11 Jul 2016
Review

สีสดสวย ! รีวิว Samsung 65KS7500 SUHD TV พร้อม HDR ดีงามตามท้องเรื่อง


  • lcdtvthailand

ภาพ

สเป็คด้านภาพของ Samsung 65KS7500 มีความละเอียดแบบ 4K Ultra HD 3840 x 2160 พิกเซล ใช้หน้าจอดำเงาช่วยลดแสงสะท้อนแบบ Ultra Black Panel (ชื่อเดิมคือ Ultra Clear Panel)  ใช้เทคโนโลยี Quantum Dot ช่วยขยายขอบเขตการแสดงสี พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด HDR ซึ่งย่อมาจาก High Dynamic Range ซึ่งหมายถึงเทคโนโลยีภาพแบบใหม่ในคอนเทนต์ 4K ที่สามารถให้ระดับความสว่างและความดำได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก รวมทั้งช่วยส่งเสริมสีสันให้มีความเจิดจรัสขึ้น โดยในสเป็คของ Samsung ระบุว่าเป็น HDR 1000 (ศัพท์เทคนิคทางกลารตลาดของ Samsung) ซึ่งหมายถึงรองรับมาตรฐาน HDR 10 และสามารถให้ระดับความสว่างสูงสุดได้เกิน 1000 nits ซึ่งสว่างกว่าทีวีทั่วไปถึง 2-3 เท่า ที่สำคัญที่สุดคือได้รับรองมาตรฐาน Ultra HD Premium ซึ่งภาพของ KS7500 ก็ต้องสอบผ่านข้อกำหนดหลายประการได้แก่

1. ระดับความสว่างสูงสุดเกิน 1000 nits 

2. ระดับความดำต่ำกว่า 0.05 nits

3. การแสดงขอบเขตของสีกว้างกว่า 90% ของ DCI P3 หรือมาตรฐานโรงภาพยนตร์ดิจิตอล

4. รองรับการแสดงเฉดสีแบบ 10 Bit (ใช้พาแนล 10 Bit แต่ทีวีทั่วไปมักเป็น 8 Bit)

5. รองรับการแสดงขอบเขตของสีมาตรฐานใหม่ในอนาคตอย่าง Rec 2020 ซึ่งกว้างกว่ามาตรฐานเดิมอย่าง Rec 709 มาก

ทดสอบจริงด้วยเครื่องมือวัด

– ระดับความสว่างสูงสุดก็ได้ถึง 1076 nits ในโหมด Movie – HDR 

– ขอบเขตของสีกว้างสุดก็ได้ถึง 93.9% ของมาตรฐานโรงภาพยนตร์ดิจิตอล DCI-P3 ในโหมด Movie – HDR เช่นกัน

หมายเหตุ

Samsung TV ปี 2016 ได้แบ่งทีวีที่มี HDR เป็น 2 แบบได้แก่
1) HDR 1000 ซึ่งได้มาตรฐาน Ultra HD Premium (Series 9 & 7) 

2) HDR Premium ซึ่งไม่ได้มาตรฐาน Ultra HD Premium (Series 6)

