22 Jun 2014
Review

ระดับอ้างอิง !!! รีวิว Panasonic TH-P55VT60 Plasma TV อัศวินรัตติกาล…ผงาด


  • lcdtvthailand

ภาพ

Panasonic 55VT60 เป็น Plasma TV ตัวท็อปในปีนี้ ให้สเป็คด้านภาพแบบจัดเต็มมากอันได้แก่ หน้าจอความละเอียด Full HD 1920 x 1080 ใช้ Panel แบบ NeoPlasma 3000 พร้อมฟิลเตอร์ Infinite Black Ultra อันเลื่องชื่อ โดยแผ่นฟิลเตอร์นอกจากทำหน้าที่ลดแสดงสะท้อนแล้ว ยังเป็นแผ่นที่รองรับระบบสัมผัสของปากกา Touch Pen อีกด้วย สามารถไล่แสดงเฉดสีได้ถึง 30,720 ระดับ ช่วยทำให้สามารถแสดงขอบเขตของสีได้กว้างถึง 98% ของมาตรฐานสตูดิโอ พร้อมเทคโนโลยีภาพ 3 มิติแบบ Active โหมดภาพสำเร็จรูปอย่าง THX และ Professional (ISF) ก็มีมาให้สำหรับขาฮาร์ดคอร์เรื่องภาพที่แสดงแสงสีได้อย่างถูกต้องแม่นยำ 

โหมดภาพสำเร็จรูป
โหมดภาพสำเร็จของ Panasonic มีมาให้หลากหลายเหมาะกับการใช้งานรับชมในแต่ละสถานการณ์เช่นโหมด Dynamic เอาไว้เปิดโชว์ในห้าง สู้แสงสุดๆ โหมด Normal เอาไว้รับชมช่องฟรีทีวีทั่วไปเป็นต้น แต่ที่ผมอยากเน้นย้ำคือโหมด THX Cinema และ THX Bright Room เป็นโหมดภาพสำเร็จรูปถูกปรับจูนตามมาตรฐานของ THX ให้แสงสีใกล้กับค่าอ้างอิงมาก โดยโหมด THX Cinema จะเหมาะกับการรับชมในสภาพห้องที่มืดสนิทเหมือนโรงหนัง และ THX Bright Room ที่เหมาะอย่างยิ่งในการรับชมภาพยนตร์หรือหนัง HD ต่างๆในห้องที่สภาพแสงแบบปกติ (สว่างพอประมาณ) ในขณะที่โหมด Professional (ISF) ซึ่งมันเป็น “เมนูลับ” ต้องไปเปิดให้เป็น On ที่ Setup / Professional Mode (isfccc) สามารถให้ท่านเข้าไปปรับภาพเบื้องลึกทั้ง White Balance และ Color Management System ได้ โดยระดับความสว่างของโหมด Professional ค่อนข้างเหมาะสมดูตอนกลางคืนหรือห้องที่มืดสนิท ให้โทนแสงสีเป็นธรรมชาติสมจริง เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี ทางทีมงานเลยใช้ 3 โหมดภาพนี้เป็นหลักในการทดสอบรับชมจริงๆระหว่างเขียนบทความ  

โหมดภาพสำเร็จรูป โหมด THX Cinema ให้ค่าแสงสีได้แม่นยำที่สุด รองลงมาก็พวก THX Bright Room, Professional และ Cinema
Pre-Calibration ค่า White Balance และ Color Gamut ของโหมด THX Cinema แม่นยำมากสุดๆ
รวมถึงโหมด Professional 1 แสดงค่าได้แม่นยำมากเช่นกัน
หลังจากปรับภาพเสร็จค่า RGB Balance สมบูรณ์แบบมาก บอกได้เลยว่า Panasonic 55VT60 คือ “ทีวีระดับอ้างอิง” อย่างแท้จริง
Picture ModeCTTGammaLuminance
avgavgFL
Dynamic138550.5243.6
Normal96611.7615.1
Cinema66781.9723.2
THX Cinema65582.1724.4
THX Bright Room66381.7541.4
Custom96621.5715.4
Professional166412.3623.1
Professional266692.1323.9
อุณหภูมิสีและความสว่างของแต่ละโหมดภาพสำเร็จรูป

