Sound – เสียง
มาถึงส่วนที่ทุกคนรอคอยแล้วนะครับนั่นก็คือเรื่องเสียงนั่นเอง โดยผมจะเล่าเป็นภาพรวมจากการที่ผมได้ทดสอบลองเล่นลองฟังเสียงจาก AVR ทั้ง 2 รุ่นทั้ง VSX-LX504 และ VSX-LX304 ไปพร้อมๆ กันเลย ซึ่ง AVR ทั้ง 2 รุ่นนี้จะใช้ Dac ชิปประมวลผลด้านเสียงแบบเดียวกันคือ Digital Quad-Core 32-bit DSP ที่รองรับการถอดรหัสสัญญาณเสียงได้สูงสุดถึง 384 kHz/32-bit โดยจะแบ่งแยกเป็นชิป AKM AK4458 สำหรับลำโพงคู่หน้า กับชิป PCM5101A สำหรับลำโพงตัวอื่นในระบบ
รองรับ ระบบเสียง รอบทิศทางทั่วไปอย่าง Dolby Digital, DTS, Dolby TrueHD, DTS-HD Master Audio รวมถึงระบบเสียง 3 มิติ Immersive ในยุคปัจจุบันอย่าง Dolby Atmos กับ DTS:X เรียกว่าครอบคลุมครบครันไม่ว่าจะรับชมหนังผ่านแผ่น DVD, Blu-ray, 4K Blu-ray รวมถึงแอปสตรีมมิ่งอย่าง Netflix หรือ Apple TV ได้อย่างสะดวกสบายเลย
ในส่วนของภาคขยายและ กำลังขับ ในรุ่นพี่ใหญ่อย่าง VSX-LX504 มาพร้อมภาคขยายในตัวให้กำลังขับสูงสุดอยู่ที่ 230 W ต่อ Ch จำนวน 9 Ch รองรับการ Set-Up ลำโพงแบบสูงสุดได้ 2 รูปแบบได้แก่ 5.1.4 หรือ 7.1.2 แต่ถ้าหากใช้งานร่วมกับภาค Pre Out ที่ได้กล่าวไปข้างต้นจะสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 7.1.4 Ch เลยทีเดียว
ภาคขยายและกำลังขับของรุ่นน้องอย่าง VSX-LX304 ก็ถือว่าดีไม่แพ้กัน มาพร้อมภาคขยายในตัวให้กำลังขับสูงสุดอยู่ที่ 225 W ต่อ Ch จำนวน 9 Ch รองรับการ Set-Up ลำโพงแบบสูงสุดได้ 2 รูปแบบได้แก่ 5.1.4 หรือ 7.1.2 เช่นเดียวกันกับรุ่นพี่ใหญ่
ในการทดสอบผมได้ทำการ Set-Up AVR ทั้ง 2 รุ่นนี้ในรูปแบบลำโพง 5.1.2 Ch ที่รองรับทั้งการฟังเพลงในรูปแบบ 2 Ch รวมถึงการรับชมภาพยนตร์ในรูปแบบเสียงรอบทิศทางอย่าง Dolby Digital, DTS-HD Master Audio ไปจนถึง Dolby Atmos กับ DTS:X ได้อย่างครบครัน
มาเริ่ม ทดสอบการรับชมภาพยนตร์ กันดีกว่า เรื่องแรกที่ผมหยิบมาทดสอบจะเป็นเรื่อง Avenger : Endgame แบบแผ่น 4K Blu-ray เป็น ระบบเสียง Dolby Atmos ในช่วงของฉากมหาสงครามท้ายเรื่อง ในฉากนี้จะมีเสียงหลากหลายรูปแบบเลยไม่ว่าจะเป็นเสียงยานอวกาศบินผ่านหัวไปมา เสียงการต่อสู้ที่มีการปะทะกัน AVR ทั้ง 2 รุ่นนี้ ก็สามารถถ่ายทอดเนื้อเสียงออกมาได้ดี มีน้ำหนัก มีแรงปะทะของเสียงที่ชัดเจน โดยเฉพาะในรุ่นพี่ใหญ่ VSX-LX504 ฟังแล้วรู้เลยว่ากำลังมาเต็มแบบเหลือๆ เลย เช่น เสียงพูดตัวละครต่างๆ ฟังดูมีน้ำมีนวล เสียงการโยนวัตถุไปมา ไม่ว่าจะเป็น ซ้าย-ขวา, หน้า-หลัง, บน-ล่าง ก็ให้ทิศทางของเสียงที่ชัดเจนสมจริง เสียงเบสที่มาจากลำโพงตั้งพื้นคู่หน้าผสมผสานกับเสียงเบสผ่านช่อง LFE ทาง Active Subwoofer ก็มาช่วยสร้างเสริมเนื้อเสียงให้มีความหนักแน่นดูหนังได้เต็มอรรถรสจริงๆ