Pre Calibration – SDR Mode
Picture ModeCTTGammaLuminanceBacklightColourPower
avgavgfL ToneW
Dynamic153960.68186.5MaxCool165
Standard86481.46135.213Standard120
Natural87241.48131.3MaxStandard122
Movie60202.2559.68Warm297
Movie73362.1662.68Warm197
Calibrated (Movie)65502.2763.211Warm2114
โหมด Movie ให้อุณหภูมิสีใกล้เคียงกับค่าอ้างอิงมากที่สุด 6500K
จึงใช้เป็นโหมดภาพหลักในการปรับภาพและทดสอบ
สำหรับการ Calibrate ภาพสำหรับการแสดงภาพทั่วไป SDR : Standard Dynamic Range ผมเลือกใช้โหมด Movie ซึ่งให้อุณหภูมิสีได้ใกล้เคียงค่าอ้งอิงมากที่สุด ภาพถือว่าถูกต้อง ณ ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีติดล้นแดงไปบ้างเล็กน้อย (Color Temp เป็น Warm 2)
หลังจาก Calibrate 2 Point White Balance ก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจอย่างยิ่งยวด สมดุลแสงขาวมีความเที่ยงตรงขึ้นในระดับอ้างอิงเลย
ขอบเขตของสีกว้างสุดได้ถึง 93.9% ของมาตรฐานโรงภาพยนตร์ดิจิตอลหรือ DCI-P3 ซึ่งเกิน 90% นั่นเอง นั่นหมายถึงผ่านเกณฑ์ของมาตรฐาน Ultra HD Premium
แผ่นหนัง 4K Blu-ray แท้ๆที่ทีมงาน LCDTVTHAILAND ไว้ใช้อ้างอิงทดสอบ จะสังเกตได้ว่าขอบกล่องเป็น “สีดำ” แทนที่ “สีน้ำเงิน” แบบ Blu-ray ทั่วไป ที่สำคัญแทบทุกแผ่นจะให้ภาพแบบ HDR มานะครับ!
พระเอกของงานคือ Samsung UBD-K8500 : 4K Blu-ray Player รุ่นแรกของโลกและเครื่องแรกของไทย มาประจำการที่ LCDTVTHAILAND เป็นเครื่องเล่นที่อ้างอิงทดสอบหนัง 4K HDR แท้ๆ

ขอไม่รอช้าเริ่มทดสอบด้วยคอนเทนต์ 4K แท้ๆจากแผ่น 4K Blu-ray HDR เล่นด้วยเครื่องเล่น 4K Blu-ray Player รุ่นแรกของโลกและเป็นเครื่องแรกในไทย รุ่น UBD-K8500 โดยผมเปิดหนังเรื่อง Gods of Egypt (ซึ่งในไทยยังไม่มีขาย ผมซื้อที่ต่างประเทศ) โหมดภาพที่เลือกใช้คือ Movie ให้แสงสีที่สบายตาและถูกต้องกว่าโหมดภาพอื่นๆ เมื่อทีวี Detect เจอสัญญาณ HDR ก็จะโชว์คำว่า “An HDR video is playing” ขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ เป็นอันรู้กันว่านี่คอนเทนต์ HDR แท้ๆกำลังเล่นอยู่นะ…มิใช่กำมะลอ ! 

เมื่อเล่นคอนเทนต์ HDR ทีวีจะ Detect อัตโนมัติและแสดงคำว่า An HDR video is playing

ประเดิมฉากแรกที่ “เซธ” เทพเจ้าแห่งความชั่วร้าย มาบุกเมืองของเทพเจ้าฝั่งธรรมะ จังหวะต่อสู้ในหลายๆฉาก HDR ก็ได้สำแดงเดช ทั้งชุดเกราะสีทองที่วาววับ ฉากแสงสะท้อนของโล่ห์กระจกที่เฉิดฉายสะดุดตา หรือแม้กระทั่งฉากพระอาทิตย์สาดส่องที่แลสว่างกว่าคอนเทนต์ SDR : Standard Dynamic Range แบบจับต้องได้ ส่วนความละเอียดระดับ 4K แท้ๆ ซึ่งมิได้ถูกบีบอัดลงมาเป็นพวก .mkv ที่โหลดตามเว็บบิททั่วไป รวมถึงให้ “ความเนียนสะอาด” ปราศจากสากเสี้ยนแห่งอันกร้านหยาบที่เหนือกว่าแผ่น 1080p Blu-ray แบบชัดเจนหากเพ่งจับผิดแบบใกล้ๆ 

ความอร่ามของสีทองจากชุดเกราะและเครื่องประดับในเรื่อง Gods of Egypt (4K HDR)
ฉากโล่กระจกสะท้อนแสงเข้าตา จากเรื่อง Gods of Egypt ซึ่ง HDR ได้สำแดงเดชให้เห็น

