22 Jun 2014
Review

รุ่นกลางแต่ครบเครื่อง !!! รีวิว Panasonic TH-L42ET60T LED TV แจ่มๆ ณ.บัดนาว


  • lcdtvthailand

ภาพ

TH-L42ET60T เป็น LED TV (Edge) ระดับกลาง มีความละเอียดหน้าจอแบบ Full HD 1920 x 1080 ใช้หน้าจอ IPS Clear Panel Pro จะเป็นจอมันเงากึ่งด้าน แต่ไม่มีฟังก์ชั่น Local Dimming หรือการเปิด-ปิด-หรี่ไฟเป็นกลุ่มๆแบบ WT60 หรือ DT60 แต่จะมี Adaptive Backlight Control ซึ่งเป็นการดิมไฟแบบทั้งจอแทน มี 600Hz Backlight Scanning แบบ 6 Blocks ส่วนเทคโนโลยี 3 มิติก็แบบ Polarized (Passive) แถมแว่น 3D มา 2 อัน เชื่อว่าคงถูกใจแฟนๆ Panasonic ที่ชื่นชอบทีวี 3 มิติประเภทนี้อยู่ไม่น้อย 

Aspect Selection : สัดส่วนภาพ
สัดส่วนภาพมีให้เลือกหลายแบบทั้ง 16:9 / 14:9 เป็นต้น ส่วนโหมด Just จะเป็นโหมดเอาไว้แก้ปัญหาสัดส่วนของภาพเวลาดูฟรีทีวีที่มีอัตราส่วน 4:3 แต่พอมาฉายในจอ 16:9 เลยดูยืดขยาย หน้าพระเอกนางเอกตรงกลางจอจะดูยืดแปลกๆ และคนส่วนใหญ่ที่ติดภาพจากจอ CRT TV ก็จะรับภาพยืดยานแบบนี้ไม่ได้ โดยโหมด Just นี้จะทำการคงสัดส่วนใบหน้าบริเวณกลางจอให้อยู่ในสัดส่วนที่ถูกต้องที่สุด (ยืดน้อยสุด) แต่ไปทำการยืดบริเวณริมซ้ายและขวาของจอแทน โดยวิธีการทดสอบง่ายๆเพียงแค่เรากดปุ่ม Aspect บนรีโมทคอนโทรลแล้วเลือกดูช่องฟรีทีวีซักช่อง รายการข่าวก็ได้ แล้วเลือกระหว่าง 16:9 VS Just จะเปรียบเทียบภาพได้ไม่ยาก ก็แนะนำหากท่านเอาไปรับชมฟรีทีวี ส่วนวิธีการดูหนังไฮเดฟโดยทำให้ทีวีแสดงสัดส่วนภาพที่ถูกต้องที่สุดคือการเลือก Aspect เป็น 16:9 และต้องปิด 16:9 Overscan ให้เป็น Off  หรืออีกวิธีคือเลือก 1080p Pixel Direct ให้เป็น On เท่านี้สัดส่วนภาพต้นฉบับก็จะถูกแสดงได้อย่างถูกต้องแล้ว

Aspect Selection สัดส่วนภาพ

Picture Mode : โหมดภาพสำเร็จรูป
โหมดภาพสำเร็จรูปของ Panasonic LED TV และ Plasma TV ก็ให้มาไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก มีโหมด Dynamic / Normal ที่จะเน้นความสว่างและสีสันดูอิ่มสดชื่น ส่วนโหมด Cinema / True Cinema / Custom จะเน้นเน้นโทนสีแบบอบอุ่นเฉกเช่นโรงภาพยนตร์ โดยโหมดที่ผมเลือกใช้ปรับภาพและทำการทดสอบก็ได้แก่โหมด True Cinema เพราะให้อุณหภูมิสีประมาณ 7200K ใกล้เคียงกับค่าอ้างอิง 6500K มากที่สุด ต้องยอมรับว่าก่อนปรับภาพพวกคอนทราสต์และการแสดงรายละเอียดในที่มืดอาจจะยังไม่ได้แหล่มถูกใจนัก แต่พอปรับ Dynamic Range (Contrast & Brightness) เสร็จแล้วให้ภาพที่ดีขึ้น ตลอดจน White Balance และ Color Management System ที่ถูกต้องขึ้น จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีน่าพอใจ ส่วนอัตราการกินไฟนั้น บ่องตงว่า LED 42″ สมัยนี้ก็กินไฟแบบ “เบาเบา” เท่านั้น เดี๋ยวนี้ประเภทกินไฟเกิน 100 Watts หายากกว่านักการเมืองดีๆซักคนในสภาเสียอีก !

