Sound – เสียง
มาที่การทดสอบเสียง เชื่อว่าหลายท่านพอจะเดาแนวเสียงคร่าวๆ กันได้บ้างแล้วจากสเปคของทั้ง 2 รุ่น เริ่มต้นการทดสอบด้วยแผ่น CD เพลง 3 อัลบั้มด้วยกัน จากวง Tattoo Colour, Two Door Cinema Club และ The 1975 เอาเปิดเทียบกันแบบเพลงต่อเพลงเลย ซึ่งเพลงแรกที่อยากยกมาอิงคือเพลง “ขาหมู” ทุกคนต้องคุ้นหูแน่นอน
จุดเด่นของเพลงนี้อยู่ที่การสแลปเบสและเสียงกีต้าร์บาดใจ เมื่อเอาทั้ง 2 รุ่นมาเทียบกัน ด้วยโหมดเสียงปกติ จะให้ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง X-HM26 นั้นค่อนข้างได้เปรียบเรื่องเสียงเบสเป็นอย่างมาก เสียงสแลปเบสเด้งเป็นลูก ค่อนข้างกระชับ มีน้ำหนัก เพลงจึงออกมามีติกระฉับกระเฉง ประกายเสียงแหลมมีความฟุ้งไปสักนิด ให้ความรู้สึกชวนอึดอัดบ้างเล็กน้อย หากวัดที่ความสบายลื่นไหลของ X-EM26 ที่แม้จะเบสจะไม่หนักหน่วงเท่า อาจไม่รุกเร้า แต่ให้ความสบายหูสูง
ทั้ง 2 รุ่นจะมีโหมดเสียงให้ปรับตามสไตล์การฟังต่างๆ และมีโหมดเพิ่มเสียงเบสที่ชื่อว่า Power Bass เพลงต่อไปที่จะอิงชื่อว่า Bad Decisions เพลงนี้จะเน้นการเดินเบสที่เป็นลูกๆ ตัดด้วยเสียงกระเดื่องเป็นจังหวะ จากตอนแรกที่ X-EM26 ไม่มีอะไรโดดเด่น กลับแพรวพราวขึ้นมาในพริบตา มีน้ำมีนวลขึ้นมาทันที จนต้องขอแนะนำเลยว่า ใครที่ใช้รุ่นนี้อยู่ จงเปิดโหมด Power Bass เอาไว้! ซึ่งความสบายลื่นไหลก็ไม่ได้หายไป แต่ยังตาม X-HM26 ในเรื่องความหนักแน่นและพื้นที่ในการฟังไม่ทัน
สำหรับ X-HM26 เมื่อเปิดโหมด Power Bass เบสจะถูกขับออกมากระแทกกระทั้นกว่าเดิมแบบเนื้อๆ แต่มีอาการเบสอูมให้เห็นบ้างนิดหน่อย ไม่กระชับเท่าแบบปิด แต่รับรองว่ากระแทกกระทั้นสะใจได้รสชาติชาว Bass Lover เป็นแน่ ซึ่งตรงนี้ยังสามารถแก้ไขได้ด้วยโหมด Sound สำหรับปรับแต่งเสียงเบสและเสียงแหลม เพื่อให้ได้เสียงที่โดนใจอย่างไม่ยากเย็น
ทดสอบเรื่องเสียงย่านแหลมกันต่อให้แน่ชัดด้วย The 1975 อันมีรายละเอียดยิบย่อยมากมาย ผสานด้วยเสียงสังเคราะห์ฟุ้งๆ เป็นการท้าทายทั้ง 2 รุ่นเลย ความสามารถในการเก็บรายละเอียดเสียงต่างๆ ทำได้ดีทั้งคู่ X-HM26 จะให้เสียงแหลมที่มีความคมและจัดจ้านกว่า X-EM26 แต่มีความสะเปะสะปะให้เห็นบ้าง ตรงข้ามกับ X-EM26 ที่แม้เสียงจะมีความราบเรียบกว่า แต่ฟังสบายไหลลื่น ผิดจากรูปลักษณ์ภายนอก
