Picture – ภาพ
LG 86QNED99SQB ถือเป็นทีวี ความละเอียดภาพ 8K (7680x4320p) ที่ผนึกกำลังกับเทคโนโลยี Quantum Dot NanoCell Mini LED Backlight เป็นหลอดไฟขนาดจิ๋ว จำนวนมากเรียงตัวกันเพื่อให้ความสว่างและขอบเขตสีที่มากและกว้างยิ่งขึ้น ซึ่ง Dimming Zone ของ 86QNED99SQB ตัวนี้จะอยู่ประมาณ 2,400 Zone ส่งผลให้การเก็บรายละเอียดฉากมืดหรือพื้นหลังสีดำทำได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น และให้ความสว่างสูงสุด หรือ Peak Brightness ได้ถึง 3,100 nits จากการทดสอบค่าระดับ Local Dimming ที่แนะนำให้ใช้งานคือ Low เนื่องจากเวลาภาพเคลื่อนไหวไปมาแบบรวดเร็วจะไม่ส่งผลให้แสงวูบวาบจนเกินไป
เสริมมุมมองการรับชมภาพให้กว้างขึ้นด้วยพาแนลหน้าจอ ADS (Advanced Super Dimension Switch) ไม่ว่าจะรับชมจากมุมไหนของห้อง สีสันของภาพยังคงสดอิ่มเฉกเช่นเดิม ไม่จำเป็นต้องนั่งแต่มุมตรงอย่างเดียวเท่านั้น
ขับประสิทธิภาพด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง α9 Gen5 AI Processor 8K ที่ช่วย Upscaling ภาพ 4K ไปเป็น 8K หรือรับชมกับคอนเทนต์ที่มีความละเอียดภาพ 8K แบบ Native จะช่วยแสดงศักยภาพที่แท้จริงของทีวี ออกมาได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด สังเกตจากรายละเอียดของขนนกที่คมและแยกแยะออกจากกันได้ ซูมดูภาพใกล้แบบนี้ก็ยังคมชัด
ในด้านของความเที่ยงตรงของสีจากโหมดภาพของ 86QNED99SQB นั้นแบ่งเป็น 2 ประเภท คือการรับชมแบบ SDR และ HDR
– SDR –
เริ่มจาก SDR โหมดภาพที่ให้ค่าความเที่ยงตรงและใกล้เคียงมาตรฐานภาพมากที่สุดคือ Filmmaker จะมีค่า Delta E (Color Space) อยู่ที่ 5.5 และ Delta E (Grayscale) อยู่ที่ 3.3 ใช้รับชมคอนเทนต์ประเภท SDR ได้แทบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรายการทีวี หรือวิดีโอจาก YouTube
<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล SDR Calibration Report>
หลังจากที่ทำการ Calibrate โหมดภาพ Filmmaker ปรากฏว่าค่า Delta E (Color Space) ดีขึ้นอยู่ที่ 1.2 และ DeltaE (Grayscale) อยู่ที่ 0.7 ถือว่าทำสมดุลของภาพนั้นเข้าใกล้มาตรฐานขึ้นไปอีก
– HDR –
ในส่วนการแสดงผลแบบ HDR โหมดภาพที่ให้ค่าความเที่ยงตรงและใกล้เคียงมาตรฐานภาพที่สุดคือ Filmmaker จะมีค่า Delta E (Colo rSpace) อยู่ที่ 3.3 และ Delta E (Grayscale) อยู่ที่ 4.9 สมดุลภาพอยู่ในเกณฑ์ดีตั้งแต่ต้น มีขอบเขตสีกว้างถึง 94.95% ของมาตรฐานภาพ DCI-P3 อีกทั้งยังทำความสว่างสูงสุดได้ถึง 3,169 nits หากเทียบตามหลักเกณฑ์ภาพแล้วถือว่า 86QNED99SQB ตัวนี้ผ่านมาตรฐาน Ultra HD Premium
<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล HDR Calibration Report>
หลังจากทำการ Calibrate ปรากฏว่าโหมดภาพ Filmmaker มีค่าสมดุลแสงสีของภาพที่ใกล้เคียงมาตรฐานภาพและดีที่สุดเช่นเคยโดยมีค่า DeltaE (ColorSpace) อยู่ที่ 3.8 และ DeltaE (Grayscale) อยู่ที่ 3.3
แต่หากรับคอนเทนต์ที่ใช้มาตรฐานภาพเป็น Dolby Vision โหมดภาพจะถูกปรับเปลี่ยนลดลง ซึ่งโหมดภาพที่ผมแนะนำให้ใช้หลักคือ Dolby Vision Cinema Home จะเหมาะกับรับชมในห้องสว่าง แต่หากรับชมในห้องที่มีแสงสลัวลงมาหน่อยโหมดภาพที่แนะนำคือ Dolby Vision Cinema ครับ
สำหรับฟีเจอร์แทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหวหรือ TruMotion ในปีนี้ยังคงมีมาให้เช่นเคย โดยผมแนะนำให้ปรับค่า D-Judder เป็น 3 จะช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นอยู่ในเกณฑ์กำลังดี ดูแล้วยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่
Game Mode – การเล่นเกม
จริงอยู่ที่ 86QNED99SQB ตัวนี้รองรับความละเอียดภาพสูงสุดอยู่ที่ 8K@60Hz ซึ่งมีเพียงแค่ PC ที่สเปกการใช้งานสูงๆ เท่านั้นที่จะสามารถขับประสิทธิภาพเกมออกมาได้ในความละเอียดเท่านี้ แต่เครื่องเกม Console ในปัจจุบันที่กำลังนิยมกันอย่างพวก Xbox Series X / PlayStation 5 นั้นรองรับภาพได้สูงสุดที 4K@120Hz เจ้า 86QNED99SQB ก็รองรับความละเอียดภาพที่ 4K พร้อม Refresh Rate 120Hz เช่นกัน
นอกจากนี้ LG ยังคงใส่ใจคอเกมเช่นเคยโดยมีโหมดภาพ Game Optimizer พร้อม Game Dashboard มาให้เช่นเคย ภายในจะมีการตั้งค่าภาพสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ มีฟีเจอร์ป้องกันการเกิดภาพฉีกขาดอย่าง FreeSync Premium ซึ่งการใช้งานโหมดเกมนี้จะช่วยลดค่าความหน่วงต่อการตอบสนองจอยโดยมีค่า Input Lag อยู่ที่ 14.5 ms สำหรับการแสดงผลแบบ 60Hz และหากใช้งานแบบ 120Hz การตอบสนองก็จะยิ่งรวดเร็วขึ้นไปอีก