สัดส่วนภาพ : Aspect Selection
หากต้องการดูแบบ 1:1 Pixel Mapping กล่าวคือแสดงภาพจากต้นฉบับออกมาครบถ้วนแบบเป๊ะๆ ไม่มีครอปด้านข้างก็ต้องไปปิด 16:9 Overscan ให้เป็น Off ให้หมวด Setup เสียก่อน แล้วค่อยเลือก Aspect Selection เป็น 16:9 หรืออีกทางจะเลือกโหมดภาพพวก THX ไปเลยซึ่งจะปรับสัดส่วนภาพให้ถูกต้องอัตโนมัติ โหมดภาพอื่นๆสามารถกดปุ่ม Aspect ที่เป็นรูปจอพร้อมลูกศร 4 ทิศ บนรีโมทคอนโทรลเลือกได้ตามใจชอบ อนึ่งสัดส่วนภาพที่ถูกต้องดังกล่าวข้างต้นมีผลอย่างยิ่งยวดต่อความคมชัดของภาพที่แสดงออกมา เพราะแต่ละเม็ดพิกเซลจะส่องสว่างได้อย่างถูกต้องสอดคล้องกับแหล่งสัญญาณต้นทางมากที่สุด กล่าวคือแต่ละเม็ดพิกเซลจึงมีความคมชัดในตัวมันเองมากที่สุดจึงส่งผลให้ภาพทั้งภาพมีความคมชัดสูงสุดทั้งนั่นเอง 

สัดส่วนภาพ ปิด 16:9 Overscan ให้เป็น Off แล้วเลือก 16:9 ใน Aspect Selection
** ส่วนโหมด Just มันจะยืดขอบข้างให้ภาพ 4:3 เต็มจอโดยคงตำแหน่งตรงกลางจอไว้ไม่ให้ยืด

ทดสอบภาพ 2 มิติ
ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ทดสอบ Panasonic VT60 ซึ่งสำนักรีวิวทั่วโลกให้การยอมรับเรื่องคุณภาพของภาพเป็นอย่างมาก อย่างแรกที่สัมผัสได้คือระดับความสว่างของ VT60 มีมากกว่า VT50 ปีที่แล้วอยู่เล็กน้อย ทว่าสภาพการรับชมที่ดีที่สุดที่จะขุดศักยภาพของ VT60 ออกมาให้หมดจดคือห้องมืดๆหรือห้องที่คุมแสงได้ 100% ก็ตาม ผมทดสอบโดยใช้คอนเทนต์ที่คุ้นเคยเพื่อเป็นมาตรฐานในการอ้างอิงอย่างเรื่อง Journey 2 : The Mysterious Island  โดยผมทดสอบตอนค่ำๆส่งเสริมให้ VT60 แสดงภาพออกมาได้โดดเด่นที่สุด วิเคราะห์ภาพอย่างแรกคือเม็ดสีมี “น้ำหนัก” มากกว่าเม็ดสีของทีวีทั่วไปที่ผมเคยทดสอบมา จึงถ่ายทอดภาพออกมาได้อย่าง “อิ่มเอิบ” กระนั้นในภาพรวมของภาพก็ยังคงไว้ซึ่งความ “นวลนุ่ม” ตามแบบฉบับของทีวีประเภทนี้ มองกลับกันการแสดงสีดำของ VT60 ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม  พื้นหลังมีความ “ดำสงัด” จึงยิ่งส่งเสริม “มิติเชิงลึก” ระหว่าง “ตัววัตถุ” กับ “ฉากหลัง” ในที่นี้คือการแยกแยะมิติตัวละครอย่างคุณพ่อแฮงค์ (The Rock) กับต้นไม้ใบหญ้าและฉากหลังของป่าตอนกลางคืนที่มืดสนิท หรือฉากที่ผมประทับใจที่สุดคือฉากนาทีที่ 48 กว่าๆที่กลุ่มนักผจญภัยเดือนข้ามหินบนลำธาร  ซึ่งฉีกหนีมิติแบนราบของพวก LED และ LCD ราคาถูกๆไปอย่างหมดสิ้น (เป็นข้อดีของ Plasma TV ระดับไฮเอนด์) เป็นภาพ 2 มิติในอุดมคติที่มีความ “ล้ำลึก” ลงไปอย่างเป็นธรรมชาติ มิใช่การยัดเยียดภาพให้ลอยเคว้งออกมาด้วยการแทรกเฟรมที่มักจะนำพาความมึนหัวมาให้ ซึ่งแบบนี้เรียกว่า “มิติหลอกๆ” 

