Micro HiFi System
Pioneer X-EM26 และ X-HM26
Pioneer X-EM26 (ราคา 4,990 บาท) และ X-HM26 (ราคา 7,990 บาท)
แม้กระแสการฟังเพลงผ่านบริการสตรีมมิ่ง จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่กระแสการฟังเพลงด้วยแผ่นซีดีก็ยังไม่เสื่อมคลายลดถอยลง เพราะยังมีหลายคนที่นิยมเก็บสะสมแผ่นอัลบั้ม สนับสนุนศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งการจะฟังเพลงให้เข้าถึงสิ่งที่ศิลปินต้องการสื่อ ตัวเครื่องเสียงเองก็ต้องมีความสามารถในการถ่ายทอดเสียงที่ดีด้วย ยิ่งจะช่วยพาอารมณ์ให้เข้าถึงเพลงได้อีกเท่าตัว
และชุดฟังเพลงที่จะทำการรีวิวในครั้งนี้ เป็นสองพี่น้องมินิคอมโพฯ จาก Pioneer รุ่น X-EM26 และ X-HM26 ชื่อรุ่นอาจจะคล้ายกัน ส่วนแนวเสียง รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ นั้นเป็นอย่างไร รีวิวนี้จะทำการพิสูจน์ให้รู้ชัด ว่าจะมีความเหมือนหรือแตกต่างมากน้อยแค่ไหน และแต่ละรุ่นตอบโจทย์กับผู้ใช้งานประเภทใด มาร่วมหาคำตอบกันเลย
Design – การออกแบบ
ถึงชื่อรุ่นจะคล้ายกันจนสับสน แต่หน้าตาไม่เหมือนกันสักนิด X-EM26 มีรูปลักษณ์โมเดิร์นดูทันสมัย กลับกัน X-HM26 มีดีไซน์ที่ดูสมบุกสมบัน เคร่งขรึม ให้ความรู้สึกเป็นมืออาชีพ ตัวเครื่องเล่นของ X-EM26 มีความสูงอยู่ที่ 121 มม. สูงกว่า X-HM26 ประมาณ 2ุ6 มม. ส่วนด้านกว้างและความลึกของตัวเครื่อง X-HM26 จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า ไม่กะทัดรัดเท่า X-EM26 และมีน้ำหนักเครื่องที่มากกว่าเกือบเท่าตัว
รายละเอียดตัวเครื่องของ X-EM26 เป็นดิจิตอลแอมป์ ให้กำลังขับ 10W ต่อแชนแนล ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.1 กก. เท่านั้น ในด้านหน้า ครึ่งบนจะเป็นจอแสดงผล LED ขนาดใหญ่ ตีกรอบยาวแบบไร้ขอบ บริเวณจอจะมีปุ่มปิด/เปิดเครื่อง และปุ่มบิดสำหรับเพิ่ม/ลดระดับเสียง ส่วนครึ่งล่างจะมีวัสดุเป็นอะลูมิเนียมแบบเดียวกับตัวเครื่อง มีช่องใส่แผ่น CD อยู่ตรงกลาง ถัดมาเป็นชุดปุ่มคำสั่งเบื้องต้น และช่องต่อ USB
มาดูฝั่ง X-HM26 กันบ้าง เป็นดิจิตอลแอมป์คลาส D ให้กำลังขับ 15W ต่อแชนแนล รูปลักษณ์จะคนละสไตล์กับ X-EM26 เลย ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมแข็งแรง น้ำหนักค่อนข้างสูง มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ชัดเจน ปุ่มคำสั่งและช่องต่อต่างๆ บนตัวเครื่องจะเหมือนกับ X-EM26 แต่เพิ่มเติมด้วยช่องต่อ 3.5 มม. ที่ย้ายจากด้านหลังมาอยู่ด้านหน้าเครื่อง
ช่องต่อด้านหลังของทั้งคู่ แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย โดย X-EM26 มีช่องต่อ 3.5 มม. อยู่ทางด้านหลัง ช่องต่อสาย Antenna กับสายลำโพง จะเป็นแบบขั้วเสียบ ติดตั้งได้ง่ายรวดเร็ว ส่วนช่องต่อของ X-HM26 จะมีหน้าตาแบบดั้งเดิม สายลำโพงเป็นแบบหนีบ และช่องต่อ Antenna เป็นแบบหัวเสียบกลม ซึ่งสายไฟสามารถถอดแยกออกได้ด้วย
