จอสุดบรรเจิด ! รีวิว Samsung Galaxy Tab S 10.5″ เหนือชั้นด้วยจอ AMOLED
วันนี้ผมได้ Samsung Galaxy TabS ขนาด 10.5″ มารีวิวครับ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ดีเนื่องจากเจ้า Galaxy Tab S ตัวนี้ใช้ตัวจอพาแนลเป็น AMOLED หรือ Active Matrix Organic Light Emitting Diode ซึ่งทีมงานเองเคยรีวิวจอทีวี OLED มาบ้างแล้ว และยังประทับใจศักยภาพมิรู้ลืม มาครั้งนี้เป็น Tablet บ้างก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้เอามาเปรียบเทียบกับพวก Tablet ที่ใช้จอแบบ LCD ทั่วไป จะเรียกว่าขออนุญาตจับชน “ตัวต่อตัว” ด้วยซะเลย เอาเป็นว่ามาดูสเป็คคร่าวๆกันก่อนเลย
Samsung Galaxy Tab S ขนาด 10.5″ มาพร้อมความความละเอียดหน้าจอละเอียดยิ่บ WQXGA 2560 x 1600 หรือ 4 ล้านพิกเซล มากกว่า Full HD ถึง 2 เท่า ใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED ซึ่งพิกเซลแม่อย่างสีแดง น้ำเงิน เขียว สามารถเปล่งแสงสีได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งหลอดไฟ LED ในการส่องสว่างเหมือนจอ LCD ทั่วไป ใช้ซีพียู Exynos 5 Octa Core (1.9 GHz Quad Core + 1.3 GHz Quad Core) ผนวกระบบปฏิบัติการ Android Kitkat 4.4.2 มี Memory 3 GB Ram, 16 GB Memory พร้อมช่องใส่ Micro SD Card ซึ่งรองรับสูงสุดถึง 128 GB กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่มีความจุ 7900 mAh จากจัดได้ว่าเป็น Tablet เกรด “ท็อปเอ็นด์” ในช่วงเวลานี้
ดีไซน์
มาดูเรื่องดีไซน์กันบ้าง ตัวที่ผมได้มาทดสอบเป็น Titanium Bronze คืออกแนวสีทองแดงอมทอง (น้ำตาล) แนวนาฬิการข้อมือหรูๆแบบ Rose Gold ยังไงอย่างนั้น ช่องใส่ Sim Card และ Micro SD อยู่ด้านขวา และปุ่ม Power และปรับระดับ Volume อยู่ด้านบน มีช่อง Speaker แบบ Stereo ซ้าย-ขวามาให้ด้วย ขนาดของตัวเครื่องมีความบางเพียง 6.6 มิลลิเมตรและมีน้ำหนักอยู่ที่ 465 กรัม ถือว่าบางแะเบามาก
ภาพ
มาทดสอบเรื่องภาพซึ่งจัดเป็นไฮไลท์ของเจ้า Galaxy Tab S ตัวนี้กันบ้าง ความละเอียดหน้าจอระดับ 2560 x 1600 พิกเซลขับเคลื่อนด้วยจอ Super AMOLED ซึ่งทีมงานเองเคยทดสอบ OLED TV VS LED-LCD TV มาแล้ว ก็ได้ประจักษ์ถึงประสิทธิภาพของชนิดจอแบบนี้ว่ามันสะท้านขนาดไหน ตัวเครื่องมีโหมดภาพ (Screen Mode) แอบซ่อนอยู่ในหน้า Setup ได้แก่โหมด 1) Adaptive หรือโหมดปรับแสงสีหน้าจอให้เหมาะสมกับคอนเทนต์อย่างอัตโนมัติ เช่นดูรูปอยู่ก็ปรับแสงสีให้เหมาะกับการดูรูป หรือเล่นเว็บเบราเซอร์ 2) โหมดภาพยนตร์ – Cinema 3) โหมดรูปภาพ – Photo 4) โหมดทั่วไป – Basic โดยผมทำการวัดค่าภาพของเจ้า Galaxy Tab S ตัวมิเตอร์และซอฟท์แวร์ตามมาตรฐาน ISF ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ทดสอบทีวีและโปรเจกเตอร์ และใช้ห้องทดสอบเป็นห้องแล็บโฮมเธียเตอร์ที่คุมแสงได้ 100% เพื่อความเที่ยงตรงและแม่นยำของค่าที่วัด
เริ่มทดสอบการใช้งานเริ่มจากรูปภาพนิ่งกันก่อน รูปสาธิตที่ Samsung ให้มาจะเน้นโชว์ศักยภาพของตัวจอทั้งเรื่อง “แสงและสี” คำว่า “แสง” ในที่นี้หมายถึง Dynamic Range ก็คือ “แสงสีขาวและสีดำ” นั่นเอง ด้วยโครงสร้างแบบ OLED ทำให้เม็ดพิกเซลเปล่งแสงเองได้ ในขณะเดียวกันเมื่อจำเป็นต้องแสดงสีดำก็สามารถปิดเม็ดพิกเซลแบบสนิท ไม่มีแสงแบ็คไลท์ลอดออกมา ทำให้สามารถแสดงสีดำได้ดำสนิทสุดใจมาก ในภาพทดสอบไม่ว่าจะเป็นฉากเจ้าลิงกอลลิล่า หรือฉากพระราชวังเรืองแสงท่ากลางท้องฟ้าอันมืดมิด Galaxy Tab S ก็ถ่ายทอดฉากความมืดได้อย่าง “ดำสงัด” ในขณะเดียวกันรายละเอียดในที่มืด (Shadow Detail) ที่ควรแสดงออกมาก็แสดงออกมาได้อย่างครบถ้วนปราศจากอาการดำจมที่มักเกิดขึ้นกับพวก Tablet ที่ใช้จอ LCD ราคาประหยัด
ถามว่าประหลาดใจหรือตื่นตะลึงไหม ? ก็คงตอบว่าไม่เท่าไหร่สำหรับตัวผมและทีมงานเพราะเคยทดสอบ OLED TV VS LED-LCD TV มาแล้วก็ได้ผลการทดสอบที่สอดคล้องเช่นนี้ ในขณะที่ระดับความสว่างก็สว่างได้ใจมาก สูงสุดถึงขนาด 100 fL (“ฟุตแลมเบิร์ต” เป็นหน่วยวัดความสว่าง) สว่างกว่าพวกจอทีวีหลายๆตัวที่เคยทดสอบมาเสียอีก แต่ก็ไม่แปลกเพราะ Tablet ต้องออกแบบมาใช้งานทั้ง Outdoor / Indoor จึงต้องทำให้สู้แสงได้ดี ฉะนั้นให้ใส่ใจกับแถบเพิ่มลดระดับความสว่างเพื่อปรับความสว่างให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม อย่าให้จ้าไปประเดี๋ยวจะแยงตาเกิน แนะนำเลือก Checkbox ของตัวปรับระดับความสว่างให้เป็น Auto มันมีเซ็นเซอร์วัดระดับแสงและปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสมอย่างอัตโนมัติ
หมายเหตุ : การทดสอบใช้รูปความละเอียด 2560 x 1600 เป็นความละเอียด Matching กับความละเอียดหน้าจอของตัวเครื่อง