10 Oct 2021
Review

รีวิว LG 65QNED91 อีกหนึ่ง Mini LED TV พัฒนาการเด่นด้านสีสันและคอนทราสต์ พร้อม HDMI 2.1 2 ช่อง


  • ชานม
65QNED91 ให้ช่องต่อ HDMI 2.1 จำนวน 2 ช่อง นอกจากรองรับ 4K 120Hz พร้อมคุณสมบัติ Variable Refresh Rate (40-120Hz VRR/AMD FreeSync Premium) แล้ว ยังเพิ่มเติมการแสดงผล Dolby Vision for Gaming กับ Xbox Series X ด้วย โดย F/W ปัจจุบันจะรองรับที่ 4K 60Hz
คุณสมบัติ ALLM หรือ Auto Low Latency Mode จะปรับสถานะการแสดงผลเข้าสู่ “Game Optimizer Mode” อัตโนมัติเพื่อลด Input Lag แถบสถานะแบบใหม่สามารถปรับตัวเลือกตั้งค่าภาพได้สะดวกครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

ค่า Input Lag อ้างอิงที่ 4K 60Hz ของรุ่นนี้วัดได้ต่ำเพียง 13 ms และแน่นอนหากปรับการแสดงผลเป็น 4K 120Hz ได้ ผลลัพธ์ Input Lag จะยิ่งต่ำลงอีก

ดุลสีของ 65QNED91 โหมดภาพ Game Optimizer ยังติดโทนเย็นเหมือนเคย อุณหภูมิสีเฉลี่ย 8562K ใครที่จริงจังเรื่องสีสันอิงตามต้นฉบับ อาจปรับเปลี่ยนตัวเลือก Color Temperature เป็น Warm 50 สมดุลแสงขาวก็จะใกล้เคียงมาตรฐานอ้างอิงมากขึ้น (ภาพคล้าย Cinema/ISF Expert Bright Room แต่ผลลัพธ์ Input Lag จะเหมาะกับการเล่นเกมมากกว่า)

เสียง

ในสเปคระบบเสียงของ 65QNED91 แจ้งว่าลำโพงแบบ 2.2 แชนเนล ติดตั้งที่บริเวณส่วนล่างของจอภาพ พร้อมภาคขยายรวมที่ 40 วัตต์ ปริมาณเบสอาจจะย่อหย่อนลงจากรุ่นสูงบ้าง แต่ถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้ชัดเจนดี เสียงสนทนาชัดเจน โดยรวมยังถือว่าให้น้ำหนักเสียงได้พอเหมาะ ไม่รู้สึกว่าแห้งบาง ระดับเสียงก็ดังกำลังดีรองรับการใช้งานในห้องรับแขกตามบ้านทั่วไป

ทีวีของ LG ถือว่าจัดการเรื่องเสียงได้ยืดหยุ่นที่สุด สามารถนำลำโพงไร้สาย Bluetooth มาใช้เป็นลำโพงเซอร์ราวด์ด้านหลังเพื่อเสริมเอฟเฟกต์เสียงโอบล้อมรอบตัวผู้ฟัง โดยเป็นการทำงานประสานกับลำโพงในตัวของทีวี หรือจะกำหนดในส่วนของตัวเลือก Sound Out เพื่อให้เสียงออกพร้อมกันหลายช่องทางก็ได้ เช่น ให้เสียงออกลำโพงทีวี พร้อมหูฟังบลูทูธ หลากหลายดี
HDMI eARC ของ 65QNED91 ช่วยให้ “Pass-through” ระบบเสียงรอบทิศทางได้สูงสุดถึง Dolby Atmos/TrueHD* ทว่าจะไม่รองรับระบบเสียง DTS ทุกรูปแบบ ตั้งแต่ DTS 5.1, DTS-HD MA ไปจนถึง DTS:X กรณีที่ต้องการ แนะนำให้เชื่อมต่อสัญญาณเสียงจากเพลเยอร์ตรงเข้า AVR/Soundbar

*หมายเหตุ: อ้างอิง HDMI eARC โดยเชื่อมต่อสัญญาณจาก Oppo UDP-203 4K BD Player ผ่าน 65QNED91 ไปยัง Pioneer VSX-LX504 AVR

สรุป

อีกหนึ่งตัวเลือก QNED TV จากแบรนด์ LG ที่ผสานรวม Mini LED Backlight Technology อัปเกรดคุณภาพของภาพโดดเด่นขึ้นจาก NanoCell TV ของปีก่อนชัดเจนมาก ทั้งความสว่างที่สูง และควบคุมแสงลอดได้ละเอียดกว่าเดิม จึงถ่ายทอดระดับคอนทราสต์ได้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น บวกกับคุณสมบัติการแสดงผลด้านเกมครบครันผ่าน HDMI 2.1 จำนวน 2 ช่อง และความบันเทิงหลากหลายในแบบ Online Streaming รองรับ Dolby Vision/Atmos หลายแพลตฟอร์ม จึงตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม

ข้อดีของ LG 65QNED91

1. Mini LED คุมแสง Backlight ได้ละเอียดขึ้นกว่าเดิม แนะนำรับชมในมุมตรงเพื่อประสิทธิภาพการควบคุมแสงลอดที่ดีที่สุด

2. การถ่ายทอดคอนทราสต์ จากระดับ Peak Brightness และความดำจาก Local-dimming คุมแสงลอด ทำได้โดดเด่นกว่า LG รุ่น NanoCell TV ปีก่อน ชัดเจนมาก

3. HDMI 2.1 2 ช่อง รองรับ 4K 120Hz VRR (FreeSync), อัปเดต Game Optimizer แจ้งสถานะและตั้งค่าภาพต่าง ๆ เวลาเล่นเกมได้สะดวกกว่าเดิม

4. แอปความบันเทิงครบครัน หลายแอปรองรับระบบภาพและเสียงอย่าง Dolby Vision/Atmos

ข้อจำกัดของ LG 65QNED91

1. ADS Panel มุมมองรับชมกว้าง แต่ซีนสว่างอาจมีแสงฟุ้งลดทอนระดับคอนทราสต์บ้างเล็กน้อย (เป็นข้อจำกัดของ Wide viewing angle LCD Panel)

2. ช่องต่อ Analog Video (Composite)/Audio In ถูกตัดออกไป

3. ช่วงที่ทำการทดสอบ ยังไม่รองรับ Disney+ Hotstar อย่างเป็นทางการ (ต้องใช้วิธีซิกแซ็กหน่อยถ้าต้องการดูช่วงนี้), ยังไม่รองรับ Google Assistant

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.50
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
8.75
ภาพ 2 มิติ หลังปรับภาพ (2D Picture Post-Calibrated)
8.75
ภาพ 2 มิติ (HDR)
8.75
เสียง (Sound)
8.50
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.75
ลูกเล่น (Features)
8.75
ความคุ้มค่า (Value)
8.00
คะแนนตัดสิน (Total)
8.6

LG 65QNED91 4K Mini LED TV (2021)

8.6

ราคาเปิดตัว  LG QNED91

75QNED91 139,990 บาท
65QNED91 104,990 บาท