หลังจากนั้นขอทดสอบหนัง 4K Blu-ray เรื่อง Smurfs 2 แบบ 4K HDR แท้ๆอีกเรื่อง เรื่องนี้มีข้อดีตรงที่มี ฉากมืด VS ฉากสว่าง ให้ได้ทดสอบเยอะ โดยเฉพาะฉากท้ายเรื่องที่กลุ่มพระเอกบุกไปช่วยครอบครัว Smurfs ที่ถูกเจ้า Gargamel วายร้ายของเรื่องจับไปขังกรง ฉากระเบิดพลังงาน Smurfs สามารถเปล่งแสงพลังงาน “สีน้ำเงินอันสว่างเรืองรอง” ได้อย่างระยิบระยับดูอร่ามตา ซึ่งสามารถตัดกับฉาก Background อันมืดสนิทได้อย่างลงตัว ส่วนใบหน้าจอง Smurffete (สเมิร์ฟสาว) ก็แสดงเป็นสีฟ้าที่เป็นธรรมชาติไม่ได้สดโดเวอร์เกินจริง จึงสรุปได้ว่า HDR ช่วยต่อยอดคุณภาพของภาพให้เหนือระดับขึ้นไปอีกขั้น สามารถแสดง “จุดสว่าง + จุดที่ควรเจิดจรัส + จุดที่มืดมิด และจุดที่แสงสีควรเป็นธรรมชาติ”ได้พร้อมกันทั้งหมดในฉากเดียว ซึ่ง KS7500 ก็สามารถสอบผ่านจุดนี้ได้ดีเกินความคาดหมาย

*** ฉากระเบิดพลังงาน Smurfs จนก่อให้เกิดแสงสีน้ำเงิน (คล้ายแสงเหนือ) ซึ่ง HDR สามารถช่วยสร้าง “ความเจิดจรัสวาววับ” ภายใต้ฉากหลังอันมืดสนิท หากเทียบกับทีวีที่ไม่มี HDR แสงสีน้ำเงินจะดูชืดไปเลย
ส่วนฉากที่สีฟ้าควรเป็นธรรมชาติอย่างใบหน้าของ Smurfette ก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างถูกต้อง

ส่วนการทดสอบกับแผ่นหนัง Blu-ray 1080p ทั่วไป ผมใช้หนังแผ่นดินไหวเรื่อง San Andres ในฉากที่พระเอกขี่เรือโต้คลื่นลูกยักษ์ การอัพสเกลภาพของ KS7500 นั้นถือว่าทำได้ดีทั้งเรื่องความคมชัดและภาพเคลื่อนไหว หากเทียบกับทีวี 4K UHD เมื่อหลายปีก่อนนี่มีพัฒนาการแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ผมนั่งดูใกล้ในระยะ 2 เมตร บรรยากาศการรับชมฉากแล่นเรือฝ่าคลื่นจัดได้ว่าลุ้นระทึกบีบหัวใจ ยอมรับว่าจอใหญ่ขนาด 65″ ผสานความโค้งโอบล้อม มีส่วนช่วยดึงเราเข้าไปใกล้ชิดเหตุการณ์มากขึ้น

Tip : ส่วนระดับความสว่างและเจิดจรัสของภาพ HDR แนะนำให้เปิดฟีเจอร์ Dynamic Contrast ระดับ High ไปเลย (ย้ำอีกทีเฉพาะคอนเทนต์ที่เป็น HDR เท่านั้นนะครับ) ส่วนคอนเทนต์ที่เป็น SDR ก็ปิดทิ้งไปตามระเบียบ

ฉากกลุ่มเด็กๆจากเรื่อง San Andres (Blu-ray 1080p) ให้สีผิวของคนได้เป็นธรรมชาติ
ฉากขี่เรือโต้คลื่นจากหนังเรื่อง San Andres (Blu-ray 1080p)