รับชมหนังกันอีกสักเรื่องกับ Bad Boys for Life แบบแผ่น 4K Blu-ray โดยเรื่องนี้เป็นหนังที่มาพร้อมระบบภาพและเสียงแบบ IMAX Enhanced เป็น ระบบเสียง DTS:X เรื่องนี้ก็จะมีเสียงหลากหลายรูปแบบเช่นกันไม่ว่าจะเป็นฉากขับรถไล่ล่าโฉบเฉียวไปมา ก็สามารถโยนเสียงสอดประสานลำโพงต่างๆ ในระบบได้เป็นอย่างดี เสียงปืนเสียงระเบิด ก็ให้เสียงที่ออกมากระหึ่มเร้าใจ ดูหนังได้สนุกอย่างแท้จริง
***สำหรับระบบเสียงแบบ DTS:X นั้นหากเรื่องไหนเป็นระบบเสียง DTS:X แบบปกติตัวระบบของ AVR ก็จะขึ้นโชว์ว่า DTS:X ปกติ แต่สำหรับหนังเรื่องไหนที่ได้รับมาตรฐาน IMAX Enhanced จะขึ้นว่า IMAX DTS:X ครับ***
รับชมภาพยนตร์ไปแล้วที่นี้เรามาลองกัน คอนเสิร์ต กันบ้างดีกว่า โดยผมได้หยิบแผ่นคอนเสิร์ตหนึ่งในนักร้องคนโปรดของผมอย่าง Celine Dion : Live in Las Vegas ในรูปแบบแผ่น Blu-ray ปกติ กับระบบเสียง Dolby TrueHD ที่ความละเอียดเสียงระดับ 96kHz/24-bit หรือเรียกว่าระดับ Hi-Res นั่นเอง เสียงที่ได้ทำให้ผมเพลิดเพลินไปกับดนตรีจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นเสียง ไวโอลีน ที่มีชัดเจนนุ่มนวล เสียงขลุ่ยที่มีความหวานแบบกำลังดี รวมถึงเสียงร้องของ Celine ในท่อนร้องธรรมดาก็ให้เสียงฟังดูละมุน จนถึงท่อนพีคที่มาพร้อมเสียงดนตรีโหมกระหน่ำ AVR รุ่นพี่ใหญ่ VSX-LX504 ก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวไม่มีอาการอ่อนแรงของเสียงเรียกว่ากำลังขับมาเต็มจริงๆ
นอกจากการรับชมภาพยนตร์แล้ว ในสมัยนี้ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะนำชุดเครื่องเสียงไป เล่นเกม ด้วยเช่นกัน โดยจากการทดสอบเล่นเกม Forza Horizon บนเครื่อง XBox One S เป็นระบบเสียงแบบ Dolby Atmos เสียงที่ได้ไม่ว่าจะเป็นเสียงบรรยากาศถนนรอบข้าง เสียงเครื่องยนต์ หรือเสียงรถคนอื่นขับผ่านไปมาก็ให้เสียงได้เหมือนเราขับรถอยู่จริงๆ มีความชัดเจนหนักแน่น มีเสียงโยนไปมาหน้าหลัง เพิ่มความสนุกสนานในการเล่นเกมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ในส่วนของการ ฟังเพลง แบบ 2 Ch และ 2.1 Ch ผมได้นำไฟล์เพลงระดับ Hi-Res ในเพลงแรกอย่างเพลง That’s The Way It Is ของ Celine Dion ในรูปแบบไฟล์ DSD 2.8 Mhz/1bit มาทดสอบ AVR ทั้ง 2 