22 Nov 2021
Review

รีวิว Samsung 55Q65AAK QLED TV + HW-S61A Lifestyle Soundbar 5.0 คู่หูภาพสวยเสียงดี ราคาเบา


  • ชานม

ภาพ

Q65A ให้โหมดภาพมาทั้งหมด 5 โหมด ถึงแม้จะใช้ชื่อเดียวกัน แต่ระบบจะแยกค่าภาพเมื่อรับชม SDR และ HDR content ออกจากกัน สามารถปรับตั้งค่าภาพได้โดยอิสระ

– SDR –

ผล Lab Test พบว่า Filmmaker Mode ของรุ่น 55Q65A ไม่ได้มีความแตกต่างจาก Movie ซึ่งทั้งคู่ให้ความเที่ยงตรงอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นอานิสงส์จาก Dual LED โดยทาง Samsung จะติดตั้งหลอด Edge LED Backlight มา 2 ชุด ให้แสงโทนเย็น 1 ชุด และโทนอุ่น 1 ชุด จึงให้สมดุลแสงขาวที่เที่ยงตรงใกล้เคียงมาตรฐานอ้างอิงมากกว่าแสงโทนเดียว

Filmmaker Mode และ Movie จะให้ภาพดูนุ่มนวลสบายตา ไม่เร่งความคมชัด ปรุงแต่งสีสัน หรือแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหว จึงให้ความเป็นธรรมชาติสูงเหมาะแก่การรับชมในบ้าน แต่แน่นอนว่าถ้าเทียบกับโหมดอื่น ความสว่างจะต่ำกว่า และสีสันจะดูไม่สดจี๊ดจ๊าดนัก ทั้งนี้ในบางสภาพแวดล้อมหากรู้สึกว่าภาพ Movie หรือ Filmmaker Mode ดูสว่างหรือมืดเกินไปเมื่อรับชม SDR content ก็สามารถปรับเพิ่มลดความสว่างที่ตัวเลือก “Brightness” ได้ตามความเหมาะสม

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล SDR Calibration Report>

โหมดภาพ Filmmaker Mode (หรือ Movie) มีอุณหภูมิสีเฉลี่ยอยู่ที่ราว 6600K ค่าความผิดเพี้ยนสมดุลแสงขาวเฉลี่ย (Grayscale Avg dE) และขอบเขตสี (Color Space Avg dE) ดีมาก ต่ำกว่า 2 ทั้งคู่ (1.5 และ 1.7 ตามลำดับ) การใช้งานตามบ้านอาจไม่จำเป็นต้องปรับภาพเพิ่ม

หากต้องการ รุ่นนี้สามารถปรับภาพแบบลงลึกได้ ค่าความผิดเพี้ยน Grayscale Avg dE และ Color Space Avg dE ลดต่ำลงมาเหลือเพียง 0.6 และ 1 เท่านั้น

Rec.709 Color Checker หลังดำเนินการปรับภาพ ก็ให้ผลลัพธ์ดีขึ้นตามคาด ค่าความผิดเพี้ยนสีโดยรวมแบบเฉลี่ย (Saturation Avg dE) ที่ 0.7 (Max dE = 1.9) ดีมาก จะใช้อ้างอิงทำงานกราฟิก-ตัดต่อวิดีโอ แทนมอนิเตอร์ก็สามารถทำได้

– HDR –

การแสดงผล HDR รุ่น 55Q65A รองรับมาตรฐาน Static HDR ทั้ง HDR10 และ HLG ส่วน Dynamic HDR รองรับมาตรฐาน HDR10+ โดยสามารถให้ระดับความสว่าง HDR Peak Brightness (10% Window) 479 nits ในโหมด Standard (สูงกว่า Dynamic) ขณะที่โหมดความเที่ยงตรงสูงอย่าง Movie/Filmmaker ความสว่างจะเพลาลงมาอยู่ที่ 401 nits ตัวเลขอาจดูไม่สูงนัก แต่เมื่อเทียบกับราคาถือว่าโอเค

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล HDR Calibration Report>

ความเที่ยงตรงของสีสัน HDR ในโหมด Movie/Filmmaker ของ 55Q65A นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก (Grayscale Avg dE 4.1, Colorspace Avg dE 4.8) ส่วนขอบเขตสี HDR Color Space ทำได้ครอบคลุม 90.82/94.27% ของมาตรฐาน DCI-P3 (xy/uv) หรือเทียบเท่า 66.74/73.89% Rec2020 (xy/uv) อันเป็นอานิสงส์จากเทคโนโลยี Quantum Dot

และเช่นเคย ว่าหลังปรับภาพ HDR ในโหมด Movie/Filmmaker ให้ความเที่ยงตรงโดดเด่นขึ้น (Grayscale Avg dE 3.4, Colorspace Avg dE 1.5) ความสว่าง HDR Peak Brightness จะลดลงเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ 378 nits

แม้รุ่นนี้จะยังไม่มี Local Dimming ช่วยควบคุมหรี่แสง LED Backlight เป็นโซน ๆ แบบรุ่นสูง ทว่าก็คุมระดับคอนทราสต์ได้ดีมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกัน และถ้ามองแง่ดีเมื่อไม่ดิมแสงก็จะไม่มีปัญหาแสงวูบวาบ (ซึ่งอาจเป็นปัญหากับบางรุ่นที่ใช้ LED Global Dimming หรี่แสงทั้งจอไม่ได้แบ่งโซน) ส่วนเรื่องของการคุมระดับ Black Level ส่วนหนึ่งต้องยกอานิสงส์ให้พาเนลแบบ VA อาการแสงฟุ้งจึงน้อย แต่แนะนำรับชมมุมตรง
55Q65A มี Motion แทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหว อันมีส่วนช่วยให้การรับชมคอนเทนต์เฟรมเรทต่ำ ดูไหลลื่นขึ้นได้ สามารถกำหนดระดับการแทรกเฟรมได้ละเอียด ผ่านตัวเลือก Judder Reduction
ด้านการเล่นเกม Q65A ยังมาพร้อมฟีเจอร์ ALLM หรือ Auto Low Latency Mode ซึ่งจะปรับสถานะการแสดงผลเข้าสู่ “Game Mode” อัตโนมัติเมื่อมีการเชื่อมต่อสัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์ หรือเกมคอนโซล ภาพอาจจะติดโทนเย็นไปนิด แต่สามารถปรับอุณหภูมิสีชดเชยได้ ส่วนแถบ Game Bar ใช้ตรวจสอบสถานะ และตั้งค่าการแสดงผลเกมต่างๆ ได้สะดวกเช่นเคย
การเชื่อมต่อกับ PC หรือเครื่องเกมคอนโซลนั้น 55Q65A รองรับความละเอียด 4K 60Hz และ 1080p 60Hz พร้อมเปิดการแสดงผล HDR10 ได้ แต่ยังไม่รองรับ 120Hz และ VRR ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดคาดสำหรับรุ่นระดับราคานี้

ค่า Input Lag ที่ 4K 60Hz วัดได้ต่ำเพียง 9.5 ms ! รุ่นนี้ยังให้ทางเลือกเพิ่มเติมการจำลองแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหวขณะเล่นเกมที่มีชื่อเรียกว่า Game Motion Plus โดยจะกระทบกับ Input Lag เล็กน้อย อยู่ที่ 25.5 ms แต่โดยทั่วไปคงไม่มีความจำเป็นต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้