21 Jul 2021
Review

รีวิว Hisense 55U7G ULED TV รุ่นคุ้ม ดีไซน์ลงตัว มาตรฐานภาพจัดเต็ม!!


  • JoJo

Extra – เพิ่มเติม

ระบบปฏิบัติการ Smart TV ของ Hisense 55U7G ใช้เป็น VIDAA U5 เวอร์ชั่นใหม่มีการปรับปรุงหน้าตาอินเตอร์เฟสให้ดูดี และสีสันสวยงามขึ้น มีการแบ่งหมวดหมู่แอปฯ ได้ชัดเจน รวมถึงแอปฯ สามัญประจำทีวีที่ต้องมีทุกเครื่องอย่าง Netflix, Amezon Prime Video และ YouTube ยังคงให้มาเช่นเคยถึงแม้แอปฯ ที่ให้มาจะดูไม่มากเท่าระบบอื่น แต่ก็ถือว่ามีการอัปเดตแอปฯ ใหม่อย่าง UEFA.TV, iQIYI มาให้รับชมบนทีวีได้แล้วในตอนนี้

*ประมาณเดือน สิงหาคม – กันยายน ปีนี้จะมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้สามารถใช้การ “สั่งงานด้วยเสียง” ผ่านรีโมทได้

สีสันสวยงาม ไอคอนแอปฯ ใหญ่ชัดเจน

แอปฯ Netflix รองรับภาพ 4K Dolby Vision และระบบเสียง Dolby Atmos (DD+) เราสามารถเชื่อมต่อชุดเครื่องเสียงหรือลำโพงซาวด์บาร์ผ่านช่องต่อ HDMI ที่รองรับ ARC/eARC บนทีวีได้เลย

ส่วนการเข้ารับชมแอปฯ Disney+ Hotstar ในตอนนี้ยังต้องทำผ่าน Web Browser อยู่แต่ถือว่าดูแก้ขัดได้
YouTube สามารถดูคลิปวิดีโอแบบ 4K HDR ได้ด้วย

Picture – ภาพ

Hisense 55U7G นั้นใช้พาแนลแบบ VA (Vertical Alignment) ความละเอียด 4K (3840×2160) มีจุดเด่นเรื่องความเปิดโปร่งรวมถึงคอนทราสต์ของภาพที่สูง ผนึกกำลังกับเทคโนโลยี Quantum Dot เข้าไปอีกทำให้ภาพที่ได้นั้นมีขอบเขตสีที่กว้างขึ้น และสามารถหรี่หลอด LED Backlight ที่เป็นแบบ Full-Array Local Dimming ได้ดีพอประมาณเนื่องจากมีโซนหลอดไฟทั้งหมด 72 โซน ช่วยให้การแสดงภาพในฉากมืดนั้นเนียนมากยิ่งขึ้น ต่างกับทีวีที่ใช้การวางหลอดไฟแบบ Edge LED

ซึ่งระดับ Local Dimming ที่ผมแนะนำให้ปรับใช้คือ Medium ทั้งโหมดการรับชม HDR และ SDR เนื่องจากการปรับระดับแสง Bakclight จะดูเป็นธรรมชาติกว่า ไม่กระชากมาก
ทีมงานใช้เครื่องมือปรับภาพระดับมาตรฐานสูงในการปรับภาพ และวัดค่าภาพ 55U7G พบว่าให้ผลออกมาดี
โหมดภาพเมื่อรับชม SDR Content มีทั้งหมด 5 โหมด

ซึ่งโหมดภาพจากโรงงานที่ผมแนะนำให้ใช้งาน คือ Cinema Day หรือ Cinema ​Night ก็ได้ โดยให้สีสัน และความเที่ยงตรงนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีใกล้เคียงกับมาตรฐานมากที่สุดโดยมีค่า Grayscale Avg DeltaE = 3.2, 3.6 เมื่อปรับภาพแล้วลดลงเหลือ 2

55U7G รองรับมาตรฐาน HDR หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น HDR10,HDR10+, Dolby Vision, HLG สามารถใช้รับชมภาพยนตร์หรือคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

โหมดภาพ HDR ที่ให้ระดับความสว่าง HDR Peak Brightness สูงสุด คือ HDR Standard ที่ 680 nits แต่โหมดที่แนะนำ คือ HDR Day หรือ HDR Night เพราะความเพี้ยนสีต่ำกว่า (Grayscale Avg DeltaE = 7.2 และจะลดลงเหลือ 3.6 หลังปรับภาพ) ส่วนขอบเขตสีอยู่ที่ 94% ของมาตรฐาน DCI-P3 ถือว่าเป็นทีวีรุ่นกลางที่ให้ภาพที่ดี เกินราคาค่าตัวพอสมควรเมื่อเทียบกับทีวีแบรนด์อื่นในรุ่นที่ราคาพอๆ กัน

การรับชมคอนเทนต์ที่เป็น Dolby Vision ก็มีโหมดภาพให้เลือกปรับได้เช่นกัน

ส่วนการตั้งค่าภาพเคลื่อนไหวนั้น โหมด Film ก็ถือว่าใช้งานได้เลยหรือหากต้องการความไหลลื่นหรือปรับลดการสะดุดด้วยตัวเองก็ทำได้ผ่านการตั้งค่าแบบ  Custom 

สำหรับการเล่นเกม Hisense 55U7G นั้นมีฟีเจอร์ ALLM (Auto Low Latency Mode) หรือการเข้าสู่ Game Mode แบบอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อใช้งานโหมดนี้แล้วปิดการใช้งานฟีเจอร์การแทรกเฟรมภาพด้วยแล้ว Input Lag จะเหลือเพียงประมาณ 13 ms เท่านั้นในการใช้งานแบบ 4K@60Hz

*หมายเหตุ: กรณีที่ต้องการ On ตัวเลือก Game Mode เอง (เพื่อความชัวร์) ให้ทำการ Off – Auto Low Latency Mode ก่อน จะสามารถปรับเปลี่ยนตัวเลือก Game Mode ได้

หากต้องการเล่นเกมแบบ High Refresh Rate 120Hz นั้น ตัวทีวีสามารถเล่นได้บนความละเอียดภาพแบบ 1080p เท่านั้นต้องทำการตั้งค่าที่ตัว PC หรือ เครื่องเกมของเราเสียก่อน ตรงส่วนนี้ก็จะช่วยให้ Movement การแพนมุมมองภายในเกมนั้นไหลลื่นขึ้นยิ่ง และส่งผลต่อการตอบสนองที่ดีขึ้นอีกด้วย (Input Lag ต่ำลง)

เล่นเกมแบบ 120Hz นั้นช่วยให้การควบคุมนั้นตอบสนองได้เร็วขึ้นจริง