รุ่นก็สามารถถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงออกมาได้ดีมีการแยกระหว่างเสียงร้องกับเสียงดนตรีได้อย่างชัดเจน กับอีกหนึ่งเพลงอย่าง Fly Me to The Moon ของ Claire ในรูปแบบไฟล์ FLAC 192kHz/24bit เพลงนี้จะมาในรูปแบบวงออเคสตร้า ไม่ว่าจะเป็นช่วงเบาๆ คลอ ไปจนถึงท่อนพีคที่เครื่องดนตรีหลายๆ เครื่องเล่นพร้อมกัน AVR ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็สามารถส่งพลังของเสียงดนตรีผ่านลำโพงร่วมกับเสียงเบสจาก Subwoofer ออกมาได้ดีทีเดียว
อีกหนึ่งช่องทางการฟังเพลงที่ส่วนตัวผมเลือกใช้ในทุกวันก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องทดสอบ ก็คือการฟังเพลงผ่าน AirPlay จาก iPhone X ของผม โดยผมได้ทดสอบฟังเพลงผ่านแอปสตรีมมิ่งอย่าง Apple Music ในเพลง Shallow (เพลงประกอบภาพยนตร์ A Star Is Born) ของ Lady Gaga และ Bradley Cooper เป็นเพลงในรูปแบบ Live เสียงที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นร้องอันทรงพลังของ Lady Gaga รวมถึงเสียงร้องผู้ชายในแบบนุ่มละมุม ของ Bradley Cooper AVR ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็ถ่ายทอดเสียงออกมาได้ดีสมจริง เสียงกีตาร์บรรเลงเบาๆ ในช่วงต้นของเพลงก็ให้เสียงทีมีความหวานนิดๆ ฟังสบายหู จนถึงท่อนที่เครื่องดนตรีทุกชิ้น โดยเฉพาะกลองโหมหน่ำขึ้นมาก็สามารถส่งแรงปะทะของเสียงมาสู่ผู้ฟังได้แบบเต็มๆ เลย
ฟังเพลงช้าไปแล้ว มาลองดูกันดีกว่าว่าถ้าฟังเพลงสนุกๆ หละเสียงที่ได้จะเป็นอย่างไร ผมเลยลองเปิดเพลงที่กำลังมาแรงในช่วงนี้อย่าง How You Like That ของ Black Pink ทดสอบกันซักหน่อย เสียงที่ได้โดยรวมมีความชัดเจน ให้แรงปะทะของเสียงทีดี เสียงร้องมีความชัดเจน เสียงเบสที่มาเป็นลูกๆ ก็ให้หัวเบสที่มีความคมชัด แม้ว่าอาจไม่ได้ฟังสนุกเท่ากับเครื่องเสียงที่ออกแบบมาเพื่อฟังเพลงแบบ Dance โดยเฉพาะ แต่โดยรวมถือว่าฟังสนุก โยกตามได้เลยทีเดียวครับ
สรุปเรื่องเสียง ของ AVR 2 รุ่นนี้ ในเรื่องของเนื้อเสียงโดยรวมไปในทิศทางเดียวกันคือ มีความชัด มีความหวานนิดๆ ฟังเพลงสบายๆ ก็ได้ ฟังเพลงสนุกๆ ก็ดี ส่วนเรื่องดูหนังก็ให้บรรยากาศของเสียงรอบทิศทางได้อย่างโอบล้อม โยนเสียงทิศทางต่างๆ ได้อย่างชัดเจนสมจริง เรื่องพละกำลังโดยรวมทั้ง 2 รุ่นถือว่าทำได้ดี เพียงแต่รุ่น VSX-LX304 อาจมีอาการเสียงเบาบางลงไปบางในจังหวะที่เสียงพีคขึ้นมาแบบกะทันหันเท่านั้นครับ ซึ่งถ้าหากเลือกใช้คู่กับลำโพงที่กินกำลังขับน้อยหน่อย หรือลำโพงวางหิ้งผลลัพธ์ของเสียงที่ได้ก็ถือว่าออกมาดีไม่แพ้กันเลย