โหมดภาพสำเร็จรูป ทีมงานใช้โหมด True Cinema ในการปรับภาพและทดสอบ
Picture ModeCTTGammaLuminanceConsumption
avgavgFLWBacklight
Dynamic135102.18110.373100
Normal102222.367.45270
Cinema85082.3249.84350
True Cinema72022.0154.64950
Custom106582.1467.65270
True Cinema (Calibrated)66982.250.54748
ค่าอุณหภูมิสี / Gamma / ความสว่าง ในโหมดภาพสำเร็จรูปต่างๆ
Pre-Calibration โหมด True Cinema , White Balance ล้นไปทางน้ำเงินเล็กน้อย
Post-Calibration หลังจากปรับภาพ White Balance ดีขึ้นเยอะ จะมีล้นน้ำเงินบ้างในช่วงความสว่างสูงๆ IRE 100 (กดไม่ลง) ส่วน CMS ก็อยู่ในขอบเขตที่ถูกต้องขึ้น

หมายเหตุ : ถึงแม้ TH-L42ET60T จะไม่มีโหมด Professional (ISF) แบบรุ่นท็อป แต่ก็ยังมีเมนูให้ปรับ White Balance อย่างละเอียดได้ ส่วน Color Management System ปรับได้แค่ RGB แต่จะปรับ CMY ไม่ได้

ทดสอบภาพ 2 มิติ
หนัง Blu-ray หลายเรื่องก็ได้นำมาทดสอบทั้งเรื่องเดิมๆที่ต้องดูซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบ ตลอดจนเรื่องใหม่ๆเพื่อการทดสอบรับชมจริงในโหมดภาพและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เรื่องแรกคือ Step Up 3D (แต่ผมดูแบบ 2D) โหมด True Cinema ให้แนวภาพได้โทนอบอุ่นเล็กน้อย โดยรวมภาพ 2D อยู่ในเกณฑ์ดีปานกลางสอดคล้องกับเกรด Panel รุ่นนี้ที่เป็นระดับกลางค่อนไปบนเช่นกัน แสงสีดีกว่าจอ LED TV เกรดต่ำๆอย่างเห็นได้ชัด แต่ในเรื่องของภาพเคลื่อนไหวและความสะอาดสะอ้านของภาพยังเป็นรองรุ่นท็อปอย่าง WT60 อยู่ ส่วนรายละเอียดในที่มืดในตอนที่ยังไม่ปรับภาพอาจจะไม่แสดงแจ่มแจ้งนัก แต่หลังจากปรับภาพขุด Dynamic Range : Contrast 96, Brightness + 5, Gamma 2.4 ขึ้นมาก็ถือว่าแสดงผลได้ดีขึ้น Step Up มีหลายฉากที่เอาไว้ทดสอบรายละเอียดภาพ, รายละเอียดในที่มืด และแสงเงาอย่างลึกซึ้งได้ ดูรูปตัวอย่างทั้งรายละเอียดของเส้นผม การไล่เฉดดำ-เทาของผ้าม่าน และรายละเอียดในที่มืดของเปียโนว่าขอบสันมันแสดงออกมาได้หมดไหม เป็นต้น

โหมด True Cinema หลังจากปรับภาพ แสดงภาพได้อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ

ส่วนเรื่อง Transformers ภาค 2 Revenge of The Fallen ซึ่งมีฉากสวิงสวายกว่า Step Up เล็กน้อย ฉากหุ่นยนต์แปลงร่างอัดกันได้อารมณ์มันส์ดี รายละเอียดบนใบหน้าของพระเอกแซม วิทวิกกี้ ทั้งตอนเหงื่อไหลไคลย้อยก็แสดงออกมาได้ดีจนแอบสัมผัสความสกปรกบนใบหน้าได้ ไม่ได้ติดเนียนมนจนกลืนไม่เห็นดีเทล หรือตอนยิงฟันกระต่ายในฉากที่ออกมาเขียนกระดานหน้าชั้นเรียนก็แสดงโฟกัสบริเวณฟันและปากที่ขยับรัวๆได้อย่างชัดเจน ช่วยเสริมบรรยากาศของหนังให้ดูตลบอบอวนไปด้วยความตื่นเต้นยิ่งขึ้น สีสันของใบหน้ามีความเข้มข้นกว่าโหมดอื่นๆเช่นโหมด Cinema ที่จะติดจืดไปซักนิด ภาพเคลื่อนไหวอยู่ในเกณฑ์ลื่นไหลปานกลาง มีเบลอบ้างเล็กน้อยหากเจอฉากไวทะลุปรอทจริงๆ ตัวช่วยแทรกเฟรมภาพอย่าง Intelligent Frame Creation หรือ 24p Smooth Film ก็อาจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก หากจะเปิดช่วยก็ระดับต่ำสุดเท่านั้น  ดูไปดูมาคุณภาพของภาพมีความเทียบเคียงกับ Sony W804 ไม่หนีกันเท่าไหร่ แต่ระดับความสว่างของ ET60T จะให้มาแบบพอดีๆกับสายตาเรา ไม่ได้สว่างจนเกินไป ตลอดจนลูกเล่นการปรับภาพที่มีให้มาเยอะกว่าเป็นกอง

รายละเอียดใบหน้าของพระเอกแซม วิทวิกกี้ ในโหมด True Cinema ให้สีสันที่อิ่มเข้มข้นกว่าโหมดอื่น
รายละเอียดใบหน้าของพระเอกแซม วิทวิกกี้ ในโหมด True Cinema ให้สีสันที่อิ่มเข้มข้นกว่าโหมดอื่น
ฟีเจอร์ Eco Navigation รวบรวมโหมดประหยัดพลังงานทั้งหลายเอาไว้ เช่น Power Save และ Ambient Sensor
อีกหนึ่งลูกเล่นขำๆคือปุ่ม Still ที่กดแช่ภาพให้หยุดนิ่ง หากท่านอยากหยุดวินาทีสำคัญไว้ก็ใช้ได้เลย
ส่วนฟรีทีวีด้วยช่องต่อ Antenna รองรับสัญญาณ Digital และ Analog ET60T / DT60T และ WT60T เป็น Digital TV จ้า

ทดสอบความดำ
ฉากพระจันทร์ในคืนมืดของ Pioneer ถูกนำมาใช้เช่นเคย เนื่องจาก ET60T ไม่มี Local Dimming ตัวช่วยเดียวที่จะช่วยได้คือ Adaptive Backlight Control ซึ่งเป็นการ “ดิมไฟแบบทั้งจอ” ซึ่งผมแนะนำให้เลือกระดับต่ำๆก็พอ หากดูตอนกลางวันสว่างๆ ET60T ก็แสดงความดำได้ดีทีเดียว จอ IPS แบบ Clear panel สีดำมันกึ่งด้านช่วยให้สีดำแลดูลึกมีมิติขึ้นด้วย (แต่อาจจะติดสะท้อนแสงขึ้นนิดหน่อย) แต่หากเป็นตอนกลางคืนหรือห้องมืดๆก็จะเหนื่อยหน่อยเพราะข้อจำกัดของ Edge LED เราสามารถปรับระดับ Backlight ลง หรือใช้ตัวช่วยพวกโหมดประหยัดพลังงานเพื่อช่วยลดระดับความสว่างของภาพลง ซึ่งเป็นการลดระดับ Backlight ลงในตัวได้เช่นกัน

ทดสอบฉากพระจันทร์ในคืนมืด