07 Nov 2022
Review

รีวิว LG 86QNED99SQB ทีวี 8K รุ่นใหญ่ไซส์ยักษ์ คุมดำดี สว่างทะลุ 3,000 nits


  • JoJo

Picture – ภาพ

LG 86QNED99SQB ถือเป็นทีวี ความละเอียดภาพ 8K (7680x4320p) ที่ผนึกกำลังกับเทคโนโลยี Quantum Dot NanoCell Mini LED Backlight  เป็นหลอดไฟขนาดจิ๋ว จำนวนมากเรียงตัวกันเพื่อให้ความสว่างและขอบเขตสีที่มากและกว้างยิ่งขึ้น ซึ่ง Dimming Zone ของ 86QNED99SQB ตัวนี้จะอยู่ประมาณ 2,400 Zone ส่งผลให้การเก็บรายละเอียดฉากมืดหรือพื้นหลังสีดำทำได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น และให้ความสว่างสูงสุด หรือ Peak Brightness ได้ถึง 3,100 nits  จากการทดสอบค่าระดับ Local Dimming ที่แนะนำให้ใช้งานคือ Low เนื่องจากเวลาภาพเคลื่อนไหวไปมาแบบรวดเร็วจะไม่ส่งผลให้แสงวูบวาบจนเกินไป

ภาพเปรียบโครงสร้างระหว่าง LED vs Mini LED

เสริมมุมมองการรับชมภาพให้กว้างขึ้นด้วยพาแนลหน้าจอ ADS (Advanced Super Dimension Switch) ไม่ว่าจะรับชมจากมุมไหนของห้อง สีสันของภาพยังคงสดอิ่มเฉกเช่นเดิม ไม่จำเป็นต้องนั่งแต่มุมตรงอย่างเดียวเท่านั้น

ขับประสิทธิภาพด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง α9 Gen5 AI Processor 8K ที่ช่วย Upscaling ภาพ 4K ไปเป็น 8K หรือรับชมกับคอนเทนต์ที่มีความละเอียดภาพ 8K แบบ Native จะช่วยแสดงศักยภาพที่แท้จริงของทีวี ออกมาได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด สังเกตจากรายละเอียดของขนนกที่คมและแยกแยะออกจากกันได้ ซูมดูภาพใกล้แบบนี้ก็ยังคมชัด

ในด้านของความเที่ยงตรงของสีจากโหมดภาพของ 86QNED99SQB นั้นแบ่งเป็น 2 ประเภท คือการรับชมแบบ SDR และ HDR 

– SDR –

เริ่มจาก SDR โหมดภาพที่ให้ค่าความเที่ยงตรงและใกล้เคียงมาตรฐานภาพมากที่สุดคือ Filmmaker จะมีค่า Delta E (Color Space) อยู่ที่ 5.5 และ Delta E (Grayscale) อยู่ที่ 3.3 ใช้รับชมคอนเทนต์ประเภท SDR ได้แทบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรายการทีวี หรือวิดีโอจาก YouTube 

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล SDR Calibration Report>

หลังจากที่ทำการ Calibrate โหมดภาพ Filmmaker ปรากฏว่าค่า Delta E (Color Space) ดีขึ้นอยู่ที่ 1.2 และ DeltaE (Grayscale) อยู่ที่ 0.7 ถือว่าทำสมดุลของภาพนั้นเข้าใกล้มาตรฐานขึ้นไปอีก

– HDR –

ในส่วนการแสดงผลแบบ HDR โหมดภาพที่ให้ค่าความเที่ยงตรงและใกล้เคียงมาตรฐานภาพที่สุดคือ Filmmaker จะมีค่า Delta E (Colo rSpace) อยู่ที่ 3.3 และ Delta E (Grayscale) อยู่ที่ 4.9 สมดุลภาพอยู่ในเกณฑ์ดีตั้งแต่ต้น มีขอบเขตสีกว้างถึง 94.95% ของมาตรฐานภาพ DCI-P3 อีกทั้งยังทำความสว่างสูงสุดได้ถึง 3,169 nits หากเทียบตามหลักเกณฑ์ภาพแล้วถือว่า 86QNED99SQB ตัวนี้ผ่านมาตรฐาน Ultra HD Premium

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล HDR Calibration Report>

หลังจากทำการ Calibrate ปรากฏว่าโหมดภาพ Filmmaker มีค่าสมดุลแสงสีของภาพที่ใกล้เคียงมาตรฐานภาพและดีที่สุดเช่นเคยโดยมีค่า DeltaE (ColorSpace) อยู่ที่ 3.8 และ DeltaE (Grayscale) อยู่ที่ 3.3

ภาพเป็นธรรมชาติ เฉกเช่นผู้กำกับต้องการให้สัมผัส

แต่หากรับคอนเทนต์ที่ใช้มาตรฐานภาพเป็น Dolby Vision โหมดภาพจะถูกปรับเปลี่ยนลดลง ซึ่งโหมดภาพที่ผมแนะนำให้ใช้หลักคือ Dolby Vision Cinema Home จะเหมาะกับรับชมในห้องสว่าง แต่หากรับชมในห้องที่มีแสงสลัวลงมาหน่อยโหมดภาพที่แนะนำคือ Dolby Vision Cinema ครับ

สำหรับฟีเจอร์แทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหวหรือ TruMotion ในปีนี้ยังคงมีมาให้เช่นเคย โดยผมแนะนำให้ปรับค่า D-Judder เป็น 3 จะช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นอยู่ในเกณฑ์กำลังดี ดูแล้วยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่

ลองรับชมกับภาพยนตร์ที่มีฉากเคลื่อนไหวไวๆ ก็ยังเอาอยู่ไม่รู้สึกว่าภาพกระดุกหรือลื่นไหลจนเกินจริง

Game Mode –  การเล่นเกม

จริงอยู่ที่ 86QNED99SQB ตัวนี้รองรับความละเอียดภาพสูงสุดอยู่ที่ 8K@60Hz ซึ่งมีเพียงแค่ PC ที่สเปกการใช้งานสูงๆ เท่านั้นที่จะสามารถขับประสิทธิภาพเกมออกมาได้ในความละเอียดเท่านี้ แต่เครื่องเกม Console ในปัจจุบันที่กำลังนิยมกันอย่างพวก Xbox Series X / PlayStation 5 นั้นรองรับภาพได้สูงสุดที 4K@120Hz เจ้า 86QNED99SQB ก็รองรับความละเอียดภาพที่ 4K พร้อม Refresh Rate 120Hz เช่นกัน 

นอกจากนี้ LG ยังคงใส่ใจคอเกมเช่นเคยโดยมีโหมดภาพ Game Optimizer พร้อม Game Dashboard มาให้เช่นเคย ภายในจะมีการตั้งค่าภาพสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ มีฟีเจอร์ป้องกันการเกิดภาพฉีกขาดอย่าง FreeSync Premium ซึ่งการใช้งานโหมดเกมนี้จะช่วยลดค่าความหน่วงต่อการตอบสนองจอยโดยมีค่า Input Lag อยู่ที่ 14.5 ms สำหรับการแสดงผลแบบ 60Hz และหากใช้งานแบบ 120Hz การตอบสนองก็จะยิ่งรวดเร็วขึ้นไปอีก

เล่นเกมบนจอยักษ์ใหญ่ 86” แบบนี้ถือว่าฟินเต็มตากันไปเลย