27 Apr 2021
Review

รีวิว Samsung Odyssey G7 จอเกมมิ่งสุดแจ่ม ครบเครื่องสำหรับเกมเมอร์!!


  • tormoo

ภาพ

Samsung Odyssey G7 จะมาพร้อมกับจอ QLED ขนาด 32 นิ้ว แบบ Curve โดยจอมีความโค้งระดับ 1000R ตัวจอมีความละเอียด 2,560 x 1,440 อัตราส่วน 16:9 รองรับการแสดงผลแบบ HDR (รองรับ HDR10+) และ Refresh Rate สูงสุดถึง 240Hz ส่วนของฟีเจอร์ G-Sync จาก Nvidia และ AMD FreeSync Premium Pro จาก AMD จอรุ่นนี้ก็มีมาให้ใช้งานอย่างครบครัน

จากสัมผัสแรกที่ทางทีมงานได้ทดลองใช้เจ้าจอรุ่นนี้ก็บอกได้เลยว่า ตัวจอมีความใหญ่เต็มตามากจอให้ความรู้สึกที่โอบล้อมเพราะด้วยความที่เป็นจอแบบ Curve นั่นเองและเมื่อผนวกเทคโนโลยี QLED ที่ช่วยเติมเต็มพลังแสงสีให้จอขับภาพออกมาได้สดเด้งเจิดจรัสกว่า เมื่อเทียบกับจอ LED Monitor ทั่วไปทั้งการแสดงผลแบบ HDR และ SDR นอกจากนี้การใช้งานยังเต็มไปด้วยความลื่นไหลเพราะอัตรา Refresh Rate ระดับ 240Hz ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเล่นเกมครับ

ทดสอบการเล่นเกมบนจอรุ่นนี้ทำได้ยอดเยี่ยมในทุกมิติทั้งภาพและการตอบสนอง ไม่ว่าจะเป็นเกมประเภทไหนเจ้าจอรุ่นนี้ก็สามารถเอาอยู่ได้หมด ทั้ง FPS ที่เน้นในเรื่องของความไวของภาพและการตอบสนองที่ทันท่วงที หรือจะเป็นเกมในแนวอื่น ๆ ทั้ง MOBA ที่ทำได้เป็นอย่างดีด้วยจอขนาดใหญ่ทำให้เกมเมอร์สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ในหน้าจอได้อย่างชัดเจนอีกด้วย ส่วนในแนวเกมอื่น ๆ อย่าง Racing หรือ Fighting ก็ยอดเยี่ยมตามสไตล์ของ Samsung Odyssey เลยครับอีกทั้งยังเป็นจอที่มีอัตราส่วน 16:9 ทำให้เราไม่ต้องปรับสายตาในการเล่นเกมมากนัก

และเกมเมอร์สายคอนโซลก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับตัวจอรองรับการเล่นเกมความละเอียดระดับ 1080p 120Hz ได้ด้วยเหมือนกัน จะต่อจอเข้ากับ PS5 หรือ Xbox Series X จอรุ่นนี้ก็แสดงผลได้อย่างไหลลื่นเต็มพิกัดเลยครับ

ส่วนการตั้งค่าการแสดงผลแบบ 120Hz บน PS5 นั้นสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ตามขั้นตอนนี้เลยครับ

  1. Settings
  2. Save Data and Game/App Settings
  3. Game Preset
  4. Performance Mode
  5. เท่านี้ตัวเครื่อง PS5 ก็สามารถแสดงผลระดับ 120Hz ได้แล้ว (เฉพาะเกมที่รองรับ)

*ต้องตั้งค่าการแสดงผลที่ 1080p เท่านั้นเนื่องจาก PS5 ไม่รองรับการแสดงผลความละเอียด 2K ที่เป็น Native Resolution ของ Samsung Odyssey G7