มิติภาพที่สมจริง มิได้แบนราบ แต่ก็มิได้ดูทะลุทะลวงจนเกินจริง

โหมดภาพ THX Bright Room ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีหากห้องท่านยังคุมแสงได้ไม่ดีนัก โดยโหมดนี้จะเน้นความสว่างสดใสของภาพและยังคงความถูกต้องของแสงสีไว้ได้ดี ทดสอบด้วยหนัง James Bond 007 : Casino Royale ซึ่งตอนแรกผมว่าจะดูภาคใหม่ล่าสุดคือ SkyFall แต่คุณชานมตัวดีแอบจิ๊กเอาไปดูที่บ้านซะงั้น ผมเลยต้องซ้ำภาคเก่าซะเลย ในฉากเล่นไพ่โป๊กเกอร์ รายละเอียดผิวหน้าของพระเอก Daniel Craig เป็นธรรมชาติ (มาก) ในการรับชมระยะประมาณ 2 เมตร การไล่แสงและเงาผ่านเส้นผมไปยังพื้นหลังซึ่งดำได้ดีมากๆเช่นกัน มิติภาพอันเป็นธรรมชาติสะกิดให้ผมจินตนาการถึงระยะห่างของตัวละครด้านหน้าและด้านหลังว่ามันอยู่ห่างกันกี่เมตร ด้วยระดับความดำของจอและความอิ่มแน่นของเม็ดสีจึงสามารถถ่ายทอดอารมณ์ “เคร่งขรึม” ในจังหวะการบลัฟคู่แข่งระหว่างการเล่นไพ่ได้อย่างบีบหัวใจ การรับชมระยะเวลานานก็ยังให้ความรู้สึก “สบายตา” ตามสไตล์พลาสม่าทีวีเค้าหละ

มิติและความเป็นธรรมชาติในฉากเล่นไล่โป๊กเกอร์

อีกเรื่องคือ Batman : The Dark Knight Rises ซึ่งมีฉากมืดๆบ่อยมาก ผมเปรียบ Panasonic VT60 เหมือน Batman กล่าวคือ “เก่งกลางคืน” การดูฉากเดียวกัน แต่ต่างสภาพแวดล้อม ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างฉาก Batman อยู่ในที่มืด หากดูในห้องสว่างที่คุมแสงไม่ได้ ต้องยอมรับว่าภาพดร็อปลงกว่า 50% ทั้งความอิ่มเอิบและมิติภาพเนื่องด้วยระดับความสว่างหรือ Panel Luminace มันค่อนข้างน้อยจึงไม่สู้แสง ถึงแม้จะมีพวกฟิลเตอร์ระดับเทพแค่ไหนคอยพยุงช่วยอยู่ก็ตาม…โดยส่วนตัวผมว่ามัน “เอาไม่ค่อยอยู่” เสียเท่าไหร่ อย่างไรก็ดีด้วยคุณสมบัติของฟิลเตอร์แบบใหม่ที่ช่วยลดแสงสะท้อนได้มากขึ้น ก็เรียกได้ว่ายังแสดงภาพในที่สว่างได้ดีกว่าพวก XT50 / XT60 อยู่หลายช่วงตัว ในทางกลับกันผมแบกเจ้า VT60 ไปทดสอบในห้องโฮมเธียเตอร์แล้วปิดไฟดู พลังภาพของ VT60 เหมือนถูกงัดออกมาเกิน 120% ด้วยความอิ่ม เจิดจรัส ทว่ายังสบายตาของภาพ (มันไม่จ้าแยงตาเลย ^ ^) ลายของชุดเกราะ Batman ซึ่งเป็นสีดำอยู่แล้วทีวีสามารถแสดงให้เห็นถึงลายส่วนเว้าส่วนโค้งและรอยแสงตกกระทบที่สาดลงชุดเกราะได้อย่างแจ่มแจ้ง มิติความดำของฉากหลังที่ซ้อนลงลึกไปจากสีดำของชุดเกราะก็ยังสามารถแยกรายละเอียดต่างๆเหล่านี้ได้อย่างน่าทึ่ง ทางผมเคยรีวิวพวก VT50 / VT30 / VT20 / V20 ยอมรับว่าพวกนั้นก็มีดีระดับหนึ่งแล้ว แต่มาเจอ VT60 ซึ่งผมยกให้เป็น “อัศวินรัตติกาล” ตัวจริงที่พร้อม “ผงาด” เมื่ออยู่ในความมืด!   