นอกจากความสามารถในการเล่นแผ่น CD แล้ว การฟังเพลงผ่าน USB Drive ตัวเครื่องเล่นจะอ่านได้เฉพาะไฟล์ MP3 เท่านั้น แนะนำว่าควรตั้งชื่อไฟล์เพลงเป็นภาษาอังกฤษ เพราะไม่รองรับภาษาไทย ตัวเครื่องจะไม่คัดไฟล์ออกมาเล่นโดยอัตโนมัติ ต้องทำการเลือกตามโฟลเดอร์ที่บรรจุ ขอแนะนำอีกนิดว่าควรสร้างโฟลเดอร์เก็บเพลงให้ใช้งานง่ายๆ ด้วย
นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นยังสามารถเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth จากที่เคยสัมผัสมาหลายๆ รุ่น ต้องบอกเลยว่า ให้คุณภาพการเชื่อมต่อยอดเยี่ยม ไม่มีอาการติดขัดให้เห็น เชื่อมต่อได้ง่ายรวดเร็ว ตัวเครื่องจะแสดงชื่อของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่บนหน้าจอด้วย คุณภาพเสียงอยู่ในเกณฑ์ดี คมชัดมีน้ำหนักไม่แพ้การฟังด้วย CD เลย
บรรยายสรรพคุณเสียงกันมาก็เยอะแล้ว กลัวหลายท่านอาจจะไม่เห็นภาพ ว่าเสียงของทั้ง 2 รุ่นแตกต่างมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นอย่ารอช้า รับชมคลิปเสียงทดสอบ วัดเกันให้เห็นแบบจะๆ ด้านล่างนี้ได้เลย….
Conclusion – สรุป
หากพูดถึงเรื่องความน่าสนใจในเรื่องของฟีเจอร์ลูกเล่นการใช้งาน ก็ต้องจัดให้ทั้ง 2 รุ่นนี้ อยู่ในหมวดชุดฟังเพลงมินิคอมโพฯ ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ในระดับราคาน่าคบหา แต่ให้ความคุ้มค่าสูง รองรับการฟังเพลงทั้งจากแผ่น CD, USB Drive, Bluetooth และการฟังวิทยุ FM ดีไซน์มีขนาดกะทัดรัดสวยงาม เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
สำหรับเรื่องเสียงนั้น X-EM26 สามารถเข้าถึงผู้ฟังได้ทุกกลุ่มการฟังได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยคาแร็กเตอร์ที่ฟังสบาย แม้จะไม่หวือหวาจัดจ้าน แต่ก็นวลหูลื่นไหล ไม่ได้แห้งเหือด ส่วนใครที่ต้องการการฟังในระดับสูงขึ้นมาอีกหน่อย X-HM26 สามารถตอบสนองความกระหายของหูได้เกินคาดคิด หนักหน่วงกระแทกกระทั้น หรือครั้นอยากจะหวานก็ให้ความฉ่ำสบายอารมณ์ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้อ่านแล้วว่า สไตล์ไหนที่ตรงใจ ใช้การฟังเป็นสิ่งบ่งบอกตัวตนกันเลย
ข้อดีของ Pioneer X-EM26 และ X-HM26
1. รองรับการฟังผ่านช่องทางที่หลากหลาย ทั้ง CD, USB, Bluetooth และ FM
2. X-HM26 มีโหมดให้ปรับแต่งเสียงได้ละเอียดขึ้น
3. โหมด Power Bass ช่วยเพิ่มความอิ่มและกระแทกกระทั้น ถูกใจชาว Bass Lover
ข้อเสียของ Pioneer X-EM26 และ X-HM26
1. ไม่รองรับการเล่นแผ่น SACD และ DVD
2. การฟังเพลงผ่าน USB Drive รองรับเฉพาะไฟล์ MP3 เท่านั้น