11 Sep 2018
Review

รีวิว Samsung 55NU8000 4K HDR LED TV เด่นทั้งดูหนัง และเหมาะกับการเล่นเกม อย่างแท้จริง !!?


  • ชานม

ภาพ

เปรียบเทียบสมดุลสีของโหมดภาพสำเร็จรูปจาก Samsung 55NU8000 (โหมด SDR และ HDR ให้สมดุลสีไปในแนวทางเดียวกัน)

สำหรับ Samsung โหมดภาพจากโรงงานกรณีที่รับชม SDR Content จะมีให้ 4 โหมด เช่นเคย แม้จำนวนไม่มาก แต่ก็ถือว่าใช้งานได้เน้นๆ เลือกปรับเปลี่ยนได้ยืดหยุ่นพอตัว ซึ่งผล Lab Test เป็นดังนี้ 

จากผลการตรวจวัดข้างต้นจะเห็นว่าปรับตั้งระดับ Backlight มาเต็มแทบทุกโหมด นัยว่าให้ใช้งานสู้แสงกันเต็มที่ แต่ในบางสถานการณ์เช่นการใช้งานในห้องที่คุมแสงรบกวนได้ หรือในเวลากลางคืน หากรู้สึกว่าแสงทีวีจ้าไป อาจต้องปรับลด Backlight ลงตามความเหมาะสม (ในการทดสอบผมปรับลงมาอยู่ที่ 27 สำหรับ SDR Movie Mode)
โหมดภาพจากโรงงานกรณีรับชม SDR Content ที่ให้ผลลัพธ์เที่ยงตรงที่สุด ยังคงเป็น Movie เช่นเคย ระดับ Gamma ทำได้ดีใกล้เคียงมาตรฐาน ITU BT.1886 มาก อุณหภูมิสีเฉลี่ย 6964K อาจติดม่วงอยู่นิดๆ (น้ำเงิน+แดง นำ) แต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ค่าความผิดเพี้ยนของสมดุลสี (dE) อยู่ที่ 9.12 ขอบเขตสีก็ทำได้ดีครอบคลุม 98.1% ของมาตรฐาน Rec.709
มาตรฐานทีวีของ Samsung สามารถไฟน์จูนปรับภาพเพิ่มเติมได้ละเอียดลำดับต้นๆ White Balance สามารถปรับได้ถึง 20-point รองรับการปรับ CMS ผลลัพธ์ที่ได้จึงยอดเยี่ยมดังคาด ค่าความผิดเพี้ยนของสมดุลสี (dE) ลดต่ำลงเหลือ 1.04 เท่านั้น! ขอบเขตสีเที่ยงตรงและขยายกว้างขึ้นเป็น 99% Rec.709
โหมดภาพจากโรงงานกรณีที่รับชม HDR Content อิงจำนวนตาม SDR แต่จะแยกพารามิเตอร์ออกมาไม่ปะปนกัน ในส่วนของการถ่ายทอดระดับความสว่างสูงสุด หรือ HDR Peak Brightness กลับเป็นโหมด Natural สูงสุดที่ 886 nits ในขณะที่ Movie ทำได้ดีไม่แพ้กันที่ 863 nits หย่อนจากข้อกำหนดของ Ultra HD Premium ที่ 1,000 nits ไม่มากนัก แต่ที่น่าสนใจคือรุ่นนี้ให้ขอบเขตสี Color Space ครอบคลุม 91.2% DCI-P3 รองรับ Wide Color Gamut ในส่วนของขอบเขตสี 55NU8000 ถือว่าผ่านมาตรฐาน Ultra HD Premium (>90% DCI-P3)
ในส่วนของโหมดภาพ HDR ที่ให้ความเที่ยงตรงใกล้เคียงมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์มากที่สุด ไม่พ้น Movie เหมือนเดิม โดยอุณหภูมิสีเฉลี่ยอยู่ที่ 7124K การไล่ระดับความสว่างทำได้ดีใกล้เคียง EOTF Curve มีตกเพียงนิดเดียวช่วง 70IRE
กรณีที่ต้องการความเที่ยงตรง สามารถ Calibrate เพิ่มเติมได้ โดย Samsung เปิดโอกาสให้ทำการปรับ 20-point White Balance และ CMS ได้ละเอียดเช่นเดียวกับ SDR (แยกพารามิเตอร์โหมดภาพ SDR และ HDR ออกจากกันโดยอิสระ) ผลลัพธ์สมดุลสีโดยรวมดีขึ้น ค่าความผิดเพี้ยน (dE) ลดเหลือเพียง 5.45 ระดับความสว่าง HDR Peakbrightness หลังทำการปรับ White Balance จะลดลงเล็กน้อยที่ 800 nits ขอบเขตสี 90.2% DCI-P3
55NU8000 มาพร้อมความสามารถรองรับการแสดงผล “HDR” ทั้งมาตรฐาน HDR10+, HDR10 และ HLG ทั้งการรับชมผ่าน HDMI In, USB (Video Files) และ Online Streaming (Netflix, Amazon Prime, YouTube)
55NU8000 มาพร้อมความสามารถควบคุมไฟส่องด้านหลัง (Backlight) แบบ Edge LED Local Dimming ถึงแม้การแบ่งโซนจะทำได้ไม่ละเอียดเหมือน Full-array Local Dimming แต่ผลลัพธ์ในแง่การคุมแสงลอดเพื่อให้ได้ระดับ Black Level ที่ดำลึกนั้นดีเกินคาด ฉากพื้นหลังสีดำแบบในภาพแม้ดิมไฟในห้องลงให้สลัวก็ยังเห็นแสงลอดจากทีวีออกมาน้อยมากเมื่อเทียบกับมาตรฐาน Edge LED TV ด้วยกัน เมือผนวกกับข้อดีของ VA Panel ให้คอนทราสต์ได้โดดเด่น แต่แนะนำให้รับชมมุมตรงและในแนวระดับสายตาเท่านั้น ในด้านการเกลี่ยแสง (Uniformity) ก็ทำได้ดีทั่วถึงทั้งในสถานะที่จอภาพแสดงพื้นขาวและดำ ไม่สว่างช้ำเป็นหย่อมๆ ดูไม่เท่ากัน

ถัดไป มาดูในส่วนของไฮไลท์เด็ดของ 55NU8000 ว่าในแง่ของการเล่นเกมนั้น รุ่นนี้สามารถตอบสนองได้โดดเด่นแตกต่างจากทีวีทั่วไปอย่างไรกันครับ…