รายละเอียดของชุดเกราะสีดำแสดงได้ดี เห็นจุดโค้งเว้าและแสงตกกระทบ ตลอดจนการไล่ Greyscale สีดำ-เทา-ขาว เพื่อแสดงมิติภาพในที่มืด
ฉากเต็มจอ 16:9 ที่ถ่ายทำด้วยกล้อง IMAX ความเป็นธรรมชาติของแสงสี ผสานกับความอิ่มข้นของเม็ดพิกเซลช่วยปลุกเร้าอารมณ์ในฉากที่เบนส์บุกตลาดหุ้น

อีกเรื่องคือ The Three Musketeers สีสันของเสื้อผ้าตัวละครเรื่องนี้จัดจ้านได้ใจ แต่ก็มีฉากทดสอบหลายๆฉากถึงความอลังการของสีสัน สีผิวของคนที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติ ฉากต่อสู้ที่ทีวีสามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวได้อย่างราบลื่นไร้รอยต่อ พวกตัวช่วยภาพทั้งหลายอย่าง Noise Reduction / MPEG Remaster / Resolution Remaster / Caption Smoother ผมปิดทิ้งทั้งหมด เพื่อ “ความถูกต้องของภาพ” จากแหล่งสัญญาณต้นฉบับซึ่งปราศจาการแต่งเติม ที่มีพอใช้ได้บ้างก็อย่าง Panel Luminance Setting : Low / Mid / High โดยเป็นการแก้ไขข้อจำกัดเดิมของ Panasonic Plasma TV ซึ่งมีความสว่างหน้าจอค่อนข้างน้อย โดยเราสามารถเลือกระดับ Low ให้เป็น Mid ได้ ภาพจะสว่างขึ้นเหมือนเพิ่ม Cell Light แต่หากเป็นระดับ High ภาพสว่างขึ้นก็จริงแต่สีจะออกเพี้ยนไปซักเล็กน้อยเลยไม่แนะนำ หรือหากพวกภาพเคลื่อนไหวจากคอนเทนต์ 50Hz/60Hz กับโหมด Intelligent Frame Creation หรือ คอนเทนต์ 24Hz กับโหมด 24p Smooth Film ระดับ Min ก็ช่วย “หล่อลื่น” ภาพเคลื่อนไหวได้พอเป็นกระษัยโดยยังไม่ทอนความเป็นธรรมชาติกับการแสดงเฟรมภาพเร็วๆที่ถูกต้องไปมากนัก อย่างไรก็ดีถ้าหากอยากได้ถูกต้องเป็นธรรมชาติจริงๆ..ก็ปิดทิ้งไปเลยจะดีที่สุด (เพราะบางโหมดภาพจะตั้งค่าเริ่มต้นมาที่ Min หรือ Max บ้าง ระวังให้ดีจ้า)

สีผิวที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติในโหมด Professional จากหนังเรื่อง Three Musketeers

