16 Jul 2020
Review

รีวิว Samsung QLED TV ขนาด 55 นิ้ว รุ่น Q60T ทีวีระดับกลางสุดคุ้ม ได้ Dual LED มี eARC แล้ว!


  • Dear_Sir

ภาพ

เพื่อให้ได้ภาพ และสีสันที่ถูกต้องเที่ยงตรงมากขึ้น ปีนี้ QLED TV ของ Samsung จึงได้ใช้เทคโนโลยี Dual LED มาเป็นส่วนประกอบ ว่าง่ายๆ รุ่นนี้จะมีไฟ LED Backlight ด้วยกันสองชุด ซึ่งไฟ LED Backlight แต่ละชุดก็จะมีการปรับจูนอุณหภูมิสีที่แตกต่างกัน โดยชุดแรกจะจูนสีมาในอุณหภูมิแบบโทนเย็น ส่วนอีกชุดจะเป็นแบบโทนอุ่น และเมื่อแสงไฟผ่านตัว Color Filter บวกกับการประมวลผลของตัวชิปภาพ จึงทำให้ภาพที่ทีวีถ่ายทอดออกมามีความเที่ยงตรงกว่ารุ่นก่อน 

แน่นอนครับว่านั่นคือหลักทฤษฏี การที่จะพิสูจน์ตรงนี้ได้แค่ดูด้วยตาอย่างเดียวมันไม่พอ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือปรับภาพในการวัดค่าด้วยว่าสิ่งที่เราเห็นเป็นสิ่งที่เราคิดจริงๆ โดยอุณหภูมิสีก่อนปรับภาพของโหมด Movie ในแบบ SDR อยู่ที่ 7152K ขณะที่โหมด Standard จะอยู่ที่ 6549K ถ้าดูเพียงแค่ตัวเลขดูเผินๆ โหมด Standard อาจจะดีกว่า แต่ในความเป็นจริง ภาพทั้งสองโหมดที่ทีวีแสดงออกมาไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก แต่โหมด Movie จะได้เปรียบกว่าตรงที่ค่า Brightness ถูกปรับไว้ที่ระดับ Max จึงทำให้แสดงรายละเอียดในที่มืดได้ดีกว่า ด้านขอบเขตสีก็สามารถแสดงได้กว้างถึง 98.1% ตามมาตรฐานของ Rec.709

ภาพแบบ SDR โหมด Standard ที่ติดมากับเครื่องเลยอุณหภูมิดีที่สุด
ในการปรับภาพทางเราใช้โหมด Movie ค่าที่ได้ถือว่าดีมาก อุณหภูมิสีอยู่ที่ 6603K ค่าความผิดเพี้ยนของสี ΔE เฉลี่ยแล้วได้ 0.7 ค่านี้ยิ่งต่ำยิ่งดีครับ

*สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่มีเครื่องมือปรับภาพ ขอแนะนำว่าให้ใช้โหมด Movie และปรับ Brightness ให้เหลือประมาณ 22-30 ก็พอครับ จากค่าเดิมที่ปรับไว้สูงสุด

แนวภาพมีความเป็นธรรมชาติสูง ดูได้เพลินตา

พอดูภาพแบบ SDR ไปแล้วก็อดลุ้นที่จะดูภาพแบบ HDR ไม่ได้ เพราะอยากรู้ว่า QLED TV ตัวเริ่มต้นจะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน ในการทดสอบได้ลองเปิดกับเรื่อง Godzilla King of the Monsters หากใครได้ดูเรื่องนี้มาก่อนจะทราบว่าภาพของเรื่องนี้จะอยู่ใน Dark Scene เยอะ และมีการเปลี่ยนสีสันฉากแทบจะตลอดเวลา เดี๋ยวแดงบ้าง เหลืองบ้าง ฟ้าบ้าง จุดประสงค์ก็เพื่อทดสอบการทำงานของ Dual LED ว่าทำงานได้แม่นยำแค่ไหน

การที่ Samsung เลือกเอา Dual LED มาใส่ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะนอกจากจะทำให้อุณหภูมิสีเที่ยงตรงแล้ว เรื่องขอบเขตสีรุ่นนี้ยังมากกว่ารุ่นเก่าด้วย โดยถ้าอ้างอิงจากมาตรฐาน DCI-P3 จากโหมด Movie พบว่าสามารถทำได้กว้างถึง 89.49% (รุ่นเดิม 86.9%) มีความผิดเพี้ยนของสีเพียง ΔE 2.3 ความสว่างอยู่ที่ราว 432nits ในช่วงฉากที่ฟ้าแลบ หรือตัวสัตว์ประหลาดพ่นไฟ ปล่อยพลังทั้งหลาย แสงที่พุ่งออกมามีพลังพอสมควร ส่วนเรื่องมุมมองด้านข้างก็ทำได้ดีเกินคาด เพราะถึงจะเป็นพาเนล VA ก็มีมุมมองที่กว้างครอบคลุมองศาบนโซฟาในห้องนั่งเล่นทุกมุม

ถึงภาพของเรื่องนี้ไม่ค่อยเคลียร์แต่เรื่องโทนสีนี่มาเต็มมาก เหมาะกับการทดสอบ Dual LED ว่าทำงานได้เร็วแค่ไหน
ฟ้าผ่า ฟ้าแลบสว่างวาบ ส่งผลให้ภาพรวมมีความสมบูรณ์ได้อรรถรส
สีสันแม่นยำ อุณหภูมิสีเที่ยงตรง

Samsung Q60T/Q65T มีฟีเจอร์ช่วยเรื่องภาพเคลื่อนไหวอยู่ด้วย ฟีเจอร์นี้เปิดมากไปก็จะส่งผลให้เกิดภาพหลอนติดตามวัตถุ เปิดน้อยไปก็จะดูไม่ลื่น จากการทดลองดูรุ่นที่เราเอามาใช้ทดสอบ ปรับ Judder Reduction สักระดับ 3-4 ถือว่ากำลังดี ภาพเคลื่อนไหวดูเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดภาพหลอน (Ghost) ส่วน LED Clear Motion จะเป็นการใช้เทคนิคแทรกเฟรมดำลงไปในภาพ หากเปิดใช้ความสว่างของภาพจะดรอปลง แลกกับภาพเคลื่อนไหวที่ลื่นขึ้น

ปรับ Judder Reduction สักระดับ 3
ภาพยนตร์แนวมิวสิคัลมีการแพนฉากบ่อย เหมาะกับการดูภาพเคลื่อนไหว

สำหรับคนที่เอาทีวีเพื่อไปใช้เล่นเกม โดยเฉพาะเมื่อเอาไปต่อกับเกมคอนโซล ตัวทีวีก็จะสามารถรู้ได้อัตโนมัติและจะทำการเปลี่ยนโหมดภาพเป็นโหมด Game โดยอัตโนมัติ (ยกเว้นเราจะไปปิด GameMode จาก Auto เป็น Off) ในโหมดนี้ตัวทีวีจะตัดฟังก์ชั่นที่ไม่จำเป็นออกไปทั้งหมด ทำให้ค่า Input lag ต่ำกว่าโหมดอื่นๆ เหลือเพียง 11.7ms แต่ถ้าเปิด Game Motion Plus ก็จะอยู่ที่ราว 22.5ms 

ปกติ Game Mode จะตั้งไว้เป็น Auto อยู่แล้ว
ถ้าอยากได้ Input lag ต่ำมากที่สุด อย่าลืมปิด Game Motion Plus
เกมต่อสู้แบบนี้จะต้องอาศัยการตอบสนองต่อคำสั่งที่ดี ถึงจะเล่นสนุก