ระดับความดำอยู่ในเกณฑ์ดีใช้ได้ แต่มิอาจเข้าขั้นเพอร์เฟกต์ สำหรับ KS7500 ที่ใช้โครงสร้างหลอดไฟ Edge LED พร้อม Local Dimming ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยดิมไฟเป็นโซนตามฉากสว่าง-มืด ด้วยข้อจำกัดการวางหลอดไฟตามขอบบนและล่างของจอซึ่งจำเป็นต้องเปล่งแสงสว่างแทบตลอดเวลาเพื่อเลี้ยงภาพกลางฉาก จึงไม่สามารถทำฉากที่ควรมืดให้มืดสนิท 100% ได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของ Edge LED TV ทุกตัว การเปิดฟีเจอร์ Local Dimming ช่วยส่งเสริมความดำทางอ้อมก็ย่อมเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง 

โดยเปิดใช้งานในหัวข้อ Smart LED ใน Advanced Setting ซึ่งมี 3 ให้เลือกได้แก่ 

1) ระดับ Low จะให้ความสมดุลระหว่างการดิมไฟที่ไม่โฉ่งฉ่างจนเกินไปกับระดับความสว่างที่อยู่ในระดับพอดิบพอดี เหมาะกับคอนเทนต์แบบ SDR 

2) ระดับ High เหมาะกับขาโหดที่ชอบให้จุดมืด-จุดสว่างนั้นมีความต่างอย่างเด็ดขาด ตัววัตถุจะสว่างไสวกว่าด้วย คอนเทนต์จำพวก HDR ก็จะ ขึ้นกว่า” ระดับ Low

3) ระดับ Off  คือการปิดฟีเจอร์ Local Dimming เลย เหมาะกับพวกงานกราฟฟิก

จุดด้อยของ KS7500 นั้นคงเป็นเรื่อง มุมมองการรับชมด้านข้างที่มิได้กว้างมากนัก เพราะใช้พาแนลคู่บุญอย่าง VA : Vertical Alignment ฉะนั้นหากนั่งชมในมุมที่เฉียงมากภาพก็ยังมีซีดดร็อปให้เห็นงพอสมควร อย่างไรก็ตามหากนั่งชมในมุมตรง 90 องศา แบบเดียวกับการรับชมภายในบ้านแบบปกติทั่วไป สีสันก็มีความอิ่มเอิบสดใสกว่าจอพาแนลชนิดอื่น จะเรียกว่าได้อย่างก็เสียงอย่าง ไม่มีพาแนล LED-LCD ชนิดไหนที่สมบูรณ์เพอร์เฟกต์ 100%

สรุปได้ว่า Dynamic Range : ความสว่าง-ความมืด สำคัญกว่า Resolution : ความละเอียด เพราะเราเห็นต่างด้วยตาเปล่าได้ชัดแจ้งกว่าจริง Samsung KS7500 เป็น LED TV ที่มีความละเอียด 4K รองรับภาพแบบ HDR (มาตรฐาน HDR10) แถมยังสอบผ่านมาตรฐาน Ultra HD Premium การันตีว่าสามารถแสดงระดับความสว่าง ความดำและสีสันเหนือ 4K Ultra HD TV ทั่วไปอีกด้วย โดยรวมผมว่าคุณภาพของภาพของเจ้า KS7500 นั้นแอบเฉียดฉิว KS9000 รุ่นท็อปเลยแหละ ต่อไปหากท่านจะซื้อทีวีซักเครื่องผมแนะนำว่าหากจะเอารองรับอนาคตแบบจริงจัง จำไว้เลยว่าความละเอียดต้อง 4K ควรรองรับ HDR และหากเป็นไปได้ควรได้มาตรฐาน Ultra HD Premium ด้วยถึงจะครบสูตร !

<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 

Quantum Dot = ช่วยขยายขอบเขตของสีให้ “สุดขึ้น” เช่น แดงสดจี๊ด เขียวอี๋ น้ำเงินจัด

VS

HDR = ส่งเสริมความ เจิดจรัส” และ เรืองอร่าม” ของสีเหล่านั้น

<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>