




สรุป
ข้อดี
1. ภาพสว่างสดใส สู้แสงได้ดีกว่า Plasma TV ตัวไหนๆ แทบไม่มีปัญหากับการรับชมในห้องนั่งเล่นปกติในประเทศของเรา
2. สีดำดำลึกกว่า Plasma TV รุ่นก่อนๆของ Samsung ทั้งหมด ก่อให้เกิดมิติภาพของวัตถุที่โดดเด้งกว่าใคร
3. ชุดคำสั่งของ Voice Control ทำให้การสั่งงานด้วยเสียง “ใช้งานได้จริง” กว่า Smart TV รุ่นก่อนๆ
4. กล้องเว็บแคม Built-In อเนกประสงค์ทั้ง Login ด้วยใบหน้าและเล่น Skype
5. มีแอพพลิเคชั่นมากที่สุดทั้งไทยและเทศ โหลดมาเก็บในเครื่องได้เยอะ
ข้อเสีย
1. การแสดงรายละเอียดในที่มืดยังไม่แจ่มแจ้งเท่าที่ควร
2. มุมมองแนวตั้งมีมืดลงไปหากไปดูใกล้ๆ
3. ขาตั้งปรับหมุนซ้ายขวาไม่ได้
4. Motion Control ถึงแม้มีการเพิ่มคำสั่งท่าทางใหม่ๆเข้าไป แต่ก็ยังมีตะขุกตะขักเวลาใช้จริงอยู่ดี
สรุป
Samsung PS64F8500 คือ Plasma TV ที่รวมข้อดีของ LED TV ที่สำคัญเข้าไปซึ่งก็คือเรื่องของความสว่างสดใสของภาพ สู้แสงภายนอกได้ค่อนข้างดี และก็ยังคงรักษามาตรฐานข้อดีของ Plasma TV ระดับไฮเอนด์อย่างการแสดงสีดำที่ดำสนิทเข้าไปอีกด้วย เติมเต็มความสมบูรณ์เรื่องภาพให้ก้าวข้อจำกัดเรื่องสภาพแวดล้อมในการรับชม ด้วยขนาดของจอที่ใหญ่ถึง 64″ ทำให้การรับชมนั้นมันส์สะใจกว่า Plasma TV ขนาดปกติอย่างพวก 50″ 55″ เป็นไหนๆ ลูกเล่นอย่างพวก Motion Control และ Voice Control ในเวอร์ชั่น 2013 ก็พัฒนาในทางที่ดีขึ้น ทั้งการรับคำสั่งเสียงและท่าทางที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกได้ไม่น้อยในการควบคุมสั่งงาน Smart TV ก็สรุปได้ว่า PS64F8500 คือ Plasma TV ระดับ “หัวหอก” ที่มาครบทั้งคุณภาพยันลูกเล่นพร้อมทั้งระดับราคาที่เอื้อมไหวสำหรับทีวีขนาดใหญ่เยี่ยงนี้ จึงต้องขอยกให้เป็นทีวีที่ “ดีที่สุด” ของ Samsung นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน