AutoCal ผลลัพธ์ไม่ต่างจากเดิมนัก เนื่องจากค่าภาพจากโรงงานให้ความเที่ยงตรงดีมากอยู่แล้ว ความสว่าง HDR Peak Brightness หลังปรับภาพอยู่ที่ราว 900 nits ยังถือว่าสูงมากสำหรับมาตรฐาน OLED TV ศักยภาพของ GZ2000 นับว่าดีเกินกว่าที่มาตรฐาน “Ultra HD Premium” กำหนดไว้อยู่มาก
ด้วยพื้นฐานการเป็น OLED TV ที่ให้ระดับความสว่างสูง การถ่ายทอดรายละเอียดแสงสีจาก HDR content จึงทำได้โดดเด่นต้องตาสมกับตำแหน่งทีวีรุ่นท็อปประจำปี 2019 ซึ่งอานิสงส์นี้จะยิ่งสังเกตได้ชัดเมื่อรับชมฟอร์แม็ต Dynamic HDR อย่าง Dolby Vision
GZ2000 รวมถึงทีวีของ Panasonic ประจำปี 2019 อีกหลายรุ่น นอกจากฟอร์แม็ต Dolby Vision ยังรองรับ HDR10+ ด้วย ซึ่งไม่แปลกใจเพราะ Panasonic ร่วมหัวจมท้ายกับทาง Samsung เพื่อผลักดันมาตรฐาน HDR10+ กันมาตั้งนาน อย่างไรก็ดีช่วงที่ทำการทดสอบทีมงานไม่มีเพลเยอร์ที่รองรับ HDR10+ จึงยังไม่ได้ทดลองภาพดูว่าเป็นเช่นไร

หมายเหตุ: ปัจจุบันเพลเยอร์ที่รองรับ HDR10+ ได้แก่ 4K/UHD Blu-ray Player ของ Panasonic รุ่นปี 2018 – 2019, Philips รุ่นปี 2019 และ Cambridge Audio CXUHD ส่วน Pioneer UDP-LX800 ที่ทีมงานใช้อ้างอิง ข่าวว่ารองรับ แต่ยังไม่มี Firmware ออกมาให้อัพเดท

การรับชม HDR ร่วมกับ GZ2000 มีฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจอยากจะแนะนำ… ที่ผ่านมาความเปรียบต่างแสงที่สูงมากจากความสว่างอันเจิดจ้าอัดกันเต็มที่ของ HDR บ่อยครั้งสร้างปัญหาให้กับบางท่านเมื่อเปิดรับชมตอนกลางคืนหรือดูในห้องมืด ทาง Panasonic เข้าใจตรงนี้ดีจึงเพิ่มตัวเลือก HDR Auto Brightness มาให้ โดยหลังจาก On ตัวเลือกนี้ ระบบจะทำการปรับความสว่างของทีวีให้เหมาะสมกับแสงสว่างภายในห้องโดยอัตโนมัติ ในบางสภาพแวดล้อม ภาพจะดูเพลาๆ ลง ไม่จ้ามากจนแสบตา
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้สำหรับการรับชมภาพยนตร์ของหลายๆ ท่าน คือ Intelligent Frame Creation (IFC) หรือการประมวลผลแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหวของ Panasonic เพื่อช่วยให้คอนเทนต์มาตรฐานเฟรมเรตต่ำมีภาพเคลื่อนไหวไหลลื่นขึ้น สามารถเลือกปริมาณการแทรกเฟรมเพิ่มได้ 3 ระดับ ปกติ Min บาลานซ์ความเป็นธรรมชาติได้ดี ไม่แทรกเยอะเกินจนขัดตา หรือถ้าจะกำหนดเองแบบ Custom ก็ทำได้

และมี Black Frame Insertion เป็นทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อลด Motion Blur ให้ภาพเคลื่อนไหวดูคมชัดขึ้นได้แต่จะให้ผลดีในบางสถานการณ์