31 Oct 2022
Review

รีวิว LG 65OLEDG2 ดีไซน์สวยติดผนัง ภาพตัวท็อป เกรด OLED evo


  • Dear_Sir

Sound – เสียง

ลำโพงของ LG 65OLEDG2 จะมีทั้งหมด 4.2 แชนแนล กำลังขับรวม 60 วัตต์ รองรับการถอดรหัสเสียง Dolby Atmos จากที่ได้ลองฟังเสียงทั้งจากการดูหนัง และฟังเพลง พบว่ารุ่นนี้มีเนื้อเสียงที่ค่อนข้างดี ไม่แห้ง เบสผสานกับเสียงพูด เสียงชิ้นดนตรีได้อย่างลงตัว เวทีเสียงครอบคลุมผู้นั่งฟังบริเวณด้านหน้า 3-5 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าเก่งแล้วสำหรับทีวี สำหรับโหมดเสียงที่แนะนำให้ใช้งานโดยส่วนตัวผมค่อนข้างชอบอยู่สองโหมด โหมดแรกคือ Cinema ที่จะเพิ่มเสียงเบสให้มากกว่าโหมดอื่น เสียงพูด เสียงร้องจะหลบด้านหลัง ส่วนอีกโหมดคือ Clear Voice Pro ที่เสียงพูด เสียงร้อง จะเด่นกว่าเสียงอื่น แต่ก็ต้องแลกมากับที่เบสจะบางลง

ถึงตัวทีวีจะรองรับการถอดรหัสเสียง Dolby Atmos และมีโหมด AI Sound Pro จำลองให้เป็นระบบ 7.1.2 ได้ สำหรับคนที่อยากจะฟังเสียงแบบ Dolby Atmos ขอแนะนำว่าควรหาซื้อซาวด์บาร์มาต่อเพิ่มเติม อาจใช้รุ่น LG SP9A ก็ได้ แล้วต่อผ่านช่อง HDMI 2 เพราะช่องนี้รองรับ eARC/ARC สามารถ Pass-through ระบบเสียง Dolby Atmos ได้

Feature – ลูกเล่น

Always Ready ฟีเจอร์เด็ดบน LG TV ตัวท็อปเท่านั้น และเป็นลูกเล่นที่เข้ากันกับซีรีส์ G2 มากที่สุด เพราะเข้ากันกับหลักการออกแบบ เพราะเมื่อปิดทีวีฟีเจอร์นี้จะทำงานอัตโนมัติ ดึงเอาภาพขึ้นมาแสดงผลแทน เปลี่ยนจากทีวีจอดำธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นจอแสดงภาพผลงานศิลปะก็ได้ โดยภาพที่ดึงมาแสดงก็จะอ้างอิงกับภาพที่เราได้เลือกไว้ อย่างกรณีนี้ได้เลือกไว้ให้แสดงภาพใน Art Gallery

ฟีเจอร์นี้สามารถเลือกที่จะเปิด หรือปิด ได้ เข้าไปตั้งค่าได้ที่ Setting > General > Always Ready
มีผลงานให้เลือกมากมายใน Art Gallery

webOS ของ LG ในปีนี้มีชื่อรหัสว่า webOS22 หน้าตายูสเซอร์อินเตอร์เฟซแม้ไม่ได้แตกต่างจากปีก่อนมากนัก แต่ได้เพิ่มลูกเล่นที่น่าสนใจเข้าไปหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการสร้างโปรไฟล์ซึ่งถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ดีมาก เพราะในบ้านหนึ่งหลังมีคนใช้ทีวีหลายคน แต่ละคนก็มีพฤติกรรมการดูคอนเทนต์แตกต่างกันไป การที่สามารถสร้างโปรไฟล์แยกได้แบบนี้ก็ช่วยให้ผู้ใช้แต่ละคน ใช้ทีวีได้อย่างสะดวกมากขึ้น

เรื่องแอปพลิเคชันที่มีอยู่บน webOS 22 แทบจะรองรับทุกสตรีมมิ่งยอดฮิตในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Apple TV, Amazon Prime Video, HBO Go, WeTV และล่าสุด Disney+ Hotstar ก็มีมาลงแล้ว ทิ้งท้ายด้วย Bilibili แอปฯ ดูแอนิเมชันที่กำลังมาแรงในตอนนี้ก็มาลงแล้วเช่นกัน

LG G2 รองรับการสั่งงานด้วยเสียงทั้ง LG ThinQ AI และ Google Assistant ในการใช้งาน LG ThinQ AI สามารถสั่งงานได้เลยโดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนการตั้งค่าอะไร และยังสามารถสั่งงานแบบ Hands-free Voice Control สั่งงานโดยที่ไม่ต้องใช้รีโมท ส่วนการสั่งงานผ่าน Google Assistant จะต้องเปลี่ยนภาษาเครื่องให้เป็นภาษาไทยเสียก่อน