สำหรับโหมดภาพแบบ SDR ที่ทางทีมงานแนะนำก็จะเป็นโหมดภาพที่ชื่อว่า sRGB ครับ จากการวัดค่าการแสดงผลด้วยอุปกรณ์ของทางทีมงาน (อ้างอิงโดยการ Off ตัวเลือก Dynamic Brightness) โหมดภาพดังกล่าวให้สมดุลแสงสีที่ดีที่สุดหากจะใช้อ้างอิงกับงานกราฟิก โดยค่าความผิดเพี้ยนของสมดุลแสงขาว (Grayscale Avg dE) อยู่ที่ราว 3.2 ถือว่าใช้ได้เลย

ค่าความสว่าง (จากแสง Backlight) จะถูกปรับมาสุดทุกโหมดภาพ กรณีที่รู้สึกว่าจ้าเกินไป ใช้ทำงานหรือเล่นเกมนาน ๆ แล้วล้าสายตา สามารถปรับลดความสว่างลงได้ที่ตัวเลือก Brightness

ขอบเขตสีของโหมดภาพ sRGB จะจูนมาเกินมาตรฐาน sRGB จริงๆ อยู่สักหน่อย (ค่อนข้างใกล้เคียง DCI-P3 มากกว่า) สีสันจึงดูฉูดฉาดไปบ้างหากจะนำไปใช้อ้างอิง แต่ค่าความผิดเพี้ยนสีโดยรวม (sRGB Saturation Avg dE) ที่ 3.5 นับว่าดี

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล Calibration Report>

โหมดภาพ sRGB จะล็อคค่าต่าง ๆ ไว้ ทำให้ไม่สามารถไฟน์จูนปรับภาพเชิงลึกได้ หากต้องการปรับภาพ (อย่างเช่น ชดเชย White Balance) ต้องทำที่โหมดภาพอื่น แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ดีกว่าโหมด sRGB อย่างมีนัยสำคัญครับ

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล Calibration Report>

โหมดภาพ HDR ก็ถูกล็อคค่าภาพไว้ ไม่สามารถปรับภาพเชิงลึกเช่นกัน และก็มีโหมดเดียวไม่สามามารถสลับไปโหมดอื่นได้ แต่จากการวัดค่าภาพแล้วถือว่าโหมดภาพ HDR ของ G7 ทำได้ค่อนข้างโอเคครับ โดยค่าความสว่างสูงสุด (HDR Peak Brightness – 10% Window) 486 nits ถือว่าเจิดจรัสสำหรับมาตรฐานมอนิเตอร์ และมีการแสดงผลที่ค่อนข้างเที่ยงตรง ค่าความผิดเพี้ยนแสงขาวเฉลี่ย (Grayscale Avg dE) อยู่ที่ 3.7 เท่านั้น ถือว่าน่าประทับใจ

HDR Colorspace ทำได้ครอบคลุม 90.69%/94.7% DCI-P3 (xy/uv) หรือเทียบเท่า 65.83%/70.45% Rec.2020 (xy/uv)

ส่วนของเรื่องการตอบสนองหรือ Response Time ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ Gaming Monitor นั้นในส่วนของ Samsung Odyssey G7 รุ่นนี้ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมโดยมีค่าการตอบสนองสุดยอดเยี่ยมที่ 1 ms เท่านั้น และมีค่า HDMI Input Lag (1080p 60Hz) อยู่ที่ 11.5 ms หากสัญญาณต้นทางสามารถกำหนดความละเอียด 1440p 240Hz ได้ Input Lag จะยิ่งต่ำลงอีก ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีมาก !!

ตอบสนองฉับไว สีสันดีเยี่ยม
สามารถเลือกอัตรา Response Time ได้หลายระดับ แต่สำหรับเกมเมอร์เราแนะนำให้เลือก Fastest (MBR) ไปเลย!!
ดูหนังก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กันจากขอบเขตสีที่กว้างและสีสันที่เที่ยงตรง
เล่นเกมตื่นตาตื่นใจกับ Samsung Odyssey G7