ลำโพงของทั้ง 2 รุ่น ก็มีขนาดที่ต่างกันเล็กน้อย ไม่สามารถถอดแกะหน้ากากผ้าด้านหน้าได้ แต่ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยคือดอกลำโพง X-EM26 ใช้ดอกลำโพงแบบฟูลเรนจ์ขนาด 7.6 ซม. ข้างละ 1 ดอก สายลำโพงได้รับการเข้าหัวต่อเรียบร้อย ส่วน X-HM26 เป็นโคนวูฟเฟอร์ขนาด 10 ซม. และใช้ทวีตเตอร์แบบ Piezo สายลำโพงได้รับการบัดกรีเพื่อความง่ายในการติดตั้ง ตัวตู้จะใช้วัสดุชนิดเดียวกัน แต่ X-HM26 ออกแบบให้ผิวดูเรียบสะอาด มีช่องคายเสียงอยู่ทางด้านหลัง ส่วน X-EM26 จะอยู่ทางด้านหน้าใต้ดอกลำโพง
รีโมทของทั้งคู่สามารถใช้ร่วมกันได้ สีของรีโมทจะเป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง ปุ่มคำสั่งคล้ายกัน มีปุ่มเลือกช่องการใช้งาน, ปุ่มตั้งเวลาปิดเครื่อง, ปุ่มตั้งเวลาปลุกม ปุ่มลดความสว่างจอแสดงผล, ปุ่มคำสั่งใช้งาน และปุ่มโหมดการใช้งานหรือปรับแต่งเสียง แต่ฝั่ง X-HM26 จะจำแนกแต่ละปุ่มออกชัดเจนกว่า รีโมทจึงมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย
Features – ลูกเล่น
นอกจากความสามารถในการเล่นแผ่น CD แล้ว ฟีเจอร์อื่นๆ ก็หลายหลายเหมือนกันทั้ง 2 รุ่น เริ่มต้นด้วยฟีเจอร์แรก การฟังไร้สายผ่าน Bluetooth ช่วยให้เชื่อมต่อกับเครื่องเล่นหรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อป โดยรุ่น X-EM26 จะเป็น Bluetooth 4.0 ส่วน X-HM26 จะเป็นเวอร์ชั่น 4.1 เมื่อเชื่อมต่อแล้ว จะแสดงชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อบนหน้าจอด้วย
หรือใครที่ต้องการฟังเพลงผ่าน USB Drive ก็สามารถทำได้ในทั้งสองรุ่น แต่รองรับเฉพาะไฟล์ MP3 เพียงอย่างเดียว ไม่รองรับการเล่นไฟล์ชนิดอื่น ทางเลือกการฟังไม่ได้หมดแค่นี้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการฟังวิทยุ FM ต้องไม่ผิดหวัง โดยในชุดเครื่องเล่นจะมีสาย Antenna มาให้ด้วย มีสายยาว แต่ขนาดเล็ก เสียบใช้ได้ทันทีสะดวกต่อการใช้งาน
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ 2 รุ่นนี้คือ ระบบการตั้งเวลา สามารถตั้งเวลาปิดเครื่องไว้ได้ เหมาะต่อการฟังก่อนนอน หากกลัวว่าจะเผลอหลับจนลืมปิด และสามารถตั้งเวลาเปิดเครื่องได้อีกด้วย ถ้าท่านใดที่เบื่อเสียงนาฬิกาปลุกเดิมๆ ให้เครื่องเล่น 2 รุ่นนี้ ปลุกผู้ใช้งานด้วยเพลงโปรดในทุกเช้าๆ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นยังมีโหมด Stand By ตัวเครื่องจะพักการใช้งานและปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ เมื่อไม่มีการใช้งานใดๆ และสามารถใช้งานได้อีกครั้งทันทีที่กดเล่นเพลง
รุ่น X-EM26 มีฟีเจอร์เฉพาะตัวอยู่ที่ช่องต่อสายลำโพงและสาย Antenna เป็นช่องต่อสำหรับสายที่ผ่านการเข้าหัวเสียบ ทำให้เชื่อมต่อได้ง่าย มีความแข็งแรง ไม่ต้องกลัวสายชำรุดเหมือนช่องต่อแบบหนีบ ซึ่งสาย Antenna ที่ให้มาในชุดของรุ่นนี้ก็มีขนาดเล็ก ไม่ได้มีลักษณะเป็นแผงขนาดใหญ่ แต่มีความสามารถในการรับสัญญาณที่ดีไม่แพ้กัน
ฝั่ง X-HM26 เองก็มีฟีเจอร์เด็ดอยู่ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเพิ่มหรือลดค่า Bass สำหรับเสียงย่านต่ำ และ Treble สำหรับเสียงย่านแหลม สร้างโทนเสียงได้ตามความต้องการ เพียงแค่กดปุ่ม Sound บนรีโมท กดปุ่มลูกศร ซ้าย-ขวา ในการปรับ ส่วนโหมดเสียงสำเร็จรูปอื่นๆ จะมีให้ทั้ง 2 รุ่น