17 Jun 2021
Review

รีวิว TCL 50C725 4K QLED TV รุ่นเล็กแต่รองรับ HDR10+ Dolby Vision/Atmos พร้อม Android TV 11


  • ชานม

ภาพ

50C725 ใช้ LCD Panel แบบ VA (Vertical Alignment) มุมมองรับชมอาจไม่กว้างมากนัก แต่ก็ให้ระดับคอนทราสต์ที่ดี

– SDR –

รุ่นนี้ให้โหมดภาพสำหรับรับชมคอนเทนต์แบบ SDR มา 7 โหมด โดย Movie กับ Game/PC จะให้โทนภาพที่ใกล้เคียงกัน แตกต่างกันที่ความสว่าง และ Game/PC ไม่สามารถเปิดใช้ Motion Clarity แทรกเฟรมภาพได้ (ลดการประมวลผล เน้น Input Lag ต่ำ สำหรับการเล่นเกม)

ผล Lab Test พบว่าโหมดภาพที่ให้ผลลัพธ์เหมาะกับการรับชมภาพยนตร์ SDR คือ Movie (รวมถึง Game/PC) เพราะค่าความผิดเพี้ยนของสีต่ำกว่าโหมดอื่น ทว่าดุลสีจะติดแดงอยู่สักหน่อย และรายละเอียดในที่มืดออกจมหน่อย ๆ แต่สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ง่าย ๆ โดยปรับ Color Temperature เป็น -4 หรือ -3 และปรับเพิ่ม Black Level ขึ้นมาสัก 55 – 56 ก็สามารถใช้รับชมภาพยนตร์รายการบันเทิงต่าง ๆ ได้โอเคแล้ว แต่ถ้าจริงจังก็สามารถปรับภาพละเอียดเพิ่มเติมได้ หลังดำเนินการจะให้ผลลัพธ์คุ้มค่ามากทีเดียว

ทั้งนี้ในบางสภาพแวดล้อมหากรู้สึกว่าภาพ Movie (รวมถึง Game/PC) ดูสว่างหรือมืดเกินไปเวลารับชม SDR content ก็สามารถปรับเพิ่มลดความสว่างที่ตัวเลือก “Brightness”* ได้ตามความเหมาะสม

*หมายเหตุ: TCL เปลี่ยนชื่อตัวเลือกที่ใช้สำหรับปรับระดับความสว่าง จาก Backlight เป็น Brightness และเปลี่ยนตัวเลือก Brightness เดิม เป็น Shadow Detail

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล SDR Calibration Report>

ดังที่แจ้งไปว่าค่าเดิมๆ จากโรงงาน (Pre Calibration) สำหรับโหมด Movie (รวมถึง Game/PC) แม้ความผิดเพี้ยนของสีต่ำกว่าโหมดภาพอื่น (Grayscale Avg dE = 8.9, Colorspace Avg dE = 6.3) ทว่าดุลสีจะติดแดงไปบ้าง อุณหภูมิสีเฉลี่ย 5900K ส่วนขอบเขตสีจูนมาเกินมาตรฐาน Rec.709 ไปหน่อยโดยเฉพาะสีแดงและสีน้ำเงิน สีสันจะดูสดจัดไปบ้าง

แต่หลังดำเนินการปรับภาพ ค่าความผิดเพี้ยน Grayscale Avg dE และ Colorspace Avg dE จะลดลงมาเหลือแค่ 1 และ 2.4 ตามลำดับ ขอบเขตสีครอบคลุม 96.1% Rec.709

Rec.709 Color Checker หลังดำเนินการปรับภาพ ค่าความผิดเพี้ยนเฉลี่ย (Saturation Avg dE) อยู่ที่ 1 เท่านั้น (Max dE = 4.3) ผลลัพธ์ไม่ธรรมดาเลย

– HDR –

เรื่องของการรองรับมาตรฐาน HDR รุ่น 50C725 นั้นไม่ธรรมดา เพราะแสดงผล Static HDR และ Dynamic HDR ได้ครบครันทั้ง HDR10HLGHDR10+* และ Dolby Vision อย่างไรก็ดีด้วยยังเป็นรุ่นเริ่มต้น ความสว่างจึงทำได้จำกัด โหมด Vivid ทำ HDR Peak Brightness (10% Window) ได้ที่ 355 nits ขณะที่โหมด Movie (รวมถึง Game/PC) ความสว่างจะเพลาลงมาอยู่ที่ 290 nits

*หมายเหตุ: อ้างอิงสัญญาณภาพ HDR10+ จาก 4K HDR10+ Blu-ray Disc ผ่านเครื่องเล่น Oppo UDP-203

ด้วยเทคโนโลยี Quantum Dot ทำให้รุ่นนี้แสดงขอบเขตสีในแบบ Wide Color Gamut โดยทำได้ครอบคลุม 89/94.74% ของมาตรฐาน DCI-P3 (xy/uv) หรือเทียบเท่า 66.42/75.87% Rec2020 (xy/uv)

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล HDR Calibration Report>

เช่นเดียวกับ SDR ความเที่ยงตรงของสีสัน HDR ในโหมด Movie (Game/PC) มีค่าความผิดเพี้ยนของสีต่ำกว่าโหมดภาพอื่น (Grayscale Avg dE = 9.9, Colorspace Avg dE = 11.5) แต่ดุลสีจะติดแดงไปบ้าง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับชดเชย White Balance

อย่างไรก็ดี สำหรับโหมดการรับชมแบบ HDR จะไม่สามารถปรับชดเชย CMS (Color Management System มีตัวเลือก ให้ปรับ แต่ปรับแล้วผลลัพธ์ไม่เปลี่ยนแปลง) จึงไม่สามารถปรับจูนในส่วนของขอบเขตสี HDR ได้ แต่อานิสงส์ของการปรับแก้ White Balance ความเที่ยงตรงโดยรวมก็ดีขึ้นกว่าค่าโรงงาน (Grayscale Avg dE = 3.3, Colorspace Avg dE = 6.8) ความสว่าง HDR Peak Brightness หลังปรับภาพจะลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 277 nits

เนื่องจากเป็นรุ่นเริ่มต้น จึงยังไม่สามารถหรี่แสง LED Backlight ตามโซน (Local-dimming) แต่ C725 จะใช้วิธีหรี่แสงทั้งจอแทน (Global-dimming) ซึ่งอาจจะมีวูบวาบบ้าง แต่ก็ช่วยลดโอกาสเห็นแสงลอดในฉากมืด ๆ ได้

จุดหนึ่งที่พัฒนาขึ้นจากรุ่นปีที่แล้ว คือ TCL เพิ่มเติมระบบประมวลผลแทรกเฟรมภาพภาพเคลื่อนไหวใช้ชื่อว่า Motion Clarity มากับรุ่นนี้ด้วย ซึ่งช่วยให้คอนเทนต์เฟรมเรตต่ำ ดูไหลลื่นขึ้นได้ แต่แนะนำให้ปรับ Judder Reduction น้อย ๆ สัก 2 – 4 เพื่อไม่ให้ดูลื่นเกินจริงจนผิดธรรมชาติ และเกิดวุ้นรบกวนภาพเคลื่อนไหว