ถ้าอยากใช้ Google Assistant ต้องเปลี่ยนภาษาเครื่องเป็นภาษาไทย

Multi View ฟีเจอร์ที่สามารถแสดงภาพจากสองอินพุตพร้อม ๆ กัน โดยสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงแบบ Side By Side หรือ Picture in Picture เพียงแต่ในเฟสแรกฟีเจอร์นี้ยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนัก หากเราเลือกจอแรกเป็นสัญญาณจาก Live TV, HDMI, YouTube อีกหนึ่งจอจะต้องเป็น USB Camera, Miracast หรือ YouTube เท่านั้น ต้องรอเฟสถัดมาถึงจะเปิดใช้งานร่วมกับแหล่งสัญญาณอื่น ๆ ได้หลากหลายมากขึ้น เช่น YouTube + Airplay

Screen Mirroring ได้ทั้ง Android / iOS
จัดการอุปกรณ์ IOT ภายในบ้านได้จาก Home Dashboard

Conclusion – สรุป

ข้อดีของ LG 65OLEDG2

  • กรอบทีวีสวย แขวนแล้วแนบชิดติดผนัง
  • พาเนล OLED evo ให้ความสว่างมากกว่าพาเนล OLED ทั่วไป ทั้งยังได้ความดำที่ดำสนิท
  • ปรับภาพแล้วได้สีสันที่เที่ยงตรงแม่นยำ ทั้ง SDR / HDR
  • ได้ HDMI 2.1 ทั้ง 4 ช่อง รองรับ VRR (G-Sync, FreeSync) พร้อม Game Optimizer ช่วยให้การเล่นเกมดีขึ้น
  • ฟีเจอร์ Always Ready เปลี่ยนทีวีให้กลายเป็นกรอบภาพแสดงผลงานศิลปะ
  • รองรับการสั่งงานด้วยเสียงทั้ง LG ThinQ AI / Google Assistant
  • มีแอปฯ Disney+ Hotstar

ข้อจำกัดของ LG 65OLEDG2

  • ออกแบบมาสำหรับแขวนผนัง (ขาแขวนแถมให้อยู่แล้ว) หากใครอยากจะเอาไปตั้งต้องซื้อขาตั้งเพิ่มเอง
  • การจะใช้งาน Google Assistant ต้องเปลี่ยนภาษาเครื่องเป็นภาษาไทย ถ้าใช้ได้แบบไม่ต้องเปลี่ยนจะดีมาก
  • ปุ่ม Disney+ บนรีโมท ไม่ได้ลิงก์กับแอปฯ Disney+ Hotstar แต่พาเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ Disney+ Hotstar แทน

ถือว่ารวมเอาที่สุดของเรื่องภาพ และดีไซน์มาไว้แล้วบน 65OLEDG2 ไม่ว่าจะเป็นขาแขวนในกล่องแบบพิเศษที่พอติดตั้งแล้วจะทำให้ทีวีแขวนได้แนบชิดติดผนัง รวมกับเทคโนโลยีภาพ OLED evo ที่ให้ความสว่างได้สูงมากขึ้น ได้ HDMI 2.1 ทั้ง 4 ช่อง ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องต่อกับช่องไหนเป็นพิเศษ ด้านอุณหภูมิสี / ความเที่ยงตรงถึงจะไม่ได้เป๊ะมาตั้งแต่โรงงาน หลังปรับจูนแล้วก็ถือว่าเยี่ยมมาก ด้านสมาร์ททีวีก็ใช้งานง่ายอยู่แล้วเพราะมี Magic Remote แถมเป็นเจ้าแรก ๆ ที่มีแอปฯ Disney+ Hotstar รองรับการสั่งงานด้วยเสียงด้วย

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
9.25
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
8.75
ภาพ 2 มิติ หลังปรับภาพ (2D Picture Post-Calibrated)
9.00
ภาพ 2 มิติ (HDR)
9.00
เสียง (Sound)
9.00
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
9.00
ลูกเล่น (Features)
9.00
ความคุ้มค่า (Value)
8.25
คะแนนตัดสิน (Total)
8.90

LG 65OLEDG2

8.9

ราคาของ LG OLEDG2

  • 55OLEDG2 86,990 บาท
  • 65OLEDG2 114,990 บาท
  • 77OLEDG2 169,990 บาท
  • ขาตั้ง Gallery Stand ราคา 11,990 บาท