ในขณะที่การรับชมฟรีทีวี โดยเฉพาะ Digital TV (ทีวี Panasonic ปี 2013 ตัวกลางๆ-ท็อป มีจูนเนอร์ DVB T-2 มาให้หมด) โดยเฉพาะช่อง HD อย่างช่อง 5 HD และ ThaiPBS HD ให้ความคมชัดสูง Plasma TV ก็ถ่ายทอดภาพออกมาชัดแบบสบายตาตามคาด โหมดภาพอย่าง THX Bright Room ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีในการรับชมฟรีทีวี แนวภาพออกเปิดสว่าง ไม่ได้ติดทึมเหมือนโหมด Professional การจูนดิจิตอลทีวีต้องเปิดการจูนที่ Setup ==> Digital TV Tuning Menu เสียก่อน มันจะซ่อนเอาไว้ซึ่งหากเราจูนแบบดุ่มๆเลยก็จะเป็นการจูนแบบ Analog แทน และแน่นอนภาพและเสียงแบบ Digital มีความคมชัดกว่า Analog แบบจับต้องได้ครับ ฟันธง ! 

หมายเหตุ : ให้กดปุ่ม “TV” บนรีโมทเพื่อการสลับดูรายการทีวี Digital และ Analog ผมเลยดูเปรียบเทียบเช่นช่อง 9 แบบ Digital VS Analog เลยรู้ว่าแบบ Digital มันเทพกว่าเยี่ยงไร ! 

ช่อง 5 HD 1080i ชัดกำลังดี
ช่อง 3 แบบ 576i ดูแบบ Digital ชัดกว่า Analog เยอะ
สามารถตรวจสอบความแรงสัญญาณได้ที่ Setup => Digital TV Tuning Menu => Signal Condition
จูนติดมีช่องวิทยุมาให้ด้วยนะจ๊ะฟัง FM 107.0 แบบดิจิตอลเพลินจุงเบย

ทดสอบความดำของภาพ
การทดสอบความดำของภาพก็ต้องใช้คอนเทนต์พระจันทร์ในคืนมืดอ้างอิง ระดับพื้นหลังมีความดำสงัดในเกณฑ์ “ดีมาก (ๆ)” หากเจาะลึกแบบ “หาเรื่องจับผิด” เมื่อเอาตาไปส่องใกล้ๆจอก็จะเห็น “Dithering Noise” ยิ่บๆสีขาวๆอยู่เล็กน้อย แต่เหมือนจะน้อยกว่า VT50 อยู่นิดหน่อย อย่างไรก็ตามเมื่อมานั่งชมในระยะปกติก็จะไม่สังเกตจุดเหล่านั้น (แม้แต่นิดเดียว) ก็ต้องยอมรับว่ามันคือ Plasma TV ที่แสดงสีดำได้ดีที่สุดตัวหนึ่งเท่าที่เคยทดสอบมา กระนั้นเองผมก็ยังไม่มีโอกาสได้ทดสอบ Samsung F8500 ซึ่งแสดงสีดำได้ดำสงัดเช่นเดียวกัน หากได้เทียบแล้วจะเอามาแจ้งแถลงไขอีกรอบ  ส่วนการแสดงรายละเอียดในที่มืดหรือ Shadow Detail กับฉากใบหน้าคุณลุง Bruce Willis ใน Die Hard 4.0 ก็แสดงรายละเอียดได้ดี หนวดเคราเข้มปี๋แต่ก็ยังสามารถเห็นแบบฝอยเคราแบบพอสังเขปโดยที่ไม่ต้องพึ่งตัวช่วยภาพอะไรเลย

พื้นหลังสีดำแสดงได้ดีเยี่ยม มืดสงัดในระยะรับชมแบบปกติ
รายละเอียดหนวดเคราใต้คางดำมะเมื่อม อีกทั้งยังเห็นรายละเอียดฝอยๆได้ดี ซึ่งฉากนี้หากเป็น LED TV ทั่วไปจะเห็นรายละเอียดหนวดเคราใต้คางก็จริง แต่ส่วนมากออกแนวขาวโพลนเหมือนมีหลอดไฟสาดเข้าใส่ใต้คาง
อัตราการกินไฟในโหมด Professional ประมาณ 217 Watts หากเป็นโหมดที่สว่างกว่านี้ก็ดีดไปที่ 300-400 Watts จัดได้ว่ามากว่า LED TV ประมาณ 3-4 เท่า