ช่องต่อ
หลายท่านอาจสงสัย ทำไมต้องเสียบสายไฟที่ One Connect เพิ่มด้วย ทั้งนี้เนื่องจากสายไฟเบอร์อ็อพติก Invisible Connection นั้น ไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าจากทีวีกลับมาเลี้ยงวงจรที่อยู่ภายในกล่อง One Connect รุ่นใหม่ได้นั่นเอง ซึ่งจุดนี้ผมว่ามันก็เป็นข้อดีนะ ทั้งในแง่เสถียรภาพการส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าที่น่าจะสูงขึ้นจากภาคจ่ายไฟของตัวเอง อีกทั้งการสายสัญญาณที่ส่งผ่านสัญญาณภาพและเสียงด้วยแสงเพียวๆ ไม่มีสายไฟพ่วงอยู่ การรบกวนทางไฟฟ้าย่อมเป็นศุนย์ ซึ่งจะส่งผลดีกับคุณภาพของภาพและเสียง (โดยเฉพาะเมื่อต้องลากสายยาว)
การที่มีภาคจ่ายไฟอยู่ภายใน ทำให้กล่อง One Connect รุ่นใหม่ มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นกว่าเจนฯ ก่อนอย่างมีนัยสำคัญด้วยครับ ส่วนอุณหภูมิที่บอดี้ขณะใช้งานก็ไม่ได้ร้อนมากมายแต่อย่างใด
หากทำการอ้างอิงจำนวนช่องต่อจาก One Connect Box มีดังนี้
HDMI™ In | 4 (ด้านหลัง) |
USB | 3 (ด้านหลัง) |
Ethernet | 1 (ด้านหลัง) พร้อม Wi-Fi Built-In |
Composite In | 1 (ด้านข้าง ใช้ร่วมกับ Component) |
Component In | 1 (ด้านข้าง ใช้ร่วมกับ Composite) |
RF (Antenna) In | 1 (ด้านหลัง) พร้อม DVB-T2 Digital Tuner |
PC HD15 In | – |
Analog Audio In | 1 (Mini Jack ด้านข้าง ร่วมกับ Composite และ Component) |
Digital Audio In | 1 (Optical ด้านหลัง) |
Audio/Headphone Out | – |
Bluetooth Audio | Yes |
เพิ่มเติม
คุณสมบัติเด่นที่มาส่งเสริมแนวคิด Q Smart คือ ระบบ Smart TV ผ่าน Tizen OS ขณะเดียวกันการควบคุมสั่งการทีวีก็ได้รับการปรับปรุง ผ่านรีโมตคอนโทรลดีไซน์กะทัดรัด แต่มากด้วยประโยชน์ใช้สอย
ปีนี้ Samsung ทำการเปลี่ยนรีโมตคอนโทรลใหม่ โดยลดขนาดและจำนวนปุ่มลงให้ดูกะทัดรัด พร้อมๆ กับเพิ่มความสวยงาม แต่เห็นเล็กแบบนี้ก็ยังเพิ่มความสามารถเข้ามาด้วย หนึ่งในนั้นคือแนวคิด One Remote
แนวคิด One Remote คือ รีโมต QLED TV เพียงหนึ่งเดียว สามารถใช้ควบคุมอุปกรณ์อื่นที่เชื่อมต่ออยู่ในระบบได้ทันที ดูแล้วก็สะดวกดี เพราะไม่ต้องถือรีโมตหลายอัน แต่การใช้งานจริงจะเหมาะกับใช้ควบคุมฟังก์ชั่นพื้นฐาน อย่างเช่น ควบคุมการเล่นแผ่นของเครื่องเล่นบลูเรย์ หรือปรับเปลี่ยนช่องของ Cable TV Set top Box เป็นต้น
แต่จุดที่ผมชอบรีโมตของรุ่นนี้ คือ การรับ-ส่งสัญญาณ (เข้าใจว่าจะเป็นบลูทูช) ไม่จำเป็นต้องชี้รีโมตไปที่ทีวี หรือแม้แต่เดินออกห่างไม่เห็นหน้าจอทีวีก็ยังสั่งการผ่านรีโมตได้ แต่น่าเสียดายที่รีโมตของ QLED TV รุ่นใหม่นี้ ยังไม่มีความสามารถ Air Mouse ในตัว การควบคุมบางฟังก์ชั่นของ Smart TV จึงยังคงจำเป็นต้องเพิ่มเติมอุปกรณ์ภายนอกอย่างเมาส์ และ คีย์บอร์ด จะให้ความสะดวกคล่องตัวมากกว่า
Samsung Smart TV ยังคงรองรับ ระบบสั่งการด้วยเสียง โดยกดปุ่มรูปไมโครโฟนแล้วพูดผ่านรีโมตคอนโทรล ซึ่ง “คำสั่งเสียง” ที่รองรับ อาทิ HDMI, TV, USB (เปลี่ยนอินพุตช่องสัญญาณภาพและเสียง)
Play, Pause, Stop, Rewind, Fast Forward (ควบคุมการเล่น)
[Movie] Picture Mode หรือ Set Picture Mode to [Standard] (ปรับเปลี่ยนโหมดภาพ)… เป็นต้น
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำสั่งเสียง สามารถพูดว่า Help, What can I say หรือ User guide ได้